The real estate network

บรรดานักท่องเว็บที่ต้องการมีบ้าน และนิยมหาข้อมูลทางออนไลน์ น้อยคนนักที่ไม่รู้จักเว็บไซต์ homedd.com หรือถ้าใครเป็นสาวก แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คงไม่พลาดเว็บ lh.co.th เป็นผลงานของทีมงานเล็กๆ5 คน ภายใต้การนำของ “ศุภรัชฏ์ วีระกุล ที่กำลังโลดแล่นเข้าสู่โลกออนไลน์เต็มสปีด

Log on…

ถ้าไม่มีวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” เมื่อ 12 กว่าปีที่แล้ว ถนนสายออนไลน์ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อาจยังไม่เห็นผลเหมือนกับวันนี้

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เข้าสู่โลกของอินเทอร์เน็ตในยุคทีดอทคอมยังเพิ่งตั้งไข่ มีผู้ใช้เพียงไม่กี่ราย แต่ทำได้พักเดียวก็ต้องเลิกไป เพราะคนเล่นอินเทอร์เน็ตยังมีน้อย จนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 พัดพาธุรกิจล้มระเนระนาด แม้แลนด์ฯจะไม่ได้เจ็บตัวมากนัก แต่ก็ต้องรัดเข็มขัดเอวกิ่ว เว็บไซต์จึงถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง

“ตอนแรกที่เริ่มทำเว็บไซต์ บางคนจะมองว่าอายุขนาดนี้แล้วไม่น่าทำได้ เพราะไม่ได้เรียนจบ หรือทำงานทางด้านคอมพิวเตอร์มาก่อน”

เธอนำคำพูดมาเป็นแรงใจ เรียนรู้อย่างไม่ย่อท้อ จนสามารถนำพาแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โลดแล่นเข้าสู่รถด่วนขบวนใหม่แบบไม่เคยตกยุค

เว็บไซต์ lh.co.th เว็บแรกขององค์กร ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลโครงการของบริษัท ตามมาด้วยเว็บไซต์ homedd.com เว็บท่า หรือ Portal ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่เป็นสื่อกลางของคนที่ต้องการซื้อขายบ้าน และให้ความรู้เรื่องบ้าน โดยไม่สังกัดเป็นของค่ายใด ก็ถือกำเนิดขึ้น

เว็บนี้ จึงเป็นจุดที่ท้าทาย และทำให้เธอได้เรียนรู้แง่มุมใหม่ๆ ของการเป็นเว็บท่า ที่ต้องมีพันธมิตรมาเข้าร่วมให้ได้มากที่สุด

“เราต้องเดินไปหาคู่แข่งที่เป็นรายใหญ่ในตลาดอสังหาฯ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอธิบาย ในที่สุดก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี และจากธนาคารที่มาเข้าร่วมในโครงการ เพื่อให้แบงก์ตอบรับการอนุมัติสินเชื่อบ้านได้ภายใน 24 ชั่วโมง ตอนแรกก็มีข้อมูลปลอมเยอะ เพราะคนใช้เว็บช่วงนั้นยังใหม่ เขาก็ให้ข้อมูลหลอก แต่ทำไปสักระยะปัญหานี้ก็ไม่มีแล้ว”

ทุกวันนี้เว็บ homedd.com เป็นสื่อกลางซื้อขายบ้านได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ข้อมูลที่อัพเดตตลอดเวลา เนื้อหาความรู้ เกี่ยวกับบ้าน การจัดสวน จัดกิจกรรมกับสมาชิก ที่มีต่อเนื่อง ส่วน lh.co.th ให้ข้อมูลนักลงทุน โดยมียอดเฉลี่ยคน 1,600-1,700 คนต่อวัน

my1sthome.in.th เป็นเว็บไซต์น้องใหม่ล่าสุด มีขึ้นเพื่อรองรับกับกลุ่มคนที่ต้องการมีบ้านหลังแรก ซึ่งมีอายุระหว่าง 29-35 ปี โดยคนกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

หลายปีมานี้ นอกจากเธอจะเรียนรู้ว่าอินเทอร์เน็ตไม่ได้ตอบโจทย์ เพียงแค่การเป็นสื่อเปิดกว้างและพร้อมจะให้ข้อมูลได้ตลอดเวลา ในอีกด้านหนึ่งการบริโภคข้อมูลบนเว็บไซต์คือฐานข้อมูลชั้นดีที่สะท้อนความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อธุรกิจได้โดยตรง และอย่างเห็นผลมาแล้ว

