ถ้าผมถามว่า มีวิธีการทำการตลาดอะไรบ้างในโลกดิจิทัล ที่ได้ผลดี มีประสิทธิภาพบ้าง? ผมเชื่อว่า ต้องมีคนตอบว่า “Content Marketing” แน่ๆ
“แบรนด์” เกือบจะทุกแบรนด์ในไทยขณะนี้ แทบจะต้องมีช่องทางการทำ Content เป็นของตัวเอง อย่างน้อยสัก 1 ช่องทาง อาจจะเป็น Website, Facebook , IG , Line , Twitter ก็ว่ากันไป บางแบรนด์ทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสิ่งนี้ ระดับหลายแสนจนไปถึงหลักล้านบาทต่อเดือนก็มี
แต่เอาเข้าจริงๆ แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการทำ Content Marketing แบบจริงๆ จังๆ กลับมีจำนวนน้อยนิดแทบจะนับได้ ผลลัพธ์ที่กลับมาส่วนใหญ่ค่อนข้างจะน่าเศร้า คือ ไม่สามารถวัดได้อย่างชัดเจนเท่าไรนัก ว่างบประมาณที่ทุ่มทุนลงไปนั้น มันย้อนกลับมาเป็น Business ได้สักเท่าไหร่ อาจจะใช้ยอด Reach หรือยอด Like เป็นเครื่องมือปลอบใจตัวเอง ว่าที่เราลงทุนทำ Content ไปนั้น มันก็มีอะไรกลับมาบ้างน่ะ (โว้ย)
ว่ากันแบบไม่หลอกตัวเอง การทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จนั้นยากมากๆ ถึงจะใช้เงินเยอะ ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ สืบเนื่องจากเราอยู่ในยุคที่เรียกได้ว่า “Content ท่วม” คือ มี Content ให้เสพเยอะแยะไปหมด
ไล่ตั้งแต่ Content จากเพื่อนผ่านทาง Social Network, Content จากดาราที่ชื่นชอบ, Content จาก Blogger ที่ติดตาม, Content ข่าวต่างๆ อาทิเช่น ข่าวดารา ข่าวการเมือง ข่าวกีฬา พ่วงด้วย เพจต่างๆ อีกมากมายจิปาถะ
ดังนั้นการที่แบรนด์จะทำ Content ที่เจ๋งเป้ง โดดเด่นเหนือ Content ต่างๆ ที่เอ่ยมา ดูเหมือนว่ามันจะโอกาสเพียงน้อยนิด
คำถามคือ แล้วเราจะคว้าโอกาสอันน้อยนิดอันนี้ได้อย่างไร ? ครับ ….วันนี้ “โซวบักท้ง” มีเคล็ดลับดีๆ มาเปิดเผย
อย่างแรกเลย อยากให้เปลี่ยนวิธีการคิด จากการทำ Content เพื่อให้คนเห็นเยอะๆ คนไลค์มากๆ มาเป็น “การทำ Content ที่เป็นประโยชน์” แทน ว่ากันว่า การจะลงมือเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง สิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนก็คือ “วิธีการคิด” นี่แหละ ตราบใดถ้าเรายังยึดติดกับการทำ Content ให้คนเห็นเยอะ คนไลค์มากๆ มันจะทำให้เราทำ Content ที่ดี มีประโยชน์จริงๆ ได้ยาก
Content ที่ดี อาจจะมีไลค์ มีแชร์มาก แต่ Content ที่มีไลค์ มีแชร์มากๆ อาจจะไม่ใช่ Content ที่ดี
ถ้าเรายึดติดกับการทำ Content เพื่อให้คนเห็นมากๆ มี Like เยอะๆ ท้ายสุดอาจจะไปลงเอยด้วยการโพสต์รูปหมารูปแมว รูปผู้หญิงเซ็กซี่ เรื่องโจ๊กขำขัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแบรนด์ของเราเลย
Content ที่ดีมีประโยชน์ คือ Content ที่ให้คุณค่าบางอย่างกับผู้ดู ผู้อ่าน โดยอยู่ในกรอบของแบรนด์ หรือสินค้าของเรา อาจจะเป็น Content ที่ให้ข้อมูลที่ให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกซื้อสินค้าของเรา, Content ที่ให้แรงบรรดาลใจแก่ผู้อ่าน, Content ที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต, Content ที่เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้เข้ามามีส่วนร่วม และได้รับการยอมรับในสังคมเล็กๆ ของเรา ฯลฯ
อย่างที่สอง แบบตามมาติดๆ คือ ให้พยายามทำ content โดยใส่ความเป็นมนุษย์ลงไปด้วย อย่าทำตัวเป็นแบรนด์แข็งทื่อ พูดจาภาษาโฆษณา หรือภาษาแบรนด์คุยกับ consumer แต่ให้พูดคุยกับ consumer ดังเช่นมนุษย์เราๆ คุยกันนี่แหละ ให้พยายามหา Tone & Voice ที่ถูกต้องของแบรนด์เรา เราจะเป็นหนุ่มขี้เล่น แสนกวน, กูรูแสนรู้ ชอบแชร์เรื่องราว, สาวเปรี้ยวแฟชั่น, ช่างเจรจา ฯลฯ ก็ว่ากันไป
เลิกคิดเลยครับว่าเราคือธุรกิจ B2C , B2B ที่ต้องดูทางการ แต่ให้คิดว่านี่คือความสัมพันธ์แบบ Human to Human ลูกค้าไม่ได้อยากคุยกับแบรนด์ไร้ชีวิต แต่อยากคุยกับคนเป็นๆ ที่อยู่ในแบรนด์ของเราต่างหาก!
สุดท้ายที่อยากฝากไว้คือ การทำ Content โดยการมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ในโลกดิจิทัล เป็นเรื่องน่าแปลกเหมือนกัน ยิ่งแบรนด์พูดถึงตัวเองมากเท่าไหร่ ยิ่งมีคนสนใจน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นแทนที่เราจะทำ content ที่พูดแต่ตัวเอง ให้เราทำ content ให้น่าสนใจโดยใช้มองในมุมของลูกค้าแทน
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ สมมติว่าเรากำลัง content ของ “เพจเนย” ยี่ห้อหนึ่ง แทนที่เราจะทำ content เพื่อบอกว่า เนยของเราดียังไง? ทำมาจากอะไร? ขายดีขนาดไหน? เราควรจะมองมุมกลับในมุมของลูกค้า ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อเนยของเราไปเพื่อทำขนมเบเกอรี่ ดังนั้นแทนที่จะทำ content เพื่อบรรยายสรรพคุณของเนย Content ที่เราทำ ก็ควรจะออกไปทางการแนะนำสูตรทำขนมเบเกอรี่มากกว่า
หลักการทำ content โดยการมองลูกค้าเป็นศูนย์กลางนั้น โดยง่ายก็คือ การตั้งคำถามกับทุกๆ content ที่ทำว่า “content นี้ คนอ่าน หรือ คนดูจะได้อะไร?”
สรุปรวบตึง เทคนิคการทำ content สไตล์โซวบักท้งมีเพียง 3 ข้อเท่านั้น นั่นก็คือ เป็นประโยชน์, เป็นมนุษย์ และ มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
หวังว่าเทคนิคเล็กๆ เหล่านี้จะให้การทำ content ของทุกๆ คน มีโอกาสแย่งซีนข่าวการเมืองอันร้อนแรงในช่วงนี้ไปได้นะครับ
อะแฮ่ม … ก็บอกแล้ว ว่ายาก!