KFC X คานิวัล สตรีทแฟชั่น Collaborate ข้ามสายพันธุ์ หวังผันจากแบรนด์ไก่ทอดไปสู่ไลฟ์สไตล์แบรนด์

ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดยอดฮิตของแบรนด์ยุคนี้ ในการ Collaborate ระหว่างแบรนด์ที่อยู่ต่างธุรกิจ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และประสบการณ์ใหม่ๆ ในการขยายฐานลูกค้าร่วมกัน

ล่าสุดเป็นคิวของ KFC แบรนด์ไก่ทอดจากสหรัฐอเมริกา อายุ 70 ปี ตัดสินใจ Collaborate กับ Carnival แบรนด์สตรีทแฟชั่นของไทย ภายใต้แคมเปญใหม่ “ONE OF A KIND”

ด้วยการนำรูปผู้พันแซนเดอร์ส ถูกชูเป็นพระเอกในการโปรโมต ซึ่งไม่กี่วันที่ผ่านมา คานิวัลได้เริ่มโปรโมตออกมาแล้ว และในอีกไม่นานเคเอฟซีจะมีเมนูใหม่และสินค้าตามออกมา

โดยผู้พันแซนเดอร์สไม่ได้เป็นเพียงแค่มาสคอตชายสูงวัยใจดีใส่ทักซิโด้ขาวถือไม้เท้า ที่เป็นเพียงโลโก้ของแบรนด์ที่มุ่งให้คนนึกภาพ KFC ไปในทิศทางเดียวกันเท่านั้น แต่ถูกนึกถึงในฐานะนักสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่ โดยสะท้อนตัวตนและถ่ายทอดมาสู่ความเป็นแบรนด์ KFC ทุกวันนี้

เคเอฟซี ประเทศไทย ระบุว่า การที่ลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการก้าวข้ามนิยามความเป็นไก่ทอด ไปสู่ตำนานบทใหม่ โดยยังคงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ทำตามกระแส ไม่เหมือนใคร ไปสู่ “แบรนด์ที่มีมูลค่าทางจิตใจ” สามาถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้ามากขึ้น ด้วยการสร้างจุดเชื่อมต่อใหม่ระหว่างแบรนด์ KFC กับผู้บริโภคในหลายๆ ด้าน ทำให้ลูกค้าจดจำและมีลอยัลตี้กับแบรนด์ ซึ่งโจทย์ที่ว่านี้นำไปสู่การกำหนดทิศทางและเดินหน้าต่ออย่างมีกลยุทธ์ของ KFC ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

นับเป็นอีกหนึ่งในความท้าทายของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง KFC ในการก้าวข้ามไปสู่การเป็นไลฟ์สไตล์ส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภคได้มากน้อยเพียงไร และจะมีเรื่องตื่นเต้นรวมถึงความอร่อยแปลกใหม่ใดๆ มาให้ลูกค้าเซอร์ไพรส์อีก คงต้องติดตามต่อ

ชวนา กีรติยุตอมรกุล General Manager และ Strategic Planning Director บริษัท CJ WORX ให้ความเห็นว่า การ Collaborate ระหว่างธุรกิจเดียวกันหรือข้ามธุรกิจกัน มีมานานแล้ว เพื่อต้องการสร้างประสบการณ์ร่วมและได้ Brand Image ที่มองว่าเท่จากเดิม และทำให้ได้ประสบการณ์แปลกใหม่รู้สึกเข้าถึงง่าย สัมผัสง่ายขึ้น เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม เปิดใจให้ยอมรับได้มากขึ้น

“การ Collaboration จะเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันหรือข้ามประเภทธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการสร้าง Experienceใหม่ให้กับผู้บริโภค หรือไม่บางคนอาจไม่เคยซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์หนึ่ง แต่เมื่อมีการ Collaboration แล้วก็อาจสร้างให้เกิดโมเมนต์กระตุ้นให้เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ให้อยากซื้อและใช้สินค้าและบริการเมื่อมีการผนึกกำลังกันแล้วก็ได้”