ส่งพัสดุด่วนไม่พอ! สเต็ปใหม่ แฟลชกรุ๊ป ต่อจิ๊กซอว์บุกโลจิสติกส์ ร่วมทุน “นิ่มซี่เส็ง” ขนส่ง B2B รุกอาเซียน 10 ประเทศ

“อี-คอมเมิร์ซ” จัดเป็นธุรกิจดาวเด่นที่มีแนวโน้มเติบโตทั่วโลก เช่นเดียวกับตลาดไทย ปี 2561 มีมูลค่ากว่า 3.2 ล้านล้านบาท ปีนี้ยังเติบโตได้อีก 8 – 10% ต่อปี ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศเติบโตตามไปด้วย คาดปีนี้จะมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท เติบโตปีละ 15 – 20%  

แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash Express) เป็นหนึ่งในผู้เล่นหน้าใหม่ ในธุรกิจรับจัดส่งสินค้าและพัสดุทั่วไป ที่เริ่มก่อตั้งในปี 2560 โดยทีมผู้บริหารที่อยู่ในธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งทุนไทยและจีน เริ่มต้นด้วยธุรกิจส่งพัสดุด่วนด้วยการลงทุนเองทั้งหมด ไม่ใช้ระบบแฟรนไชส์ ชูจุดขายส่งพัสดุทั่วไทยแบบ 356 วันไม่มีวันหยุด บริการส่งสินค้าในวันถัดไป (Next Day) หลังเปิดบริการ 1 ปี ปัจจุบันมี 1,000 สาขา พนักงาน 10,000 คน จัดส่งสินค้าไปแล้ว 20 ล้านชิ้น ทำรายได้ 500 ล้านบาท

ปีนี้วางเป้าหมายธุรกิจส่งพัสดุเติบโต “เท่าตัว” เป้าหมายจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 1,700 สาขา พนักงานเป็น 20,000 คน จัดส่งสินค้าเพิ่มเป็น 40 ล้านชิ้น รายได้ 1,000 ล้านบาท ปีนี้จะขยายการให้บริการใน 4 ประเทศอาเซียน และเป้าหมาย 10 ประเทศในปี 2565

สร้างอาณาจักรโลจิสติกส์

คมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแฟลช (FLASH GROUP) กล่าวว่าแฟลชมีเป้าหมายการลงทุนขนส่งและโลจิสติกส์ครบวงจร โดยเริ่มจาก แฟลช เอ็กซ์เพรส การจัดส่งพัสดุด่วน ปัจจุบันผู้นำในตลาดนี้ อันดับ 1. ไปรษณีย์ไทย  2. เคอรี่ เอ็กซ์เพรส 3. แฟลช เอ็กซ์เพรส 4. ดีเอชแอล หากปีนี้บริษัททำได้ตามเป้าหมายส่งสินค้า 40 ล้านชิ้น คาดว่าปี 2563 อันดับจะขึ้นมาใกล้เคียงกับเบอร์ 2 เคอรี่

ในตลาดจัดส่งพัสดุด่วนยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก ตามการขยายตัวของ อี-คอมเมิร์ซ ปีที่ผ่านมาตลาดโซเซียล คอมเมิร์ซ เติบโต 80% ส่วนแพลตฟอร์ม คอมเมิร์ซ อย่างลาซาด้าเติบโต 100% ด้วยแนวโน้มการขยายตัวดังกล่าว พบว่าปี 2563 จะมีผู้เล่นรายใหม่ ในตลาดส่งพัสดุด่วนจากต่างประเทศ เข้ามาเปิดตัวธุรกิจในไทยอีก 3 ราย จากจีน 2 ราย และสหรัฐฯ 1 ราย

ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แฟลช เอ็กซ์เพรส ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ในการวางระบบให้ขนส่งครอบคลุม 77 จังหวัด โดยไม่ใช้เอาต์ซอร์ส หรือแฟรนไชส์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานบริการเดียวกัน

