“ไปรษณีย์ไทย” สู้อย่างไร ท่ามกลางคู่แข่งรุมเร้า

ในขณะที่ต้องผจญศึกรอบด้าน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ยังคงมีอัตราการเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ว่าการเติบโตในปีนี้จะน้อยกว่า 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การตั้งเป้าหมายอัตราเติบโตปี 62 เป็นเลขหลักเดียวไม่เกิน 10%

ไม้ตายที่ ปณท วางไว้รับมือกับภาวะยอดขายโตยาก คือการมองหาธุรกิจใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้จุดยืนของไปรษณีย์ไทย ที่ยังคงมุ่งเน้นการเป็นบริษัทขนส่ง ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นผู้ขนส่งอะไร สินค้า บริการ หรือแม้แต่เงิน ทุกอย่างที่ขนส่งได้จึงถูกมองเป็นโอกาสของ ปณท ทั้งหมด

ภาพใหญ่ของธุรกิจ ปณท จึงขยายจากการส่งจดหมาย มาสู่การส่งไปรษณียภัณฑ์ที่เป็นกล่องใหญ่ขึ้น ล่าสุด ปณท เริ่มยุคอีวอลเล็ตและให้บริการ COD เก็บเงินปลายทาง ซึ่งอนาคต ปณท อาจต่อยอดไปสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย โดยที่ยังคงบริการธนาณัติไว้ต่อไปเพราะยังมีคนใช้งานสม่ำเสมอ

พัสดุน้อยลงหรือคู่แข่งเยอะขึ้น?

สมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) บอกปัดว่ายังไม่แน่ใจถึงสาเหตุที่ทำให้ ปณท เติบโตน้อยลงกว่า 3 ปีก่อน แต่เลือกยกตัวอย่างว่าอาจเป็นเพราะคนไทยเริ่มสั่งของน้อยลงก็ได้ ซึ่งเริ่มเห็นมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จุดนี้สมรยืนยันว่า ปณท ไม่กลัวคู่แข่งที่รุมเร้าเพราะความเชี่ยวชาญที่ ปณท สั่งสมมานาน จนมั่นใจในศักยภาพที่แข่งขันได้

ปัจจุบัน คู่แข่งของไปรษณีย์ไทยมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ DHL, Kerry, SCG Express, นิ่มซี่เส็ง ยังไม่นับเลือดใหม่อย่าง Alpha, Flash, Ninja Van รวมถึงสตาร์ทอัพสายแอปอย่าง Lineman ที่จับมือกับ La la move เช่นเดียวกับ Grab และ Get ที่จัดบริการส่งพัสดุเอกสารแบบทันใจเพื่อตอบตลาด

ท่ามกลางคู่แข่งเหล่านี้ ปณท ยืนยันว่ายืนหยัดได้ สถิติปี 2561 ไปรษณีย์ไทยโชว์ว่าครองส่วนแบ่งในธุรกิจจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซ 54 – 55% ของทั้งตลาด จำนวนพัสดุที่จัดส่งอยู่ที่ประมาณ 310 ล้านชิ้น จากปริมาณรวม 580 ล้านชิ้น คิดเป็นมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ของตาราง รองลงมาเป็น Kerry ที่มีส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 30% เรียกว่า 2 เจ้ารวมกันก็กินสัดส่วนเกิน 80% ของตลาด

เราทำธุรกิจด้านการขนส่งมาก่อน แต่เปลี่ยนจากจดหมายเป็นสิ่งของ เชื่อว่าแข่งขันได้แน่นอนเพราะเชี่ยวชาญ จ่าหน้าผิดก็ยังส่งได้ สมรระบุเรามีจุดบริการ 7,000 – 8,000 จุด บุรุษไปรษณีย์หลักหมื่นคน ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกล สามารถให้บริการประชาชนทุกระดับหลายราคา บนความเร็วที่มีการยกระดับเป็นการจัดส่งวันเดียวถึง คือส่งก่อน 11.00 .จะได้รับของช่วงบ่าย ส่วนการส่งช่วงบ่ายจะได้รับวันรุ่งขึ้น ซึ่งเราทำได้ 100% แล้ว

