Police United บิ๊กดีล…บิ๊กธุรกิจ

สุดฮอต ! นับจากฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกระเบิดความนิยมให้กับคอบอลจนล้นทะลักสนามแล้ว สโมสรฟุตบอลของไทยได้กลายเป็นธุรกิจยอดฮิตที่นักธุรกิจต้องการเป็นเจ้าของ ไม่ต้องดูอื่นไกล “กมล เอี้ยวศิริกุล” เจ้าพ่อลีสซิ่งแห่งไมด้ากรุ๊ป ควักกระเป๋าเข้าลงทุน “ทีมสโมสรเพื่อนตำรวจ” โดยมี ยรรงยง อัครจินดานนท์ ซีอีโอ บริษัทเจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง ร่วมในดีลครั้งนี้

การมาของกลุ่มไมด้าในเกมฟุตบอล เป็นจังหวะเดียวกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานสโมสรเพื่อนตำรวจ ต้องการยกเครื่องทีมฟุตบอลสโมสรเพื่อนตำรวจ พัฒนาไปสู่การบริหารจัดการทีมฟุตบอลแบบมืออาชีพสามารถเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพิงงบประมาณจากรัฐบาล

ประสบการณ์ทางธุรกิจของ กมล เอี้ยวศิริกุล และ ยรรยง อัครจินดานนท์ ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารเอไอเอส ค่ายเพลงอาร์เอส จึงเป็นทางเลือกที่ลงตัวเข้ามาร่วมหุ้นลงขัน นำไปสู่การจัดตั้งบริษัท สโมสรฟุตบอลโล่ห์เงิน จำกัด (มหาชน) เพื่อทำธุรกิจเต็มรูปแบบ โดยกมลรับหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการดูแลภาพรวมธุรกิจ ส่วนยรรยงดูแลเรื่องระบบบริหารจัดการ การตลาด การหาสปอนเซอร์

“ในแง่ธุรกิจต้องเรียกว่าเป็น Rising Sun จุดแข็งของธุรกิจฟุตบอลอยู่ที่การสนองตอบคนได้ทุกระดับชั้น คนหนุ่มสาว ครอบครัว ซึ่งมีไม่กี่สินค้าที่เป็นแบบนี้ได้ และถ้ามองเป็นอีเวนต์ ก็เรียกว่าเป็นอีเวนต์ที่มีความต่อเนื่อง เร้าอารมณ์ อย่างจัดคอนเสิร์ตสักรอบก็ต้องเตรียมตัวเป็นปี แต่ฟุตบอลจัดต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สร้างความสนุกสนาน เร้าอารมณ์ได้ทุกนัด ยิ่งกว่าเรียลลิตี้เอเอฟอีก ปีหน้าการถ่ายทอดมากขึ้น น่าจะเป็น Key Success ทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น” ยรรยง บอกถึงเสน่ห์ของธุรกิจกีฬาฟุตบอล ที่ดึงดูดให้เขามาเข้าร่วม ตามคำชวนของกมล ซึ่งรู้จักกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ และชวนกันมาร่วมทำทีม

ในแง่ของเกมในสนาม ทีม Police United ถือเป็นอีกทีมที่มีฝีไม้ลายมือเพิ่งคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ไปครอง ได้ขึ้นชั้นไปแข่งไทยพรีเมียร์ลีกปีหน้า เป้าหมายคือการติด 1 ใน Top 5 อาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม เพราะจัดว่ามีเค้าหน้าตักพอสมควร ความต่อเนื่องของตัวทีมที่ทำมานาน มีการโค้ชระดับชาติ ชัยยง ขำเปี่ยม และนักฟุตบอลระดับทีมชาติ

แต่ในเกมธุรกิจ ยรรยงบอกว่ายังอยู่ช่วงเริ่มต้นต้องรอพิสูจน์รายได้ในอีก 1 ถึง 2 ปีข้างหน้า โจทย์ใหญ่ขณะนี้คือการเติม แง่มุมทางธุรกิจ นำระบบบริหารจัดการมาใช้พัฒนาทีม และกองเชียร์ จึงทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริงได้

