ต้องปั้นเอง

เป็นธรรมเนียมที่ลักส์กับดาราสาวระดับซูเปอร์สตาร์ต้องคู่กัน แต่สำหรับแคมเปญใหม่ “ลักส์ปั้นดาว” เปิดโอกาสให้ใครๆ ก็เป็นดาวได้ ที่สำคัญเป็นนางเอกคนใหม่ของจีทีเอช ค่ายหนังดังในยุคนี้ ผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียวจะเป็นผลิตผลที่ฉายภาพของแบรนด์ลักส์ในปี 2553 ว่า ในวัยเฉียด 80 ปีนั้น ลักส์ยังคงสดใสและครองใจสาวๆ รุ่นใหม่ได้เช่นกัน

วรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บอกว่า “ไม่ว่าอย่างไรลักส์ต้องอยู่กับดารา เป็นตำนานที่สร้างมากว่า 78 ปี คงไม่มาเลิกในปีที่ 79 (หัวเราะ) เพียงแต่ว่าจะนำเสนอให้มีสีสันและแปลกใหม่มากขึ้น”

ดังนั้น ลักส์จึงต่อยอด Brand Concept “ใครๆ ก็เป็นดาวได้” หลังจากที่ผ่านมาดาราลักส์สงวนไว้เฉพาะดาราสาวชื่อก้องเท่านั้น

แคมเปญ “ลักส์ปั้นดาว” หยิบยกเอา Consumer Insight ของผู้หญิงวัยรุ่นและ 20 Something ที่ต้องการเป็น “ดารา” หรือก้าวเข้าสู่การเป็นดาวประดับวงการบันเทิง ขณะที่ดาราลักส์คนล่าสุด คือ ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ เธอเป็นดาราลักส์ในวัยย่าง 22 ปี ซึ่งเด็กกว่าดาราลักส์คนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ นับเป็นสัญญาณชัดเจนจากลักส์ที่ต้องการจับกลุ่มเป้าหมายที่เด็กลง

วรรณิภาบอกว่า ทั้งลักส์และจีทีเอช มีจุดร่วมที่เหมือนกันคือเป็นแบรนด์ที่ “สร้างแรงบันดาลใจ” จึงเป็นที่มาของการจับมือกันสร้างสรรค์แคมเปญครั้งนี้ขึ้น เพื่อสรรหานางเอกหนังหน้าใหม่ของจีทีเอช ซึ่งจีทีเอชขึ้นชื่อในเรื่องของการปั้นนางเอกหน้าใหม่ประดับวงการมาโดยตลอด อีกทั้งภาพยนตร์ของจีทีเอชล้วนจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ที่มี คริส หอวัง เป็นนางเอก ก็ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น

ดังนั้น การได้จีทีเอชมาเป็นพันธมิตรจึงทำให้แคมเปญลักส์ปั้นดาวได้รับความสนใจมากขึ้น โดยแคมเปญนี้กินระยะเวลา 1 เดือน (11 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ 2552) และเป็นแคมเปญแรกของลักส์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18-27 ปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเจนเนอเรชั่นที่ลักส์ต้องต่อให้ติด โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาสาว (5 ปีที่ผ่านมาลักส์เคยออกแคมเปญ ลักส์ดาวค้นดาว ค้นหาดาวประดับจอแก้วมาแล้ว แต่ครั้งนั้นจับมือกับถกลเกียรติ วีรวรรณ)

“แคมเปญนี้ทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมและผูกพันกับแบรนด์ลักส์อย่างลึกซึ้งมากขึ้น แต่สำหรับผู้ชนะจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะถ่ายโฆษณากับลักส์หรือไม่ หรือจะมีความร่วมมือกันในรูปแบบใดต่อไป”

ด้วยกฎอันเคร่งครัดของยูนิลีเวอร์ทำให้วรรณิภาไม่สามารถบอกถึงตัวเลขงบการตลาดและส่วนแบ่งการตลาดของลักส์ได้ เธอบอกเพียงว่า ลักส์ยังคงเป็นผู้นำในตลาดนี้ไม่เปลี่ยนแปลงในสัดส่วนใกล้เคียงกับก่อนหน้านี้ ดังนั้น เมื่อย้อนกลับไปดูข้อมูลเดิมพบว่าลักส์มีส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 30% ทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 อย่างโพรเทคส์มากกว่าเท่าตัว

มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว 7,220 ล้านบาท เติบโต 13.5% ในปี 2552 (by segment)
สบู่ก้อน 4,350 ล้านบาท เติบโต 9.8%
สบู่เหลว 2,870 ล้านบาท เติบโต 20%

สัดส่วนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว (by functional)
เพื่อความงาม 57%
เพื่อสุขภาพ 32%
สำหรับเด็ก 10%

ที่มา : ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง

Key Strategy
-สร้างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18-27 ปี
-เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมในกิจกรรมและผูกพันกับแบรนด์ลักส์มากขึ้น
– ความต่อเนื่องในการสร้างแบรนด์