ความมั่นใจของ ปณท ส่วนหนึ่งมาจากความรุ่งเรืองที่เริ่มทอแสงชัดเจนในปี 2559 กลายเป็นประวัติศาสตร์สำคัญหลังจากแยกหน่วยงานออกมาเป็นบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เมื่อ 16 ปีก่อน ผลประกอบการ ปณท ร้อนแรงขึ้นอีกในปี 60 สดใสมากจากที่เคยขาดทุนเพราะมีรายได้หลักมาจากการขายแสตมป์เท่านั้น แต่แล้วก็กลับมาวูบลงเพราะรายได้ปี 61 ไม่เข้าเป้า

ผลประกอบการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท)

  • ปี 2559 รายได้ 25,600 ล้านบาท กำไร 3,570 ล้านบาท
  • ปี 2560 รายได้ 27,880 ล้านบาท กำไร 4,220 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 8% เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 18%)
  • ปี 2561 รายได้ราว 28,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่เคยประกาศไว้ 30,000 ล้านบาท
  • ปี 2562 ปณท จึงตั้งเป้าหมายเดิมคือ 30,000 ล้านบาท

วันนี้ ปณท ทำเงินหลักจาก 4 ธุรกิจ ส่วนที่ใหญ่ที่สุดคือธุรกิจขนส่งพัสดุแบบกล่อง (40% ของทั้งพอร์ต) รองลงมาคือธุรกิจส่งจดหมายซอง อันดับ 3 คือค้าปลีก และอันดับ 4 คือบริการการเงิน

สินเชื่อหรือประกัน?

สมรมองว่าการทำให้ ปณท มีอัตราการเติบโตแบบเท่าตัวอีกครั้งนั้นทำได้ยากขึ้น จึงต้องการมองหาธุรกิจใหม่ แล้วเริ่มดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป หนึ่งในนั้นคืออาจจะให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบริการด้านประกันภัยซึ่งยังไม่มีการสรุปแผนดำเนินงานในเร็ววัน

ไปรษณีย์คือขนส่ง ขึ้นอยู่กับว่าเป็นผู้ขนส่งอะไร สินค้า? พัสดุ? คือทุกอย่างที่ต้องขนส่งเป็นโอกาสเราหมด อย่างเช่นการรับส่งเงิน จากภาพใหญ่ที่เราขยับจากบริการส่งจดหมาย มาเป็นกล่องที่ใหญ่ขึ้น วันนี้เราทำอีวอลเล็ตแล้ว มีบริการ COD เก็บเงินปลายทาง ต่อไปนี้ใครช็อตเงินก็อาจจะใช้บริการกับเราได้ รวมถึงประกันภัยด้วย

ในขณะที่ ปณท ลุยอีวอลเล็ตแล้ว แต่สมรยืนยันว่าจะไม่ทิ้งบริการดั้งเดิมอย่างธนาณัติไป เพราะยังมีคนใช้งาน เช่นเดียวกับการปรับราคาค่าบริการ จุดนี้สมรมองว่าราคาที่ ปณท กำหนดนั้นต่ำอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะไม่ใช่ราคาต่ำที่สุดเพราะคู่แข่งเล่นสงครามราคา แต่ ปณท ก็ยังยืนราคาเหมือนเดิมมา 10 ปีแล้ว โดยมอบส่วนลดเล็กน้อยให้ลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น

สำหรับภาพลักษณ์แบรนด์ ปณท ในนาทีนี้ สมรระบุว่า ปณท ได้รับคะแนนความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จากที่เคยตกต่ำที่สุด 80% คะแนนกลับเพิ่มขึ้นเป็น 85% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับคุณภาพบุคลากรและภาพลักษณ์ทันสมัยขององค์กรให้เหนือกว่าช่วงที่ ปณท ถูกล้อเลียนเรื่องเจ้าหนูรับนะ

เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราโดนต่อว่าเรื่องโยนของ ซึ่งต้องยอมรับว่าพนักงานเราก็โยนจริง และโยนมานาน 136 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้การโยนเป็นเรื่องธรรมดาในยุคเก่าซึ่งเน้นการส่งจดหมายและซองเอกสาร แต่ภาพที่มีการเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตกระทบความรู้สึกของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ซึ่งหากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าห่อกระสอบพัสดุในภาพที่ส่งต่อกันนั้นเป็นสีเขียว แปลว่าเป็นกระสอบจดหมายเอกสารที่โยนแล้วเสียหายน้อย ไม่ใช่พัสดุกล่องอย่างที่หลายคนกังวล

ว่าแล้วก็ติดตามชีวิตไปรษณีย์ไทยกันไปยาวๆ ว่าจะลุยบริการใหม่ได้สมใจที่ตั้งไว้หรือไม่.