ระวัง! รัฐประหาร – สูญเสียผู้นำ อบายมุขพุ่ง

“ในปี 2553 นี้ เราจะเห็นว่าผู้หญิงจะเข้ามามีบทบาทในทุกๆ วงการ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข สิ่งผิดกฎหมาย ธุรกิจกลางคืน การท่องเที่ยว จะรุ่งเรืองมาก ในขณะที่การเมืองการปกครองยังคงเกิดความขัดแย้งกันต่อไปจนถึงสิ้นปี และจะเกิดความรุนแรงถึงขั้นปะทะกันเป็นระยะๆ”

ส่วนการเมืองจะวุ่นวายอันเนื่องมาจากจะเกิดการประท้วงหยุดงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร การขนส่ง เช่น กระทรวงคมนาคม กรมกองต่างๆ การขนส่ง การสื่อสาร การรถไฟ เป็นต้น เกิดอาชญากรรมขึ้นจำนวนมาก โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก และจะมีความยุ่งยากในวงการศาสนา วงการการศึกษา กฎหมาย และการแพทย์” อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายดวงเมืองในปี 2553

สูญเสียคนดัง
วันเริ่มต้นศักราชตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ไปจนถึงวันสิ้นปี 31 มกราคม 2553 ไทยจะสูญเสียบุคคลที่มีชื่อเสียงทาง ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางเศรษฐกิจ จะเกิดการลอบสังหาร รัฐประหารและการปะทะกันระหว่างคนในสังคมจนถึงขั้น “เสียเลือดเสียเนื้อ” กันเลยทีเดียว

ระวังวิกฤตซ้ำรอยปี 40
นับจากวันที่ 2 กันยายน 2552 ไปจนถึง 2 กันยายน 2554 ให้จับตา “ปัญหาทางการเงิน การคลัง” ที่เริ่มสั่นคลอนและอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจเหมือนกับที่เคยเกิดมาแล้วในปี 2540 แต่อย่างไรก็ตาม ในด้านดี เราจะค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน สายแร่ทองคำ ในระหว่างต้นปี 2553 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2554 โดยบังเอิญ จะสามารถช่วยวิกฤตทางการเงิน การคลังของประเทศได้อย่างไม่น่าเชื่อ

4 พฤศจิกายน 2552 ถึงปลายปี 2553 วงการศาสนา กฎหมาย การศึกษา วงการแพทย์ จะถูกอิทธิพลดาวราหูคุมทำให้เกิดความมัวเมาลุ่มหลง เกิดความขัดแย้งในวงการพระศาสนา วงการการศึกษาระดับสูง และกฎหมายจะมีปัญหา โดยเฉพาะการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนโยบายของชาติ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคม 2553 จะเกิดปัญหาทางด้านการเมืองอันเนื่องมาจากการเกิด “อุปราคา” ขึ้นถึง 3 ครั้ง ซึ่งอิทธิพลนี้จะส่งผลมากต่อวงการการเมือง และมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการยุบสภาขึ้นในช่วงนี้

สูญเสียผู้นำหญิง
3 ตุลาคม 2552 ถึง 28 พ.ค. 2553 ดาวอังคารจะเข้าสู่มีน จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับ “อุทกภัยและวาตภัย” ซึ่งจะสร้างความเสียหายทั่วไป เกิดการสูญเสียบุคคลชั้นนำที่เป็นผู้หญิง คนที่เกิดในวันจันทร์ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะจะได้รับผลกระทบจากจุดนี้มากกว่าคนเกิดวันอื่นๆ จึงต้องดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุด โดยต้องหมั่นเข้าวัดทำบุญ รักษาศีลภาวนาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น อิทธิพลของดาวอังคารยังทำให้ช่วงดังกล่าว ไทยจะมีการกระทบกระทั่งกับประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ทั้ง 4 ทิศ คือ กัมพูชา เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย เริ่มจากการกระทบกระทั่งทางการทูตก่อน ค่อยเพิ่มระดับถึงขั้นทางการทหาร แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงนองเลือด และจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นในเดือนช่วงต้นธันวาคม 2553

