หลังจากเคยนั่งเป็นผู้บริหาร “โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์” มา 20 ปี ระหว่างปี 2535-2555 วันนี้ “ธงชัย บุศราพันธ์” หวนคืนสู่โนเบิล อีกครั้งในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับที่ 2 สัดส่วน 23.3% มาพร้อมผู้ลงทุนใหม่ “ฟัลครัม โกลบอล” และ “บีทีเอส กรุ๊ป”
วันนี้ (25 เมษายน 2562) บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE) ประกาศโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ 3 ราย ได้แก่
- ธงชัย บุศราพันธ์ นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และอดีตผู้บริหารโนเบิล ถือหุ้น 23.3% ในอดีต ธงชัย เคยเป็นผู้บริหารโนเบิล ระหว่างปี 2535-2555 โดยเป็นหลานน้าของ กิตติ ธนากิจอำนวย ผู้ก่อตั้งโนเบิล
หลังออกจากโนเบิล ในปี 2556 ธงชัย นั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรสซิเดนซ์ จำกัด ซึ่งตระกูล “ลิปตพัลลภ” ถือหุ้น 70% ร่วมกันพัฒนา โครงการพาร์ค 24 ทำเลสุขุมวิท 24 มูลค่าโครงการ 15,000 ล้านบาท ในปี 2560 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท พราว เรสซิเดนซ์ มูลค่า 4,000 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดคอนโดมิเนียมไฮเอนด์
- ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล (Fulcrum Global Capital) ซึ่งมี แฟรงค์ เหลียง เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้ามาถือหุ้นโนเบิล 24.9% ผ่านการลงทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอ็นคราวน์ จำกัด (nCrowne) สำหรับ ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล เป็นกองทุน Private Equity ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก โดยดูแลโครงการใน สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น และประเทศไทย
3.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTSG) ถือหุ้น 9.9% เป็นการลงทุนเพื่อการบริหารเงินออม (Treasury Investment) ของทางกลุ่ม BTS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชน ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ปรับโครงสร้างผู้บริหาร
จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ 3 ผู้ถือหุ้นใหม่ “โนเบิล”ได้ประกาศปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่มีผลวันที่ 25 เมษายน ดังนี้
- กิตติ ธนากิจอำนวย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) จากรายงานตลาดหลักทรัพย์วันที่ 25 เมษายน 2562 กิตติ ถือหุ้นโนเบิล 18.86%
- ธงชัย บุศราพันธ์ นั่งตำแหน่งประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ
- แฟรงค์ เหลียง ตำแหน่งรองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม
โดย ธงชัย จะดูแลการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและตึกสูงของโนเบิล ส่วน แฟรงค์ เหลียง จะร่วมบริหารงานในภาพรวมด้วยกันโดยจะเน้นเรื่องการดำเนินการการตลาดและการลงทุนในต่างประเทศ
วางเป้ารายได้“หมื่นล้าน”
สำหรับผู้บริหารใหม่วางเป้าหมายผลักดันโนเบิล เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีเป้าหมายเพิ่มยอดรับรู้รายได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า
พร้อมรุกขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ โดยไตรมาสแรก ปี 2562 เพิ่มสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศจาก 10% เป็น 40% ของยอดขาย
นอกจากนี้มีแผนขยายโครงการในทำเลใหม่ๆ ที่อยู่ติดเส้นทางรถไฟฟ้า ด้วยการเปิดแบรนด์ใหม่ ที่ระดับราคา 100,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร โดยมีการลงทุนซื้อที่ดินแต่ละปีราว 3,000 ล้านบาท
ปัจจุบันโนเบิลพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้วกว่า 47 โครงการ โดยมีโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา 8 โครงการ