1 กรกฎาคม 2019 ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เพิ่งประกาศดีลใหญ่ ขายธุรกิจประกันชีวิตทั้งหมดในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCB Life ซึ่ง SCB ถือหุ้น 99% ให้กลุ่มเอฟดับบลิวดี (FWD Group Financial Services Pte. Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตระดับเอเชีย ด้วยมูลค่า 92,700 ล้านบาท ถือเป็นดีลการซื้อขายธุรกิจประกันชีวิตที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
SCB ระบุในงานแถลงข่าวครั้งนั้นว่า เงินที่ได้จากการขยายหุ้น SCB Life จะทำให้ SCB มีศักยภาพลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจของธนาคารมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับ Digital Disruption
อารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
การจะทำอะไรก็ตาม SCB จะคิดจากลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ถ้าอันไหนที่ทำไม่ได้ก็พร้อมจะพาร์ตเนอร์กับรายอื่นๆ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ลูกค้าแล้ว ยังทำเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้กับ SCB ด้วย
ลงทุนในรอบ Series F ให้กับ “Go-Jek”
คล้อยหลังจากประกาศดีลใหญ่ได้ราว 10 วัน SCB ก็เริ่มสเต็ปนี้ทันที โดยประกาศเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนในรอบ Series F ให้กับ “Go-Jek” สตาร์ทอัพระดับ Decacorn จากอินโดนีเซีย
ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูสำหรับคนไทยมากนัก แต่นี่คือบริการแบบออนดีมานด์รายใหญ่ด้วย 21 บริการ ที่มีฐานผู้ใช้และคนขับกว่า 2 ล้านคน และมีมูลค่าบริษัทกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 300,000 ล้านบาท
เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ทันทีว่า SCB ลงทุนให้กับ “Go-Jek” เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เพราะการระดุมทุนในรอบนี้ยังไม่สิ้นสุด แต่ที่แน่ๆ จะอยู่ในรอบการลงทุนร่วมกับ Mitsubishi Motors Corp. , Mitsubishi Corp. และ Mitsubishi UFJ Lease & Finance Co. ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 30,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ในเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Bloomberg ได้ออกรายงานว่า Google, JD.com Inc. และ Alphabet Holdings ของ Google Inc. ได้ร่วมลงทุนใน Series F ครั้งที่ 1 เป็นเงินกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกัน
จับมือ GET เพิ่มโซลูชั่นการชำระเงิน ขยายฐานลูกค้าระหว่างกัน
แน่นอนทุกการลงทุนย่อนหวังผลตอบแทนแต่ด้วยความที่ “Go-Jek” ไม่ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในเมืองไทยตรงๆ ดังนั้นจึงมีดีล 2 เกิดขึ้น โดย SCB จะเข้าไปกับมือเป็น Strategic Partnership กับ “GET” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินและเทคโนโลยีทางการเงินจาก Go-Jek
โดยผ่านนานกลุ่มคนขับ (GET driver) ร้านค้า (แม่มณีมีร้านอาหารราว 4,000 – 5,000 ร้านและ GET FOOD) และผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน (SCB EASY และ GET)
อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า การร่วมมือกับ GET ยังเป็นการขยายเพิ่มโซลูชั่นการชำระเงิน ที่ออกมาใน 3 รูปแบบได้แก่
1.กลุ่มคนขับ (GET driver) สามารถให้สินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) ได้ทันที ด้วยธนาคารสามารถเห็น Statement ได้ทันทีที่ เนื่องจากคนขับต้องเปิดบัญชีกับ SCB อยู่แล้ว เพื่อนำไปเชื่อมต่อกับ GET PAY ซึ่งเป็น e-Wallet ที่ทาง GET จะโอนเงินให้กับคนขับผ่านช่องทางนี้
อีกอย่างคือสามารถการนำเงินออกจาก GET PAY เพื่อเข้าบัญชีไทยพาณิชย์แบบฟรีค่าธรรมเนียม และใช้งานผ่าน SCB EASY ได้ทันที
2.กลุ่มร้านค้า (Merchant) กลุ่มร้านค้าก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับกลุ่มคนขับ สุดท้ายคือ กลุ่มผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน (End Consumer) จะสามารถใช้โซลูชันด้านการชำระเงินต่างๆ โดยจะคาดว่าจะใช้งานได้ภายในไตรมาส 3 นี้
อย่างไรก็ตามแม้ GET PAY และ SCB EASY จะมีลักษณะการใช้งานที่ไม่แตกต่างกันมากนั้น แต่ “อภิพันธ์” มองว่าจะไม่ทับซ้อนกัน เพราะ GET PAY จะใช้งานภายใน GET ส่วน SCB EASY ก็ใช้งานในร้านค้าข้างนอกซึ่งจะช่วยขยายฐานผู้ใช้งานระหว่างกันมากกว่า
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะมาช่วยสร้างความแตกต่างทางธุรกิจของความร่วมมือกับ GET ในครั้งนี้ คือ การต่อยอดและเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร (Key Business Partnership) ของธนาคารที่หลากหลายในกลุ่มต่างๆ
อาทิ รีเทล ค้าปลีก ค้าส่ง โรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล เช่นที่การจับมือกับ Google my Business ไปก่อนหน้านี้ ก็สามารถนำไปเชื่อมโยงได้ทันที
GET ตั้งเป้าโตไม่น้อยกว่า 2 ดิจิ
สำหรับ GET เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ให้มี 4 บริการหลัก ได้แก่ GET WIN บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง, GET DELIVERY บริการรับส่งพัสดุ, GET FOOD บริการส่งอาหาร และ GET PAY ที่อยู่ในช่วงทดลองให้บริการ
ช่วงที่ผ่านมา GET เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 1,000,000 ครั้ง เติบโต 230% มีคนขับในระบบกว่า 20,000 คน ทั้งมอเตอร์ไซค์วิน และคนขับส่งของ เติบโต 100% และร้านอาหารในระบบอีก 20,000 ร้าน
ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET กล่าวว่า
“GET ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเพราะเมื่อเทียบกับประชากรในกรุงเทพฯยังมีสัดส่วนการใช้บริการเรียกรถและบริการออนไลน์ฟู้ดเดลิเวอรี่เพียง 2-3% เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ผู้บริโภคเริ่มคุ้นชินกับบริการทั้งคู่แล้ว ดังนั้นปีนี้ GET จึงตั้งเป้าโตไม่น้อยกว่า 2 ดิจิ”