นอกจากนี้ จะเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง ทุกๆ ทางจะเกิดปัญหาความขัดแย้งรุนแรง ปัญหาหยุดงานประท้วงและเกิดอุบัติเหตุที่สร้างความสูญเสียหนักเบาคละเคล้ากันไป ทั้งนี้ รวมไปถึงการหยุดชะงักของโครงการการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมทั้งหมด

ล้อมกรอบ
มกราคม : เป็นเดือนที่เกิดอุปราคาในวันที่ 1 มกราคม ทำให้ทั้งเดือนมีแต่ความยุ่งยากสลับซับซ้อน กรรมกรผู้ใช้แรงงานนัดหยุดงานประท้วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร การขนส่ง เช่น กระทรวงคมนาคม กรมกองต่างๆ การขนส่ง การสื่อสาร การรถไฟ เป็นต้น

กุมภาพันธ์ : เนื่องจากการเกิดอุปราคาในช่วงต้นปียังส่งผลอยู่จะทำให้ผู้ปกครองประเทศประสบกับปัญหา อาชญากรรมที่เกิดขึ้นจำนวนมาก รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก เกิดความยุ่งยากในวงการศาสนา การศึกษา กฎหมาย และการแพทย์ รวมไปถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวทั้งทางทะเล ทางพื้นดินและทางอากาศ ดังนั้นการเดินทางจึงควรระมัดระวังอย่างยิ่ง

มีนาคม : จะเกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างฉับพลัน ทำให้เกิดลมพายุทำลายล้างรุนแรง หนาวจัด การเดินทาง การขนส่ง ติดต่อสื่อสาร การบินเกิดปัญหา รัฐสภาจะตกต่ำถูกครอบงำโดยผู้มีอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากในการร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา คณะพรรคการเมืองมีการแตกแยกอย่างชัดเจน

เมษายน : ปัญหาความขัดแย้งจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลทั้งกับพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายตรงข้าม นำความยุ่งยากให้กับผู้นำ บุคคลสำคัญ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลตลอดจนประชาชน ในเดือนนี้ทำให้เกิดความผันแปรครั้งสำคัญทางการเมือง และการค้าได้รับผลกระทบกระเทือน

พฤษภาคม : จะเกิดความยุ่งยากอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและน้ำอุปโภคบริโภค น้ำที่ใช้ในการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตรยังเป็นปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข โลกธุรกิจถูกก่อกวนหรือถูกกระทบกระเทือน รัฐบาลมีคะแนนนิยมตกต่ำลงเพราะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลังสุขภาพของประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนถูกกระทบกระเทือน สร้างความอับโชคให้กับรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รัฐบุรุษ และบางครั้งกับผู้นำในระดับสูง มีปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศแปรปรวนติดตามมา

มิถุนายน : ระวังปัญหาอัคคีภัยและไฟไหม้ครั้งสำคัญ ทำให้จิตใจของพวกผู้ชายวุ่นวาย เกิดเหตุการณ์สาธารณะที่ตื่นเต้น จากการก่อกวน การมีปากเสียง เกิดเหตุฆาตกรรมสำคัญ บางครั้งเกิดการปะทะของกองกำลังต่างๆ และอาจเกิดภัยสงคราม กองทัพเคลื่อนไหวคึกคัก เกิดการตายของประชาชนและบุคคลสำคัญในระดับสูง อากาศยังร้อนจัด ฝนแล้ง มีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องไฟและน้ำในโครงการต่างๆ และมีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น ประชาชนถูกกระทบกระเทือนในการดำรงชีวิต

กรกฏาคม : มีปัญหายุ่งยากในการร่างกฎหมาย กฎหมายหลายฉบับมีปัญหา พรรคการเมืองต่างๆ มีการแตกแยกอย่างชัดเจน มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวนและผันแปร เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือพันธไมตรีกับมิตรประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศจะขาดความนิยม จะมีผู้นำในระดับสูง ผู้ปกครองที่ดำรงอำนาจอยู่จะเกิดอันตราย บุคคลที่มีชื่อเสียงจะป่วยหนักหรือถึงแก่กรรม

