ธุรกิจการผลิตส่วนใหญ่อาจจะใช้เว็บและอินเทอร์เน็ตเป็นเพียงสื่อหนึ่งในแผนการตลาด แต่ยังมีบางรายที่เว็บเป็นเสมือนกระดูกสันหลังของกิจการมาตั้งแต่แรก เช่น muaythaistuff.com ของบริษัท Tuff Company ที่ขายปลีกกางเกงมวยไทย เสื้อ นวม เป้าซ้อม สนับแข้ง ฯลฯ ส่งผ่านบริการอย่าง UPS และ DHL ไปยังสหรัฐฯและยุโรปโดยรับเงินผ่าน Paypal ส่วนช่องทางหลักแทบจะหนึ่งเดียวในการโฆษณาสินค้าก็คือ Adwords ของกูเกิลนั่นเอง
วุฒินันท์ สังข์อ่อง ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท Tuff Company ลองผิดลองถูกกับอีคอมเมิร์ซตั้งแต่ปี 2002 หลังจากตัดสินใจลาออกจากงานประจำ โดยทิ้งปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และงานประจำตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ไว้เป็นอดีต ออกเดินสำรวจถนนข้าวสาร ประตูน้ำ สืบเสาะว่าชาวต่างชาติสนใจและชอบซื้อสินค้าแบบไหนกัน ก่อนจะบุกไปยังแหล่งเพื่อรับมาขายผ่าน EBay ก่อนจะพบแต่ความขลุกขลักจากการที่ PayPal ไม่รองรับประเทศไทยและอีกหลายอุปสรรค จนวุฒินันท์ตัดสินใจหยุดพักไว้แล้วไปเรียนต่อโทด้าน IT for Manufacture ที่มหาวิทยาลัย Warwick อังกฤษ
เมื่อเรียนจบ วุฒินันท์กลับสู่โลกการค้าออนไลน์อีกครั้งกับแผนการใหม่ สานต่อความสนใจตั้งแต่เด็กๆ ของเขากับน้องชายทั้งสองที่เคยหุ้นกันซื้อกระสอบทราย นวม และเป้าซ้อมมาเตะต่อยกันเล่นในบ้าน เพราะเขาพบว่าฝรั่งมี Demand ความต้องการอุปกรณ์ประเภทนี้อยู่ไม่น้อย ทั้งใช้เล่นออกกำลังตามบ้าน และใช้แข่งจริงจังตามโรงเรียนสอนมวยไทย, คิกบ๊อกซิ่ง และฟิตเนส
วุฒินันท์จึงตั้งเว็บ muaythaistuff.com ขึ้นมาเป็นตัวแทนขายอุปกรณ์มวยไทยไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งคราวนี้ PayPal รองรับประเทศไทย และปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เอื้อต่ออีคอมเมิร์ซมากขึ้น และบริษัท Tuff Company ที่พ้องเสียงกับทั้งคำว่า “Tough” ที่แปลว่าอึด แข็งแกร่ง และพ้องกับชื่อเว็บด้วย และเมื่อ MuaythaiStuff เติบโตขึ้น วุฒินันท์รีบผันตัวเข้าสู่ธุรกิจการผลิต แตกไลน์เป็นแบรนด์ Kombat สำหรับสินค้ามวยที่ผลิตเอง และแบรนด์ “Tuff” สำหรับเสื้อยืดใส่ทั่วไปแต่เป็นลายเกี่ยวกับมวยไทย
ก่อนรู้จัก Adwords นั้น วุฒินันท์สนใจศึกษาการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับเสิร์ชสูงๆ ที่เรียกว่า SEO (Search Engine Optimization) มาก่อน แต่เมื่อพบว่าการทำ SEO นั้นต้องใช้เวลานานถึงจะเห็นผล ไม่แน่นอน และควบคุมผลได้ยาก จึงหันไปใช้ Adwords ซึ่งตอบโจทย์ผู้ส่งออกอย่าง MuaythaiStuff ได้ทั้งหมด เช่นการเลือกประเทศเป้าหมาย เลือกเวลาแสดงโฆษณา นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันการถูกคลิกซ้ำๆ ที่ทำให้เสียเงินมากเกินเหตุ ที่เรียกว่า “Click Fraud” อีกด้วย
ปีแรกของการลองใช้ผ่านไป วุฒินันท์คิดว่าแบรนด์และสินค้าคงจะเดินต่อไปได้เองแล้ว และพบว่าผู้ชมที่คลิกมาจาก Adwords นั้นไม่ค่อยสั่งซื้อเท่าไร จึงหยุดแคมเปญ Adwords ไว้แค่นั้น ผลปรากฏว่ายอดขายตกลงฮวบฮาบ วุฒินันท์สรุปบทเรียนว่า “คนส่วนใหญ่เห็นโฆษณาแล้วรับรู้ไว้ แต่ไม่ซื้อทันที และก็มีมากที่ไม่คลิกโฆษณา แต่เข้ามากดสั่งซื้อเองทีหลัง ซึ่งถ้าหยุดโฆษณา ส่วนนี้ก็หายไปด้วย”
หลังจากนั้น วุฒินันท์หันมาให้ความสำคัญกับ Adwords อย่างจริงจัง และด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ผลปรากฏว่ารายได้ส่วนใหญ่ที่ได้รับมาจากโฆษณาบนกูเกิล Adwords ชนิดที่ขาดไม่ได้ โดยมีออเดอร์ส่งไปขายทั้งในสหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป
“คำไหนถูกคลิกโฆษณามาก ก็จะเพิ่มงบให้คำนั้นมากขึ้น โดยแคมเปญทุกแบ่งเป็นกลุ่มๆ อย่างละเอียดรองรับ muaythaistuff.com, kombatgear.com, และ tuffclothing.com แต่แม้จะใช้มาหลายปี แต่ก็ยังต้องเรียนรู้ไปปรับแต่ง ไปแบบ “Trial & Error” อยู่เรื่อยๆ ตามเทรนด์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด
ทุกวันนี้ วุฒินันท์ใช้น้องชายทั้งสองเป็นผู้บริหารช่วยงานต่างๆ ทั้ง ศุภนันท์ มือเบสวง Buddhist Holiday ดูแลงานอาร์ตเวิร์คและกราฟิกทั้งหมดทั้งบนสินค้าและบนเว็บไซต์ และ ธัชนันท์ ดูแลเว็บไซต์ ระบบคอมพิวเตอร์ในโรงงาน และระบบไอทีทั้งหมด และกระสอบทรายลูกเดิมที่ทั้ง 3 เล่นเตะต่อยด้วยกันมาแต่เด็กก็ถูกย้ายไปแขวนที่โรงงานให้สามพี่น้องและพนักงานทุกคนที่สนใจมาออกแรงได้เสมอ