มีเดีย แลนด์สเคปที่เปลี่ยนไป จากประชากรไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสัดส่วน 82% กลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ต่างๆ จึงมุ่งไปที่ “ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง” เทรนด์ที่มาแรงต้องยกให้ Influencer Marketing จากการขยายตัวจำนวนผู้ใช้ “โซเชียล มีเดีย” และบรรดา “คอนเทนต์ ครีเอเตอร์” ในทุกแพลตฟอร์ม
บานิ แทน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาค บริษัท พ็อพส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน YouTube และ Social Media Platform กล่าวว่าพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ มีการเสพสื่อจากหลายแพลตฟอร์มและเชื่อถือข้อมูลจาก Influencer และกลุ่มเพื่อนจากการรีวิวสินค้าที่สามารถสร้างการรับรู้และและโน้มน้าวใจไปสู่การตัดสินใจซื้อ
ส่งผลให้กลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ Influencer Marketing หรือการทำตลาดโดยใช้บุคคล เน็ตไอดอล องค์กรดังๆ แฟนเพจที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือทางสังคมออนไลน์และมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เผยแพร่ข้อมูลและสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Instagram, Facebook และ YouTube
ในปี 2562 เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ผู้ทำเนื้อหา (Content Creator) เผยแพร่ผ่าน YouTube หรือ YouTuber และ Creator บนแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2561
YouTuber เบอร์ต้นราคาพุ่ง 1.2 ล้านต่อวิดีโอ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ YouTube ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มาจาก Facebook ได้ลดการเข้าถึง (Reach) ในการมองเห็นโฆษณาและเพจต่างๆ ประกอบกับพฤติกรรมการติดตามและการเข้าชม YouTube Channel ของผู้บริโภคสม่ำเสมอมากกว่า ทำให้ Influencer หลายรายที่มาจาก Social Media Platform อื่นๆ เริ่มเข้ามาใช้ YouTube โดยเฉพาะกลุ่มดาราและนักแสดงที่เคยใช้ Instagram เป็นช่องทางหลักของผู้ติดตาม
กระแสความนิยม Influencer ให้อัตราค่าจ้าง YouTuber มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ YouTuber ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ (Top–tier YouTuber) มีเรตราคาสูงสุดในตลาด ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อหนึ่ง YouTube Video ขณะที่ YouTuber ที่ได้รับความนิยมรองลงมา (Mid–tier YouTuber) มีการแข่งขันและตัดราคากันอย่างรุนแรง
ข้อมูลของ YouTube ณ วันที่ 6 มี.ค. 2562 พบว่า มี 6 ช่อง (Channel) ที่มีผู้ติดตาม (Subscriber) เกิน 10 ล้านราย มี 200 ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านราย
จากสถิติพบว่าในทุกๆ 3 วันจะมี 1 ช่องที่มีผู้เข้ามากดติดตามทะลุ 1 ล้านราย มี 2,500 ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 แสนราย และมี 3 ช่องที่มีผู้เข้ามากดติดตามทะลุ 1 แสนรายในทุกๆ วัน
แม้การทำ Influencer Marketing มีเรตราคาสูงสุดขึ้นเรื่อยๆ แต่ YouTuber ในกลุ่มที่ได้นิยมอันดับต้นๆ (Top–tier YouTuber) ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความคุ้มค่า เมื่อพิจารณาจากค่าโฆษณาต่อการชมวิดีโอ (Cost per View) มีเรตที่ต่ำกว่าการทำ Video Production และการซื้อโฆษณาเอง
“แบรนด์” โฟกัสผลลัพธ์ยอดขาย
ปัจจุบันเจ้าของแบรนด์และนักการตลาดจะให้ความสำคัญกับยอดขายจากผู้เข้าชม (Conversion) มากกว่าการเข้าถึง (Reach) และยอดการเข้าชม (Views) ของกลุ่มเป้าหมาย ปัจจัยสำคัญในการทำ Influencer Marketing เพื่อให้เกิดยอดขายคือ การเลือก Influencer ที่มีสามารถสร้างคอนเทนต์และสอดแทรก การโฆษณาแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม (Branded Content) รวมถึงการเลือก Influencer ที่มีภาพลักษณ์ตรงกับสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสาร จำนวนผู้ติดตามที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และความนิยมของ Influencer
การทำ Influencer Marketing ต้องให้ความสำคัญและระมัดระวัง เรื่องความปลอดภัยของแบรนด์ (Brand Safety) ในการทำโฆษณาออนไลน์ ที่โฆษณานั้นไม่ควรไปอยู่ในเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือใกล้กับโฆษณาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงความปลอดภัยด้านเนื้อหาสำหรับกลุ่มผู้ชมที่เป็นเด็ก (Kid Safety)
จากเทรนด์การตลาด Influencer ที่ได้รับความนิยม ทำให้พ็อพส์ (ประเทศไทย) เติบโต 3 เท่า จากการทำแคมเปญกว่า 200 แคมเปญกับลูกค้าในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอัตราการเติบโตสูง (Fast Moving Consumer Goods : FMCG) กลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มสายการบิน และอื่นๆ ปัจจุบันมี 2 ช่อง คือ POPS TV Thailand และ POPS Kids Thailand ทาง YouTube Channel และ Facebook