สิงหาคม : ปัญหาทางด้านการเมืองระหว่างประเทศธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับต่างประเทศ การคมนาคม การติดต่อสื่อสารจะยังคงมีปัญหา ส่วนกองทัพกองกำลังมีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด จะมีปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน นำความอับโชค ความเศร้าโศก ความเสื่อมโทรมมาสู่สังคม โรงพยาบาล โรงงาน สถานการณ์กุศล อาจถูกกระทบกระเทือน มีอาชญากรรมลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้น

กันยายน : เกิดปัญหาและความยุ่งยากเกี่ยวกับการการเงิน การธนาคาร เศรษฐกิจจะถูกรบกวนจากปัจจัยภายในและภายนอก การส่งออกจะมีปัญหา และในช่วงนี้อาจจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการค้นพบขุมทรัพย์ใต้ดินโดยบังเอิญ

ตุลาคม : จะเกิดปัญหาความยุ่งยากในวงการสื่อสารมวลชน หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ นักเขียน ผู้พิมพ์โฆษณาและนักจัดรายการทางสื่อมวลชนต่างๆ การเดินทาง ติดต่อ ขนส่ง สื่อสาร และการศึกษา ซึ่งคนในวงการที่กล่าวมาแล้วให้ระวังจะอุบัติเหตุได้ง่าย

พฤศจิกายน : ในช่วงเดือนนี้จะเกิดวิวาทะมีความคิดเห็นที่รุนแรงพร้อมๆ กันไปกับการใช้กำลังอาวุธ มีปัญหาด้านการเงินและความรัก เกิดการวิวาทะอย่างรุนแรงแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความศรัทธา ความคิด เกิดการเป็นปฏิปักษ์ต่อวงการศาสนา ปรัชญา นักบวชเกิดการแตกแยก เป็นต้น

ธันวาคม : คนวงการบันเทิง ศิลปินมีปัญหา เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการ มีการฉกฉวยอารัดเอาเปรียบทางการค้าเกิดขึ้นทั่วไป ก่อให้เกิดปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาระหว่างนายทุนกับกรรมกรและผู้ใช้แรงงาน มีการนัดหยุดงานปรากฏให้เห็นทั่วไป คนว่างงานมากขึ้น งานบริการงานรื่นเริงบันเทิงใจที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด สุขภาพประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชนถูกกระทบกระเทือน อบายมุขจะเฟื่องฟู คนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ ทำเกิดให้เกิดปัญหาสังคมเกิดขึ้นตามมามากมาย

“คำพยากรณ์เป็นเพียงการคาดการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่จะเป็นเครื่องเตือนภัยได้เป็นอย่างดี เมื่ออนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เรารู้ล่วงหน้าจึงน่าจะสามารถเปลี่ยนแปลง บรรเทา ป้องกัน และแก้ไขอนาคตได้บ้างไม่มากก็น้อย” อาจารย์ภิญโญ กล่าว

ตรวจสอบคำทำนาย

อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ ทำนายให้กับสื่อหนังสือพิมพ์ในช่วงการเลือกตั้งปี 2548 ว่า รัฐบาลที่นำโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่ไม่ครบเทอมและจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบคาดไม่ถึง 19 กันยายน 2549 เกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้น

เดือนมกราคม2551 ให้สัมภาษณ์กับ “ผู้จัดการรายสัปดาห์” ว่า ในช่วงปลายปี 2551 จะเกิดความขัดแย้งทางการเมืองถึงขั้น “เลือดตกยางออก วันที่ 7 ตุลาคม 2551 เกิดเหตุการณ์ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มพันมิตรทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

เดือนตุลาคม 2551 ทำนายว่าจะเกิดการจลาจลในบ้านเมือง และจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองชนิดแบบคาดไม่ถึง เหตุการ “สงกรานต์เลือด” ปี 2552 และการหันมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย