SCB ควง The Mall ออกบัตรเติมเงินจับนักท่องเที่ยว โปรเจกต์ถัดไป “Banking Agent และ E-Commerce”

กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถือเป็นกลุ่มที่ใครๆ ก็อยากเข้าถึง เพราะมีข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า ปี 2018 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในเมืองไทยกว่า 38 ล้านคน สร้างเป็นเม็ดเงินสะพัดกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยเฉลี่ยแล้วต่อคนจะพัก 10 วัน และใช้เงินเฉลี่ย 6,000 บาทต่อวัน

ขณะเดียวกันมีผลจสำรวจของ วีซ่า พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ส่วนใหญ่ 52% ยังนิยมใช้เงินสด ร่วมกับการชำระเงินในรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบบัตรพลาสติก 39% หรือดิจิตอลวอลเล็ท 9%

นี่จึงทำให้ทั้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าถึงตัวนักท่องเที่ยว จึงได้ร่วมมือกันอีกครั้ง ในโครงการ “SCB M Visa” ซึ่งเป็นบัตร Co-Branded ที่เจาะกลุ่มคนไทยไปแล้ว ครั้งนี้จับกลุ่มชาวต่างชาติ ผ่านการออกบัตรเติมเงิน “SCB M VISA PREPAID TOURIST”

โดยบัตรนี้จะเป็นบัครเดิมเงินสำหรับใช้จ่ายแทนเงินสดเติมเงินขั้นต่ำ 100 บาท สูงสุด 99,000 บาท มีอายุ 5 ปี โดยมี 2 รูปแบบคือบัตรทั่วไปและ VIP ที่ได้รับเชิญ คาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะใช้บัตรนี้หลักๆ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ อังกฤษ และ ออสเตรเลีย เป็นต้น ภายในปีแรกตั้งเป้าจำนวนบัตร 50,000 ใบ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 600 ล้านบาท

แน่นอนเป้าหมายของการร่วมมือไม่ได้มีแค่นี้ วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Chief Marketing Office) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่เดอะมอลล์จะได้รับจากการออกบัตรคือ “Data” หรือข้อมูลการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว

เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าในในเดอะมอลล์กว่า 30% จากทราฟฟิครวม และคิดเป็นยอดใช้จ่ายกว่า 40% แต่ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกว่า 60% ยังคงใช้จ่ายผ่านเงินสด ทำให้เดอะมอลล์ไม่มีข้อมูลเลยว่าพวกเขานิยมซื้ออะไรกันบ้าง

ถ้าได้ข้อมูลจากบัตรนี้มา เดอะมอลล์จะทราบได้ทันทีว่านักท่องเที่ยวนิยมซื้ออะไร หรือมีแนวโน้มเป็นอย่างไร หลังจากนั้นจะสามารถปรับเปลี่ยนสินค้าหรือโปรโมชั่น และ CRM เพื่อดึงดูดได้ คาดว่าภายในปีแรกการใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดจะเพิ่มขึ้น 30%

ในชณะที่ฝั่งของ SCB จามรี เกษตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานปฏิบัติการ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า นอกจาก SCB จะมีรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้จ่ายผ่านบัตรประมาณ 1% กว่าๆ แล้ว

สิ่งที่จะได้รับเหมือนกันคือ Data แม้ว่าข้อมูลตรงนี้จะไม่สามารถนำไปปรับใช้กับลูกค้าได้ทันที ด้วยเป็นชาวต่างชาติ แต่ SCB ก็สามารถนำข้อมูลร้านค้าที่นักท่องเทียวนิยม ไปติดต่อเพื่อทำโปรโมชั่นร่วมกัน หรือมากกว่านั้นยังสามารถติดต่อเรื่องสินเชื่อได้ด้วย

ภายใต้ความร่วมมือกับเดอะมอลล์ในระยะต่อไป SCB วางแผนจะตั้งเป็น Banking Agent เพื่อรองรับธุรกิจหลังจากที่ธนาคารในห้างปิด นอกจากนี้ยังร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเดอะมอลล์ โดย SCM ทำหน้าที่พัฒนาระบบและะระบบชำระเงิน คาดว่าจะเห็นทั้ง 2 โปรเจคอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปี

สำหรับบัตร Co-Branded “SCB M Visa” ที่ได้เปิดตัวไปประมาณ 8-9 เดือนจามรีระบุว่า ปัจจุบันมีการออกบัตรไปแล้ว 300,000 ใบ จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ภาย 400,000 ใบภายใน 12 เดือนแรก

ด้านยอดใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งเป้า 14,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดใช้จ่ายผ่านบัครเฉลี่ย 18,000 – 20,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

สำหรับในปี 2019 คาดว่าจะมีบัตรทั้งหมดราว 420,000 ใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด 35,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2020 คาดว่าจำนวนบัตรจะเพิ่มมาเป็น 500,000 ใบ