“One Bangkok” (วัน แบงค็อก) ถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเมืองไทย โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีมูลค่าการลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ระหว่าง “ทีซีซี แอสเซ็ท” และ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์”
ตั้งอยู่บนพื้นที่ 104 ไร่ บนหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระรามสี่ ซึ่งเดิมที่ตั้งของโรงเรียนเตรียมทหารและสวนลุมไนท์บาซาร์ ก่อนที่ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” จะประมูลชนะ ได้สิทธิ์เช่าทั้งหมด 60 ปี จากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
ตามแผนของ “เจ้าสัวเจริญ” ภายในโครงการประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอระดับพรีเมียม 5 อาคาร โรงแรมหรูที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ 5 โรงแรม ที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ 3 อาคาร พร้อมด้วยพื้นที่รีเทล 4 โซน ส่วนแรกของโครงการจะเริ่มเปิดให้บริการภายในปี 2022 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2025
ระหว่างนี้ก็ได้มีการทยอยเปิดตัวรายละเอียดของสิ่งก่อสร้างที่จะปรากฎในโครงการโดย 1 ใน 5 ของโรงแรมที่อยู่ในโครงการ ได้ถูกระบุว่าจะอยู่ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ริทซ์–คาร์ลตัน” หนึ่งในแบรนด์หรูระดับ 6 ดาวของเครือ แมริออท อินเตอร์เนชั่น
โรงแรมแห่งนี้ใช้ชื่อว่า “The Ritz-Carlton, Bangkok” โดยเป็นแห่งแรกของแบรนด์เดอะ ริทซ์–คาร์ลตันในกรุงเทพ และแห่งที่ 3 ในเมืองไทยต่อจากโรงแรมเดอะ ริทซ์–คาร์ลตันในเกาะสมุย และภูเลย์เบย์ อะ ริทซ์–คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ (A Ritz-Carlton Reserve)
ใช้งบลงทุนทั้งหมดกว่า 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ชั้น 1 ถึงชั้น 25 ของอาคารสูง 50 ชั้น มีความสูงโดยรวม 250 เมตร ประกอบด้วยห้องพัก 259 ห้อง, ห้องชุดสวีท 32 ห้องและห้อง Ritz-Carlton Suite เพียง 1 ห้อง ออกแบบตามคอนเซ็ปท์เออร์เบินรีสอร์ท (Urban Resort) ในสไตล์ร่วมสมัยผสานกลิ่นอายความเป็นไทย
โดยจะเปิดให้บริการในปี 2023 คาดจะมีผู้เช่าพักเป็นชาวต่างชาติ 60-70% ที่เหลือเป็นชาวไทยส่วนราคายังไม่ได้เปิดเผยบอกเพียงเหมาะสมกับพื้นที่เท่านั้น
สำหรับอีก 25 ชั้นที่เหลือในอาคารเดียวกับโรงแรม จะถูกสร้างเป็นที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury ขณะนี้อยู่ในระหว่างพัฒนาแบบ เปิดเผยคร่าวๆ จะมีทั้งหมด 110 ห้อง ขนาด 2 – 4 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 130 ตารางเมตร
ซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ One Bangkok กล่าวว่า
“สำหรับที่พักคาดว่าจะเปิดขายในปีนี้ โดยเราตั้งใจจะบริหารเอง ไม่จ้างเชนอื่นๆ มาดูแล สำหรับรายละเอียดส่วนอื่นๆ ของโครงการ จะทยอยเปิดเผยออกมาเป็นระยะๆ”
จริงๆ แล้วแบรนด์เดอะริทซ์–คาร์ลตัน มีส่วนบริหารที่พักอาศัยเช่นเดียวกัน แต่ว่าแบรนด์ “เดอะ ริทซ์–คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส” ได้ถูกใช้ไปเรียบร้อยแล้วที่ “โครงการมหานคร” ซึ่งปัจจุบันเจ้าของคือคิงเพาเวอร์ จึงไม่ได้ถูกใช้ที่นี่ อีกอย่าง “เฟรเซอร์ส” หนึ่งในผู้ร่วมลงทุนมีประสบการณ์ดูแลที่พักอาศัยอยู่ในแล้วในสิงคโปร์ จึงนำ Know-how มาใช้ที่นี่ด้วย
ด้าน “แมริออท อินเตอร์เนชั่น” ในเมืองไทยมีโรงแรมและรีสอร์ทกว่า 44 แห่ง (ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโรงแรมระดับลักชัวรี่ 12 แห่ง)โดยมีแผนที่จะเปิดที่พักใหม่มากกว่า 20 แห่ง ภายในปี 2020 ตั้งเป้าที่จะเปิดโรงแรมเพิ่ม 5 แห่ง ที่พัทยา เขาหลัก ภูเก็ตและกรุงเทพฯ โดยตั้งหมายที่เครือแมริออทได้ตั้งไว้ในเมืองไทย คือการเติบโตขึ้น 50%