ภายใต้พื้นที่ 43 ไร่กับงบลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาทของ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” (True Digital Park) ได้แบ่งพื้นที่ให้บริการ 3 ส่วนหลัก คือ Work Space ขนาด 77,000 ตร.ม. Lifestyle Space ขนาด 30,000 ตร.ม. และ Living Space ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัย
ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธฺ์ที่ผ่านมาส่วนของ Lifestyle Space ที่ใช้ชือว่า “101 The Third Place @True Digital Park” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงคิวของ Work Space ได้เผยโฉมบ้าง ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ ได้แก่
1. Co-Working Space พื้นที่นั่งทำงาน มีบริการแพนทรี และโซนพักผ่อน สัดส่วน 35%
2. Office Space พื้นที่สำนักงานที่มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ใช้เป็นห้องประชุม และจัดกิจกรรม ออกแบบเปิดโล่ง มีบันไดเชื่อมต่อกันทุกชั้น เอื้อต่อการพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างคอมมูนิตี้ร่วมกัน สัดส่วน 40%
3. Innovation Space แหล่งรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ศูนย์ทดลองนวัตกรรม และการเรียนรู้จากหน่วยงานภาครัฐ บริษัทต่างๆ และองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ NIA, DEPA, ETDA, ACE Singapore, KMITL, Google, AWS, Huawei, Ricoh, UOB, Wongnai, MuSpace, Thailand e-Center (TeC), CP Innovation และ True Digital Academy เป็นต้น สัดส่วน 15%
4. Event and Business Services Space พื้นที่สำหรับจัดประชุม สัมมนา ศูนย์บริการทางธุรกิจ ศูนย์บริการครบวงจรจากภาครัฐ สัดส่วน 10%
ฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า
ย้ำอีกครั้งทรู ดิจิทัล พาร์คไม่ได้สร้างออฟฟิศ เพราะถ้าสร้างต้องมีพื้นที่มากกว่า 85% แต่เรากำลังสร้างอีโคซิสเต็มแบบครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านดิจิทัล
ขณะนี้มีสัดส่วนการเช่า Office Space แล้วกว่า 90% โดยนับคนทำงานประจำได้กว่า 2,500 คน จาก 40 บริษัท ซึ่งมีทั้งบริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงาน 1 คน ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานนับ 1,000 คน
โดยมีกลุ่มผู้ใช้งานจากหลากหลายประเภทธุรกิจได้แก่ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์, โซเชียลแพลตฟอร์ม, EnterprisePlatform, อี–คอมเมิร์ซ, หุ่นยนต์ รวมถึงธุรกิจเทคต่างๆ อาทิ ฟินเทค,ทราเวลเทค, มาร์เก็ตติ้งเทค, พร็อพเทค(PropTech) และ AgriTech เป็นต้น
สำหรับสถิติด้านประชากรเป็นชาย 57% และหญิงร้อยละ 43% โดยสาขาการทำงานของผู้ที่อยู่ใน True Digital Park ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและดิจิทัล ซึ่งมีมากกว่า 60% ของคนทั้งหมดแบ่งตามสาขาการทำงานได้ดังนี้
กลุ่มวิศวกรไอทีเทคโนโลยีและนวัตกรรม 40%, งานสนับสนุนทางเทคนิค 15%, ด้านการตลาดดิจิทัล 6%, ด้านบริหารและพัฒนาธุรกิจ 25% และงานสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น บัญชี, บุคคล 14%
รายได้มาจากค่าเช่า Co-Working Space 7,500 บาท/คน/เดือน ราคานี้รวมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gbps สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์ ฟรีกาแฟ เครื่องดื่ม และบริการแพนทรี (Pantry) ส่วนกลาง
ค่าเช่าสำนักงานราว 1,300-1,500 บาทต่อตารางเมตร คาดว่าจะคุ้มทุนได้เร็วกว่า 5-7 ปี ตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ด้านสำนักงาน