ตกเป็นข่าวครึกโครมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อ Positioning รายงานว่า กลุ่ม บีอีซี เวิลด์ ได้ทาบทาม “อริยะ พนมยงค์” กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย มารับตำแหน่งใหญ่ตำแหน่งใหม่ President ก่อนจะมีการคอนเฟิร์ม และอริยะย้ายไปเริ่มงานใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อ 18 เมษายน
คำถามถัดมาคือ แล้วใครมาดู LINE ประเทศไทย แทน? ในที่สุด LINE คอร์ปอเรชั่น สำนักงานใหญ่ญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจส่ง “อึนจอง ลี” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารธุรกิจระดับโลก ที่ LINE คอร์ปอเรชั่น ซึ่งรับผิดชอบดูแล การบริหารธุรกิจของ LINE ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ ประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม
โดยจะรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่
LINE คอร์ปอเรชั่น ระบุว่า อึนจอง ลี มีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการการตลาด การสร้างแบรนด์ และการพัฒนาธุรกิจมานานกว่า 20 ปีจากองค์กรชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Ogilvy & Matters , Bain & Company , GS Home Shopping และ Samsung Card
โดยเธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์จาก Seoul National University ประเทศเกาหลีใต้ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก Kellogg School of Management ใน Northwestern University ประเทศสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นในระหว่างนี้จึงอยู่ในช่วงสรรหากรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย คนใหม่อยู่ Positioning จึงหยิบเอาคำถามที่ว่า ต้องมีคุณสมบัติแบบไหนถึงจะมาคุม LINE Thailand ต่อจาก “อริยะ พนมยงค์” ได้ โดย อึนจอง ลี ตอบคำถามนี้ว่า
อย่างแรกเลยบุคคลที่จะเข้ามารับหน้าที่ต่อจาก “อริยะ” ต้องมีความเป็นผู้นำที่ดี และเหมาะสมในการเข้ามาบริหารจัดการทีมงานที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ต้องมีมุมมองและกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สามารถต่อยอดจากสิ่งที่ LINE ทำอยู่ในปัจจุบัน ไปจนถึงการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคตได้
เนื่องจาก LINE มีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่มากในประเทศไทย ในการวางให้ LINE ประเทศไทย เป็นบริษัทของคนไทย ที่เข้าไปช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจให้สามารถเติบโตได้ ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเข้ากับวัฒนธรรมของ LINE ได้ แม้ว่าองค์กรจะมีขนาดใหญ่ แต่ยังต้องรักษาแนวทางในการทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ จึงอยากได้บุคคลที่เข้าใจแนวคิดดังกล่าว เพื่อให้มาทำงานร่วมกับทีม
ขณะเดียวกันยอมรับว่า การเข้ามารับตำแหน่งรักษาการกรรมการ LINE ประเทศไทย ในเวลานี้ ถือเป็นงานที่ท้าทายมาก จากการที่เป็นผู้บริหารชาวต่างชาติ ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องความเข้าใจผู้บริโภค รวมถึงภาษาในการสื่อสารกับทีมงาน ที่แม้ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็เทียบไม่ได้กับผู้บริหารชาวไทย
ดังนั้นการบริหารบริษัทในแต่ละท้องถิ่น จึงจำเป็นที่ต้องมีผู้นำที่เป็นคนของประเทศนั้นๆ อย่างที่เห็นว่ามีผู้บริหารญี่ปุ่นดูแลในประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกับในไต้หวันที่มีผู้บริหารที่เป็นคนไต้หวัน และก่อนหน้านี้ประเทศไทยก็มี “อริยะ” ดูแลอยู่ และเชื่อในแนวทางนี้
LINE ไม่อยากรีบเกินไปในการหาคน เพราะอยากได้คนที่เหมาะสมมากที่สุด แม้ว่าจะอยากได้ให้เร็วที่สุดก็ตาม โดยโจทย์ใหญ่ของกรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทยคนใหม่คือ ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ ก็ต้องการประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม
ทั้งนี้ LINE ไม่ได้จำกัดว่า คนที่ขึ้นมาต้องเป็นคนในองค์กรหรือคนนอก หากเหมาะสม LINE ก็พร้อมจะแต่งตั้งทันที