ถือเป็นข่าวใหญ่สำหรับสาวกเชนกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกในเมืองไทยเลยทีเดียว เมื่อ Starbucks ออกมาประกาศปรับวิธีคิด Rewards แบบใหม่ ทำให้สามารถเลื่อนระดับเป็น Gold Level ได้เร็วขึ้น แต่ก็ถูกแฟนๆ ติงสิทธิประโยชน์จะหายไปหรือไม่?
เดิมนั้น Starbucks Rewards จะถูกแบ่งออกเป็น 3 Level ซึ่งจะมีสิทธิเศษแตกต่างกัน ได้แก่
Welcome Level หลังจากลงทะเบียนบัตรสตาร์บัคส์ การ์ด และเมื่อคุณซื้อเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุก 12 แก้วภายในระยะเวลา 90 วัน คุณจะได้รับเครื่องดื่มขนาด Tall ฟรี 1 แก้ว ในกรณีที่บัตรสูญหายหรือถูกขโมย ยอดเงินในบัตรของคุณจะได้รับการคุ้มครอง
Green Level ต้องสะสมดาวให้ครบ 100 ดวง ซึ่ง 1 ดวง = 100 บาท นั้นหมายความว่าจะต้องซื้อสินค้า Starbucks ให้ครบ 10,000 บาท เพื่อให้อยู่ในระดับ Green และถ้าต้องการอยู่ในระดับนี้ต่อในปีถัดไปต้องสะสมให้ครบอีก 100 ดวง เพื่อรับสิทธิพิเศษ อาทิ เครื่องดื่มและขนมฟรีในวันเกิด ปฏิทินตั้งโต๊ะปีใหม่ และส่วนลด 5%
Gold Level ถือเป็นระดับสูงสุดซึ่งจะต้องสะสมให้ครบ 250 ดวง ซึ่งคำนวณเป็นเงินที่ต้องซื้อสินค้า 25,000 บาท แต่ถ้าอยู่ใน Green Level ต้องสะสมเพิ่มอีก 150 ดวง และถ้าต้องการอยู่ในระดับนี้ต่อในปีถัดไปต้องสะสมให้ครบอีก 250 ดวง
สำหรับสิทธิพิเศษมีทั้ง ของขวัญปีใหม่ ซึ่งในปีที่ผ่านมาให้ PowerBank และปฎิทิน โดยแต่ละปีก็จะให้ไม่เหมือนกัน ส่วนลด 10% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการในโอกาสพิเศษ และสิ่งที่ยืนยันว่าคุณเป็นแฟนพันธ์ุแท้ของ Starbucks คือ การได้ “บัตรสตาร์บัคส์ การ์ด Gold Card” ที่จะพิมพ์ชื่อคุณบนหน้าบัตรเลย
แต่ล่าสุด Starbucks ปรับวิธีคิด Rewards ใหม่ โดยเปลี่ยนวิธีคิดจาก 100 บาท = ดาว 1 ดวง เป็น 25 บาท = ดาว 1 ดวง หากสะสมดาวครบ 300 ดวงจะขึ้นเป็นระดับ Gold ทันที นั้นหมายความว่า จากเดิมต้องจ่ายถึง 25,000 บาท ก็จะเหลือเพียง 7,500 บาทก็ขึ้นเป็นระดับ Gold ไดัเลย
ยิ่งไปกว่านั้นได้ปรับระดับให้เหลือแค่ Green Level และ Gold Level ส่วน Welcome Level หายไป และการได้รับเครื่องดื่มฟรีจากเดิมซื้อ 12 แก้วจะได้ฟรี 1 แก้วถูกเปลี่ยนเป็นต้องสะสม 120 ดวงแทน
แว่วๆ ว่า วิธีคิดใหม่จะเริ่มตั้งแต่ 16 สิงหาคม เป็นต้นไป
ข่าวนี้ได้สร้างความฮือฮาและเกิดเป็นดราม่าขึ้นมาทันทีว่า เมื่อปรับเปลี่ยนเช่นนี้แล้ว สิทธิพิเศษที่เหล่าแฟนพันธุ์แท้เคยได้รับจะหายไปหรือไม่?
ข้อมูลจากคุณ Sagarin Komsun ได้ออกมาไขความกระจ่างหลังจากโทรสอบถามกับ Starbucks ว่า
บัตรแข็งหลังจากนี้จะไม่มีแล้ว ใครที่ Gold ก่อนโปรแกรมใหม่มา ให้โทรแจ้งเพื่อติดตามและขอรับบัตรแข็ง ส่วนเครื่องดื่มวันเกิดและของขวัญปีใหม่ยังมีเหมือนเดิม แต่ต้องเป็น Gold เท่านั้น
หลายคนมองว่าถึงการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะทำให้ Starbucks ได้ฐานผู้ใช้ Rewards เพิ่มมากขึ้นก็จริง แต่จะส่งผลกระทบสำหรับผู้ที่มี Brand Loyalty อยู่แล้วหรือไม่ เพราะสิทธิพิเศษหลายๆ อย่างก็ได้ปรับเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม บางคนถึงขนาดที่ว่าควรจะสะสมต่อไปหรือว่า หยุดดี?
ทั้งนี้ คงต้องรอ Starbucks ประเทศไทยออกมาชี้แจงอีกครั้งว่า ทำไมถึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิธีคิดคะแนน Rewards ใหม่ และล้างไพ่ใบเดิมทั้งหมดด้วย.