แม้จะเป็นซีอีโอเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศไทย แต่ห้องทำงานใหม่ของ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” บอสใหญ่ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง ซึ่งอยู่บนชั้น 24 อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอารีย์ กลับดูเรียบง่าย ของประดับแทบจะนับชิ้นได้ ยกเว้นรูปครอบครัว ภรรยาและลูกสาวคนเดียว ที่ตั้งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน
เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียวคือโต๊ะทำงานขนาดใหญ่สีดำแซมน้ำตาล บนโต๊ะไม่มีทั้งโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเอกสารใดๆ บนโต๊ะ
ทองมา ไขข้อข้องใจว่าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ในห้องมีไว้แค่คุยงานกับลูกน้อง พร้อมกับด้วยการควักไอโฟนออกมาเพื่อบอกว่ายุคนี้ไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์ แค่ใช้มือถือก็สื่อสารได้แล้ว จน สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้งฯ ยืนยันว่า ด้วยประโยคที่ว่า “เดี๋ยวนี้ คุณทองมาเล่นไลน์แล้วนะ”
“ทองมา” ยังเฉลยว่า ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะนั่งทำงานอยู่มุมเล็กๆ ส่วนตัว ซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งห้องเหล่านี้จะอยู่ด้านหลัง เมื่อดูเผินๆ จะไม่รู้ว่าด้านหลังผนังห้อง ล้วนซ่อนเรื่องราวชีวิตการงานไว้มากมาย ภายใต้เหตุผลเดียวคือ รู้สึก “เงียบสงบ”
บริเวณโต๊ะทำงานเล็กๆ ที่อยู่ชิดฝาผนัง มีทั้งเอกสาร กระดาษ ดินสอ ปากกา เครื่องคิดเลข ไว้คิดคำนวณ และขีดเขียนยามที่มีไอเดียใหม่ๆ ผุดขึ้นมา
นี่คือห้องทำงานที่แท้จริงของซีอีโอระดับแสนล้าน “ทองมา” บอกว่า เขาจะเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศใหม่แค่ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เริ่มที่เวลา 10 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น
ในช่วงที่ก่อร่างสร้างตัวนั้น พฤกษาจะเช่าอาคารสำนักงาน แห่งแรกคืออาคารไอทีสแควร์ ย่านหลักสี่ เช่าอยู่ประมาณ 10 ปี ต่อมาได้ย้ายมาเช่าตึกเอสเอ็มทาวเวอร์ ริมถนนพหลโยธินเป็นแห่งที่ 2 และอยู่ที่นี่อีก 10 กว่าปี จนมาได้ที่ดินแปลงนี้ประมาณ 4 ไร่ ราคา ต่อตารางวาไม่แพงมากนัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เดิม โดยที่ดินผืนนี้เคยเป็นโชว์รูมรถเปอโยต์และเป็นที่ดินของพลตำรวจเอกประมาณ อดิเรกสาร
บริษัท ปาล์มเมอร์ สถาปนิกชื่อดัง ที่ออกแบบต้องใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่งกว่าจะออกแบบได้ถูกใจทองมา ซึ่งต้องการอาคารที่แตกต่างไปจากอาคารสี่เหลี่ยมธรรมดาทั่วไป อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ได้แรงบันดาลใจจาก “ไข่มุกรูปทรงเมล็ดข้าว” (Rice Pearl Dome) และในส่วนของโดมด้านหน้าได้แนวคิดมาจาก “หอยมุกมา–เบ ที่มีลักษณะกลมครึ่งซีก
ตัวอาคารจึงมีความโค้งมน ซึ่งมีความยากในการก่อสร้าง กระจกที่ติดอยู่กับอาคารต้องคำนวณขนาดอย่างแม่ยำเพื่อให้แต่ละส่วนประกอบเข้ากันได้พอดี กระจกที่ใช้กว่า 11,300 แผ่น ที่อยู่รอบอาคารจึงมีขนาดไม่เท่ากันเลย โดยใช้เงินก่อสร้าง 3,000 ล้านบาท หวังจะให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเมืองไทย จึงทุ่มเงินอีก 100 ล้านบาทติดตั้งระบบแสงสีเสียงเพื่อสร้างสีสันในโอกาสพิเศษต่างๆ
เวลานี้ มีธนาคารพาณิชย์ 7 แห่งมาเช่าเปิดสาขาแล้ว พฤกษายังทำเป็น Pruksa Open Home เป็นศูนย์บริการลูกค้าครบวงจรตั้งแต่จองซื้อจนถึงยื่นสินเชื่อ
จากวันนั้นถึงวันนี้ “พฤกษา” ดำเนินธุรกิจมาครบ 25 ปี พัฒนาที่อยู่อาศัยครบทุกตลาด ตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับ “ลักชัวรี” มีครบทุกสินค้า ตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม โดยส่งมอบบ้านให้ลูกค้าเฉลี่ยปีละ 20,000 ยูนิต และมีโครงการเปิดขายไปแล้วกว่า 1,000 โครงการ นับเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจอสังหาฯ
ล่าสุดพฤกษาได้ปรับ business model เพื่อสร้างความแตกต่างด้วยการลงทุนสร้างโรงพยาบาลวิมุตและคลินิกบ้านหมอวิมุต เพื่อเป็นการสร้าง “รายได้” ต่อเนื่อง แทนที่จะพึ่งพารายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดกลาง ที่ทองมามองว่า ยังมี ”ช่องว่าง” ตลาดอยู่อีก หากเก็บค่ารักษาเก็บไม่แพง โอกาสทางธุรกิจก็อยู่ไม่ไกล.