ไม่ได้มาเล่นๆ ซะแล้วเมื่อ ByteDance สตาร์ทอัปต้นสังกัดแอปพลิเคชันวิดีโอสั้น “TikTok” โชว์ตัวเลขผู้ใช้รวมทะลุ 1 พันล้านคน โดยส่วนหนึ่งของผู้ใช้กลุ่มนี้อยู่นอกประเทศจีน
ByteDance เป็นสตาร์ทอัปสัญชาติปักกิ่งผู้หนุนหลังให้แพลตฟอร์มดาวรุ่งอย่าง TikTok สามารถแจ้งเกิดได้ในหลายประเทศ นอกจาก TikTok บริษัท ByteDance ยังมีแพลตฟอร์มวิดีโออื่นที่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้หลายล้านราย ล่าสุดผู้บริหารของ ByteDance ประกาศความสำเร็จที่งานเทศกาลภาพยนตร์เซี่ยงไฮ้ ว่าฐานผู้ใช้รวมที่ ByteDance มีนั้นทะลุหลักพันล้านรายแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
แอปพลิเคชันอื่นของ ByteDance มีจำนวนเกิน 10 แพลตฟอร์ม หนึ่งในนั้นคือ Jinri Toutiao แพลตฟอร์มรวมข่าว, Top Buzz แพลตฟอร์มวิดีโอฮิต และ FaceU แอปพลิเคชันด้านเซลฟี่ โดย TikTok เป็นแอปเดียวที่สามารถแจ้งเกิดได้ในระดับโลก
สำหรับ TikTok นั้นเป็นแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้สามารถแบ่งปันวิดีโอสั้นที่ถ่ายทอดภาพตัวเองขณะทำลิปซิงค์ หรือการทำปากเหมือนนักร้องตามเสียงเพลง นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอทำอาหาร เต้นรำ หรือวิดีโอตลก
โดยเดือนมีนาคม TikTok สามารถขึ้นเป็นแอปที่ดาวน์โหลดมากที่สุดใน App Store ของ Apple เป็นเวลา 5 ไตรมาสติดต่อกัน กลายเป็นแอปที่ดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
เฉพาะแพลตฟอร์มวิดีโอฮิตอย่าง TikTok ข้อมูลพบว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหลัก 1 พันล้านครั้งทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยเซ็นเซอร์ทาวเวอร์ (Sensor Tower) พบว่าเกือบ 100 ล้านดาวน์โหลดมาจากสหรัฐอเมริกาและ 250 ล้านมาจากอินเดีย
ความสำเร็จของ TikTok ถูกมองว่ามาจากกลยุทธ์การทำให้แตกต่างจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นของจีน TikTok ไม่เหมือนกับ WeChat ของ Tencent, Sina Weibo และ Youku ของอาลีบาบา ซึ่งล้วนยังหืดจับ และต้องพยายามอีกมากกว่าจะได้ใจฐานลูกค้านอกบ้านเกิด
ทั้งนี้ความสำเร็จของ TikTok ถือว่าต่างจาก WeChat เพราะ WeChat นั้นแม้จะมีผู้ใช้งานเกินหลักพันล้านคนในปีที่แล้ว แต่ฐานผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในประเทศจีน เมื่อ TikTok สามารถขยายฐานในตลาดโลกได้ดีกว่า TikTok จึงเป็นไพ่ใบสำคัญที่ทำให้ ByteDance ดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกได้
ตัวอย่างเช่นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอย่าง SoftBank รายงานระบุว่าการอัดฉีดเงินสดจาก SoftBank ทำให้ ByteDance มีมูลค่าบริษัทไม่ต่ำกว่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
หากคำนวณด้วยมูลค่านี้ ByteDance จะเป็นสตาร์ทอัปที่มีค่ามากที่สุดในโลกนำหน้า The We Company เจ้าของบริการออฟฟิศสำหรับฟรีแลนซ์ชื่อ WeWork และจูล Juul สตาร์ทอัปผู้พัฒนาบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นสำหรับต้นสังกัด TikTok เพราะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา TikTok ถูกตั้งข้อหาจากคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐ (Federal Federal Trade Commission) ว่าดำเนินการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีอย่างผิดกฏหมาย ข้อหานี้มีผลโดยตรงกับแอปพลิเคชัน Musical.ly แอปแชร์วิดีโอที่ถูกควบรวมกับ TikTok ตั้งแต่ปี 2017
ขณะที่ในอินเดีย TikTok ถูกถอดออกจากร้านแอปสโตร์ในเดือนเมษายนเพราะข้อหาทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อเนื้อหาลามกอนาจาร และเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอื่น คำสั่งแบนถูกยกเลิกหลังจากมีคำสั่งออกมา 2 สัปดาห์ อานิสงส์จากการที่ ByteDance สามารถอุทธรณ์คำตัดสินของศาลได้สำเร็จ
ต้องยอมรับว่าตัวเลขผู้ใช้กว่า 1 พันล้านรายนั้นเป็นผลงานที่น่าประทับใจสำหรับสตาร์ทอัปอายุ 7 ขวบอย่าง Bytedance ตัวเลขนี้ทำให้โลกรอดูว่าต้นสังกัดของ TikTok จะไล่ตาม Facebook ซึ่งมีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 5 พันล้านคนได้เมื่อไร โดยฐานผู้ใช้ทั้ง 5 พันล้านรายนั้นรวมทั้งแพลตฟอร์มในเครืออย่าง WhatsApp, Messenger และ Instagram.