เป้าหมายของกลุ่มแฟลช คือลงทุนธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ครบวงจร ปัจจุบันในประเทศไทยได้มีการลงทุนเองและร่วมทุนเปิดบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ไปแล้ว 6 บริษัท ในปีนี้จะซื้อกิจการเข้ามาเพิ่มอีก 4 บริษัท ด้านคลังสินค้า ขนส่ง ประกันภัย และการเงิน เพื่อพัฒนาธุรกิจ สินค้า และบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

ปีนี้ยังเตรียมขยายธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ไปใน 4 ประเทศอาเซียน ภายในปี 2565 จะครบทั้ง 10 ประเทศอาเซียน คาดต้องใช้งบลงทุน 30,000 – 40,000 ล้านบาท เพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งเป็นเครือข่ายเดียวกันในอาเซียน รองรับการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตสูงสุด

เป้าหมายของกลุ่มแฟลช คือการสร้างอาณาจักรโลจิสติกส์ครอบคลุมทุก Ecosystem เช่นเดียวการสร้างอาณาจักรของเครือซีพีในธุรกิจต่างๆ

ร่วมทุน “นิ่มซี่เส็ง” ปั้นแพลตฟอร์มขนส่ง B2B

หนึ่งในบริษัทร่วมทุนของกลุ่มแฟลช ที่จะเริ่มให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้ คือ บริษัท แฟลช โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บริษัท นิ่มซี่เส็ง โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยงบลงทุนเฟสแรก 200 ล้านบาท กลุ่มแฟลช เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อขยายธุรกิจขนส่งแบบ B2B ที่มีมูลค่าราว 80,000 ล้านบาท หรือสัดส่วน 40% ในธุรกิจโลจิสติกส์ 2 แสนล้านบาท

ปิยะนุช สัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิ่มซี่เส็ง โลจิสติกส์ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า นิ่มซี่เส็ง เป็นผู้ประกอบการขนส่งสินค้าแบบ B2B ที่เริ่มต้นธุรกิจเจนเนอเรชั่นแรกในปี 2514 หรือกว่า 48 ปี ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และขยายไปทั่วประเทศ ปัจจุบันเข้าสู่เจนเนอเรชั่น 2 มีทั้งธุรกิจ นิ่มซี่เส็ง โลจิสติกส์ ขนส่งสินค้า B2B และ นิ่มซี่เส็ง เอ็กซ์เพรส จัดส่งพัสดุทั่วไป

การร่วมทุนกับกลุ่มแฟลช เป็นการสร้างแฟลตฟอร์ม โลจิสติกส์ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเข้ามาใช้บริการ โดยใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงการขนส่งสินค้ากับผู้ประกอบการขนส่งแต่ละราย เพื่อเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการรับและคัดแยกสินค้าแบบครบวงจร โดยผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุน จะมีค่าใช้จ่ายต่อเมื่อใช้บริการ

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจดทะเบียนทำธุรกิจขนส่งกว่า 30,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก มีความชำนาญเฉพาะพื้นที่ เมื่อรับสินค้าจากลูกค้ากลุ่มผู้ผลิต ไปส่งยังร้านค้าต่างๆ ขากลับก็มักจะวิ่งรถเปล่า ถือเป็นต้นทุนที่สูญเปล่า ทั้งค่าน้ำมันและค่าจ้างแรงงาน

ชูโมเดล Uber ธุรกิจโลจิสติกส์ 

“แฟลช โลจิสติกส์” จึงเป็นแฟลตฟอร์มที่จะเชื่อมเครือข่ายผู้ประกอบการขนส่งทั่วประเทศ เพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกัน และทำให้ truck utilization ดีขึ้น โดยแพลตฟอร์มจะแนะนำผู้ประกอบการขนส่งที่อยู่ในระบบและเส้นทางที่ให้บริการ รวมทั้งราคาค่าขนส่งของแต่ละราย เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งใช้บริการจัดส่งสินค้า นอกเหนือจากเส้นทางเดิมที่วิ่งรถอยู่แล้ว เพราะปกติผู้ประกอบการขนส่งรายเล็กจะส่งสินค้าเฉพาะพื้นที่แต่ละจังหวัดเท่านั้น แต่แพลตฟอร์มนี้จะเพิ่มโอกาสหาลูกค้าและส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ ด้วยต้นทุนลดลง

