ยลโฉม Hi Fly สายการบินโปรตุกีส เปิดตัวเที่ยวบินปลอดพลาสติกครั้งแรกในโลก

ถือเป็น First Plastic-Free Flight หรือเที่ยวบินไร้พลาสติกไฟลท์แรกของโลกที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน เพราะ Hi Fly ถูกบันทึกว่าเป็นสายการบินแรกที่ให้บริการแบบไม่มีพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวชนิด 0% คาดเป็นโครงการนำร่องเพื่อขยายผลต่อไปในอีกหลายเที่ยวบิน

ไฟลท์ประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวปลายปี สายการบินแห่งโปรตุเกสอย่าง Hi Fly แจ้งเกิดเที่ยวบินโดยสารบนเครื่องบินเจ็ทไฟลท์แรกที่ไม่มีพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวผ่านเครื่อง Airbus A340 โดยนำผู้โดยสาร 700 ชีวิตจากเมืองลิสบอนไปยังนาตาล ซึ่งเป็นไฟลท์ทดลองนำร่องโครงการเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561

แทนที่จะใช้มีดช้อนหรือแก้วพลาสติก ผู้โดยสาร Hi Fly จะได้รับอุปกรณ์รับประทานอาหารที่ทำจากไม้ไผ่ ซึ่งมาพร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ และอุปกรณ์ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอื่น

ถ้วยแบ่งเนยก็ไม่ใช่พลาสติก

สิ่งของบนเที่ยวบินที่มักเป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวนั้นได้แก่ มีด ถ้วย จาน รวมถึงถุงกระดาษสำหรับผู้ต้องการอาเจียน (sick bag) ถุงบรรจุผ้าห่มหรือหมอน ถ้วยแบ่งเนย ขวดเครื่องดื่ม และแม้แต่แปรงสีฟัน ทั้งหมดนี้ถูก Hi Fly เปลี่ยนเป็นวัสดุที่ไม่ทำร้ายโลก ซึ่งพบว่าเที่ยวบินนำร่องนั้นสะท้อนผลตอบรับที่ดีมาก แถมยังทำให้รูปลักษณ์อาหารของ Hi Fly ดูแปลกตาในทางบวก

ทั้งหมดนี้ทำให้ Hi Fly เตรียมเปิดตัวเที่ยวบินเพื่อทดสอบเพิ่มเติมอีก 3 ไฟลท์ ในช่วงไม่กี่วันถัดจากการทดสอบครั้งแรก ซึ่งจะเป็นการลดการใช้พลาสติกรวมกว่า 350 กิโลกรัม (ประมาณ 770 ปอนด์) ได้ในเที่ยวบินทดลองทั้ง 4 ไฟลท์

Paulo Mirpuri ประธานสายการบิน Hi Fly ระบุว่าภารกิจของบริษัทตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษ์โลกอย่างยั่งยืน โดย Hi Fly ได้ร่วมมือกับมูลนิธิ Mirpuri เพื่อให้แน่ใจว่า Hi Fly มีวิถีการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับความรับผิดชอบที่กว้างขึ้นต่อโลกใบนี้

ตามเทรนด์แบรนด์ยักษ์

ความเคลื่อนไหวของ Hi Fly ถือเป็นจุดน่าสนใจในช่วงที่หลายแบรนด์ประกาศจุดยืนลดการใช้พลาสติกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Starbucks ก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมโดยให้คำมั่นว่าจะกำจัดหลอดพลาสติกให้เหลือ 0% ให้ได้

ไม่เพียงแบรนด์ด้านอาหาร แบรนด์อย่าง Adidas ก็ประกาศพันธกิจว่าจะใช้เฉพาะพลาสติกรีไซเคิล ในการผลิตสินค้าให่ได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า เท่ากับปี 2567 จะเป็นปีที่เราจะได้เห็นสินค้าของ Adidas มีความรักษ์โลกมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดศักราชให้แบรนด์อื่นเดินตามในวงกว้าง.

ที่มา