ยรรยง บอกว่า ถ้าเปรียบเป็นสินค้าแล้ว “ทีมฟุตบอล” ไม่ต่างจากคอนซูเมอร์โปรดักต์ ที่ต้องมีการวาง Positioning เพื่อให้สินค้ามีความแตกต่าง และกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และแผนธุรกิจอย่างชัดเจน
เขามองว่า ความเป็นมืออาชีพที่ได้มาตรฐาน คือ “จุดขาย” สำคัญ สร้างความโดดเด่นให้กับ Police United แตกต่างจากทีมอื่นๆ

“ผมเชื่อว่ายังไม่มีใครชูในจุดนี้ การทำได้เกณฑ์มาตรฐานตามที่ไทยพรีเมียร์ลีกกำหนด กับการเป็นมืออาชีพมันต่างกัน มาตรฐานที่กำหนดเป็นเพียงการบริหารธุรกิจขั้นต้นเท่านั้น แต่ถ้าให้ก้าวไปสู่มืออาชีพต้องมีอะไรระบบบริหารจัดการที่ดี”

ความเป็นมืออาชีพในความหมายของยรรยง คือ การที่ลูกค้าหรือคนดู จับต้องได้จากสภาพสนามที่มีสภาพแวดล้อม สถานที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย นำระบบ CRM มาใช้สร้างสมาชิก ระบบตั๋วที่ใช้ระบบบาร์โค้ด มีกองเชียร์ที่ดี รวมถึง โค้ช นักฟุตบอล ที่ต้องมีระเบียบวินัย อยู่ในกติกา ทั้งหมดต้องอาศัยการบริหารจัดการที่ดี

ถ้าเป็นภาษาตลาด เรียกว่า เป็นการสร้าง Experience Marketing ให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่ดีร่วมกับแบรนด์ ซึ่งเกมการแข่งขันเปรียบเป็นอีเวนต์ ที่ให้คนดูได้อรรถรสในการเข้าชมมากที่สุด สะอาดปลอดภัย ลูกค้าหรือคนดูก็จะตามมา

จับลูกค้าคนชั้นกลาง
ลูกค้าเป้าหมายที่ทีมโพลิซยูไนเต็ดจะเป็นมัลติเซ็กเมนต์ 3 กลุ่มหลัก 1.กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 แสนนาย 2.กลุ่มคนในย่านปทุมธานี เนื่องจากเช่าสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จุคนได้ 2 หมื่นคนเพื่อใช้แข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกในปีหน้า 3.กลุ่มลูกค้า คนชั้นกลาง ที่เป็นกลุ่มคนทำงาน ซึ่งเป็น Newcomer ใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ

แต่ละกลุ่มจะมีวิธีการสื่อสารต่างๆ กันไป “ถ้าเป็นคนท้องถิ่น ก็ต้องใช้เคเบิลท้องถิ่น อาศัยคนในท้องถิ่น ส่วนถ้าเป็นนักธุรกิจ อาจซับซ้อนกว่านั้น ต้องใช้เครืองมือสื่อสารเข้าถึงเขา จะมีทั้งรูทสปอร์ต โฆษณาทีวี มี Tie- inในรายการทีวี มีเว็บไซต์ ใช้เครื่องมือโซเชียลเน็ตเวิร์ค hi5 Facebook ทวิตเตอร์ ทำแบบครบเครื่อง”

ส่วนกองเชียร์ และแฟนคลับ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นคนในท้องถิ่นที่ตั้งของสนามฟุตบอล ยรรยงจึงใช้วิธีการจับมือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับทีมปทุมธานีเอฟซี แบบทีมพี่ทีมน้อง เพื่ออาศัยฐานแฟนคลับและคนดูชุมชนต่าง ในย่านปทุมธานี เขตนิคมอุตสาหกรรม โรงงานในแถบรังสิตที่ทีมปทุมธานีเอฟซีมีอยู่อย่างเหนียวแน่น ต่อยอดสร้างกองเชียร์ และคนดูให้กับโพลิซยูไนเต็ดแบบ Shotcut ทันที ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์

ด้วยกลยุทธ์บริหารจัดการ และคนดูที่เป็นมัลติเซ็กเมนต์ ยรรยง เชื่อว่าจะเป็นใบเบิกทางนำไปสู่การหาสปอนเซอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา โดยจะเสนอวิธีการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับสินค้าหลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะสปอนเซอร์หน้าเก่าอย่างธุรกิจแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง

“เราจะทำให้สปอนเซอร์เห็นว่าพื้นที่ในสนามบอล เป็นอีเวนต์ใหญ่ที่มีคนดูเป็นหมื่น ทุกคนเข้ามาด้วยความคิดเชิงบวก มาสนุกสนาน แบรนด์ต่างๆ สามารถใช้พื้นที่นี้ทำกิจกรรมกับกลุ่มคนดูในสนาม ซึ่งเราอนุญาตให้ทำ ขึ้นอยู่กับว่าเขาเลือกทำแบบไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นป้ายโฆษณาบนขอบสนามเสมอไป หรือบนหน้าอกเสื้อนักฟุตบอลเสมอไป”

การเปิดกว้างในเรื่องกิจกรรม เพื่อเปิดกว้างให้กับสินค้าหลากหลายมากขึ้น เป็นได้ทั้งสินค้าสุขภาพ สินค้าครอบครัว ฟาสต์ฟู้ด อสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง สินค้าผู้ชาย สามารถเลือกได้ทั้งสร้างแบรนด์ เพื่อแกปัญหาในเรื่องของการที่สปอนเซอร์ให้น้ำหนักเฉพาะทีมชนะเลิศเท่านั้น

“สปอนเซอร์ส่วนใหญ่ มักจะเลือกแต่ทีมชนะอันดับ 1 เท่านั้น ซึ่งถ้าเลือกแบบนี้ก็ต้องจ่ายหนัก เพราะที่ 1 มีทีมเดียว แต่ยังมีหลายทีมที่คนดูเหนียวมาก แต่ไม่ได้เข้ารอบ ดูอย่างทีมสโมรสรราชนาวี ระยอง คนดูเยอะตลอด แต่อยู่อันดับ 14 ขึ้นอยู่กับว่าสินค้าคุณคืออะไร ต้องการทำอะไรกับมัน

เขาหวังไว้ว่า ไทยพรีเมียร์ลีกปีหน้า จะเป็นจุดเริ่มต้นการเติบโตของรายได้ ทั้งจากตั๋วเข้าชม ของที่ระลึก และสปอนเซอร์ โดยมีคีย์แฟกเตอร์สำคัญ คือ จากการถ่ายทอดสด ที่จะทำให้ความนิยม “ฟุตบอลลีก”ไปได้อีกไกล และหากเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ เขาหวังว่ารายได้จากค่าตั๋ว ของที่ระลึก และสปอนเซอร์ จะเข้ามาและถึงจุดคุ้มทุนภาย 3 ปี และที่สำคัญการเข้าระดมในตลาดหลักทรัพย์
“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากทำทีมอย่างให้เป็นอย่างลิเวอร์พูลมีแฟนคลับเหนี่ยวแน่น แต่อยากเป็นทีมประสบความสำเร็จทั้งทีม และธุรกิจเหมือนกับแมนฯ ยู” ยรรยง บอกทีมในฝัน

ขุมกำลัง
ชื่อทีม สโมสรฟุตบอลโล่ห์เงิน จำกัด
ฉายา สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน
บริษัท บริษัท สโมสรฟุตบอลโล่ห์เงิน จำกัด (มหาชน)
สัดส่วนถือหุ้น ตำรวจ 60% คนทั่วไป (กมล-ยรรยง) 40%
ประธานสโมสร พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา
ผู้จัดการทีม พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนาปาณี
โค้ช พ.ต.ต.ชัยยง ขำเปี่ยม
จำนวนนักเตะ 25 คน ปีหน้าจะเพิ่มนักฟุตบอลจากเอเชีย
สนาม เช่าสนามกีฬาธรรมศาสตร์รังสิต
อันดับปัจจุบัน (ฤดูกาล 2552) : แชมป์ดิวิชั่น 1
ผลงานปี 2551 (ฤดูกาลที่แล้ว) : อันดับ 4 ดิวิชั่น 1
แฟนคลับ ใช้ฐานคนดูและกองเชียร์ของทีมปทุมธานี ยูไนเต็ด มาต่อยอดกองเชียร์ และคนดูให้กับทีม
กลุ่มเป้าหมาย : ตำรวจ 2 แสนคน, คนอาศัยอยู่ในแถบปทุมวัน และคนชั้นกลางและคนทำงาน
สื่อ : TVC, Tie-in รายการทีวี, อินเทอร์เน็ต, SMS, Facebook, Twitter