“แพลตฟอร์ม แฟลช โลจิสติกส์ จะเป็นเหมือน Uber ในธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ให้ผู้ประกอบการขนส่งเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม เพื่อเข้ามาเลือกใช้บริการขนส่งในเส้นทางต่างๆ นอกพื้นที่และมีโอกาสได้งานในพื้นที่ขนส่งที่แต่ละรายมีความชำนาญ โดยแพลตฟอร์มจะไม่ยุ่งกับลูกค้าที่ผู้ประกอบการแต่ละรายมีอยู่ในมือ จะทำหน้าที่เพียงรับสินค้าและส่งต่อไปยังปลายทางเท่านั้น”

คมสันต์ กล่าวว่าหลังจากปีนี้ลงทุน 200 ล้านบาทใน “แฟลช โลจิสติกส์” แล้ว ตามแผนอีก 1 ปีครึ่ง จะลงทุนเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายเส้นทางครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งขยายศูนย์รับและคัดแยกสินค้า จาก 1 แห่งที่ พุทธมณฑล สาย 2 เพิ่มเป็น 10 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการขนส่งอยู่ในแพลตฟอร์ม 4,000 – 5,000 ราย ขนส่งสินค้าวันละ 5,000 ตัน

เจน 2 “นิ่มซี่เส็ง” ทรานส์ฟอร์มธุรกิจขนส่ง

สำหรับ บริษัท นิ่มซี่เส็ง โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าอายุ 48 ปี จากจุดเริ่มต้นธุรกิจในเชียงใหม่ บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด ปัจจุบันให้บริการขนส่งและกระจายสินค้าและบริการโลจิสติกส์ครบวงจรทั่วประเทศ มีเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ 30 จุด รถบรรทุกมากกว่า 1,000 คัน และมีพันธมิตรในเครือข่ายมีรถบริการกว่า 5,000 คัน

ปิยะนุช สัมฤทธิ์

ปิยะนุช บอกว่าในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม ธุรกิจขนส่งต้องปรับตัวนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เช่นกัน การร่วมทุนกับกลุ่มแฟลชถือเป็นการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ นิ่มซี่เส็ง ในเจน 2 ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้งานเชื่อมระบบขนส่งและลดต้นทุน โดยส่วนของนิ่มซี่เส็ง โลจิสติกส์เอง ก็จะเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม “แฟลต โลจิสติกส์” เช่นกัน

“การร่วมทุนกับแฟลช จะทำให้ได้เทคโนโลยีที่ทันสมัยไปใช้พัฒนาระบบขนส่งสินค้า ขณะที่แฟลชจะได้คอนเนกชั่นและเครือขายธุรกิจขนส่งสินค้าที่เป็นพันธมิตรของนิ่มซี่เส็งที่อยู่ในตลาดมา 48 ปี”  

สำหรับ นิ่มซี่เส็ง เป็นผู้ประกอบการโลจิสติกส์รายใหญ่ในภาคเหนือครอบคลุม 8 จังหวัด และมีเครือข่ายส่งสินค้าทั่วประเทศ เป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค จากผู้ผลิตและโรงงานขนส่งให้ร้านค้าทั่วไป

“วันนี้ผู้ประกอบการขนส่งไทยต้องติดปีก ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงาน เพื่อโอกาสโตในธุรกิจขนส่ง ที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของทุกธุรกิจและอยู่ได้ท่ามกลางการแข่งขันจากผู้เล่นใหม่ๆ”