“เอาง่ายๆ อย่างทำเลในการเปิดโครงการ มีอยู่ช่วงหนึ่งเส้นปิ่นเกล้าและบรมราชชนนีฮอตมาก ต่อมาก็มานิยมแถบรามอินทรา ทำให้เรารู้และคาดการณ์ได้ว่าเราจะไปสร้างโครงการในพื้นที่ไหนบ้าง” ศุภรัชฏ์ บอกถึงการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์

ความสำคัญยังมากไปกว่านั้น เมื่อยอดขายผ่านเว็บ หรือการหาข้อมูลจากเว็บไซต์ก่อนไปเยี่ยมชมจากโครงการจริง เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น “แนวโน้ม” สำคัญที่มีผลต่อการเลือกใช้สื่อของบิ๊กอสังหาริมทรัพย์รายนี้ ปี 2007 มียอดขาย 2,400 ล้านบาท ปี 2008 ลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท ปี 2009 คาดว่าทั้งปีไม่น่าจะต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท

โลกออนไลน์ ได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยิ่งเมื่อผู้นำองค์กรประกาศวิสัยทัศน์ธุรกิจว่า นับจากนี้จะหันมาใช้สื่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น และถึงขั้นที่จะใช้ทดแทนสื่อเทรดิชั่นแนลในอีกไม่ช้า

คำพูดนี้จึงท้าทายทั้งคนฟังและคนทำงาน ที่ต้องมีเป้าหมายชัดเจนในการเพิ่มยอดขายบ้านผ่านอินเทอร์เน็ตต่อเนื่องทุกปี

Become Fan & Twitter

ในขณะที่เว็บไซต์เป็นสื่อที่ทำให้คนเข้ามาหาได้ตลอดเวลา การมาโซเชียลเน็ตเวิร์คตอบโจทย์การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ แลนด์ฯ จึงเป็นอีกแบรนด์ที่มีทางของตัวเองอยู่ในทั้งใน Facebook และ Twitter (twitter.com/lhhome) ซึ่งมีผู้ทวีต 300 กว่าคน เฟซบุ๊ก

“ทวิตเตอร์เรามีไว้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ไม่เน้นขายของ ซึ่งคนใช้ยังไม่มาก เพิ่มเริ่มได้ประมาณ 1-2 เดือน ส่วนเฟซบุ๊กเองก็ยังมีคนไม่มาก แต่ดีตรงที่มีอัลบั้ม มีวิดีโอ ไว้ให้ข้อมูลข่าวสารโครงการใหม่ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ไม่ได้เพื่อการขาย”

แม้จะวัดผลเป็นตัวเงินได้ยาก แต่ที่แน่ๆ การเป็นสื่อต้นทุนถูก 1% ของงบโฆษณา แต่ประสิทธิภาพสูง ถือว่าน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพเยอะมาก เพราะทำรายได้เกือบ 13-14% จากยอดขายรวม

ประสบการณ์ที่เธอได้มาตลอด 12 ปี ของการอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต สิ่งหนึ่งที่เธอยืนยันเสมอ คือ การลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่มีใครรู้ข้อมูลเท่ากับพนักงานในองค์กร

“การใช้สื่อออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่อยู่ที่ไอเดีย ต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค และต้องตอบเขาได้ เช่น เราต้องคิดว่า ข้อความที่ส่งออกไป เราต้องติดตามว่าโดนผู้บริโภคหรือเปล่า ซึ่งไม่มีใครรู้ข้อมูลได้ดีเท่าคนในองค์กร”

เธอเชื่อว่ารถด่วนขบวนออนไลน์ ยังไปได้อีกไกล และจะสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ หมายถึงภารกิจของเธอและทีมงานยังคงเดินหน้าต่อไป3 เว็บไซต์ และในโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่ทำให้เธอและทีมงานต้องติดตามข้อมูลตลอดเวลา

The team
จำนวน 6 คน
เฉลี่ยอายุ 20 ปลายๆ จนถึง 40 ปี
เป้าหมาย ลดการใช้สื่อดั้งเดิมเปลี่ยนใช้สื่อออนไลน์ และเพิ่มยอดขายผ่านเว็บไซต์ทุกปี
เครื่องมือที่ใช้ 3 เว็บไซต์ มีทั้งเว็บองค์กรให้ข้อมูลโครงการของแลนด์ฯ และเว็บท่าซื้อขายบ้าน Facebook Twitter โปรโมตโครงการ สร้างแบรนด์ และทำกิจกรรม
จุดร่วมของทีม ใฝ่รู้ และชื่นชอบการติดต่อสื่อสารบนออนไลน์