บิ๊กบูมของ “ทีวีดาวเทียม” ทำให้ “พีเอสไอ” ได้รับแรงบวก พลิกโฉมธุรกิจจนเติบโตไม่ยั้งหลังจากอยู่ในธุรกิจจานดาวเทียมมานาน 17 ปี จากยอดผลิตที่เคยได้ไม่ถึงวันละ 100 จาน และต้องหาตลาดส่งออกต่างประเทศ ทั้งพม่าไปจนถึงดูไบ มาเป็นยอดผลิตวันหนึ่ง 5,000 จาน และงดรับออร์เดอร์จากต่างประเทศ จากการเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่มีพนักงานไม่กี่คน มาเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องมีหุ่นยนต์มูลค่า 2 ล้านบาท 5 ตัวสั่งตรงจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยผลิตจานให้ทันกับความต้องการ
พัฒนาของจานดาวเทียมตลอด 17 ปี จากจุดเปลี่ยนที่รัฐเปิดเสรีให้คนทั่วไปมีจานดาวเทียมได้ และผู้ผลิตคอนเทนต์ลงมาเล่นมากขึ้น ทำให้ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และ Economy of scale ใหญ่พอที่ทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง ในปี 2010 “สมพร ธีระโรจนพงษ์” ซีอีโอ ของพีเอสไอ โฮลดิ้ง ผู้ผลิตจานดาวเทียม ซีแบนด์ จึงมั่นใจว่าตลาดจานดาวเทียมจะเติบโตสูง เฉพาะของพีเอสไอคาดว่าจะมียอดผลิตถึง 1.5-1.6 ล้านจาน จากปี 2009 ที่มีประมาณ 1 ล้านจาน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 60-70% ของตลาดจานดาวเทียมทั้งระบบเคยูแบนด์ และซีแบนด์
พีเอสไอมีจุดแข็งที่มีเครือข่ายช่างทั่วประเทศที่เคยเป็นลูกศิษย์ของ “สมพร” ซึ่งอดีตเป็นอาจารย์สอนช่างอิเล็กทรอนิกส์ และปัจจุบันมีจำนวนกว่า 5,000 คนที่พร้อมติดตั้งจานพีเอสไอ ที่เป็นจานตะแกรงโปร่ง สีดำให้ลูกค้า บวกกับจุดแข็งของคุณสมบัติทางเทคนิคคือเมื่อฝนตก การรับระบบซีแบนด์ทำให้ผู้ชมยังได้ชมภาพชัด ขณะที่จานขนาดเล็กในเคยูแบนด์ ภาพจะสะดุดหรือรับสัญญาณไม่ได้เมื่อฝนตก จนกลายเป็นการสื่อสารจุดแข็งอย่างตรงประเด็นว่า “ชัดล้าน%” ทำให้พีเอสไอเป็นที่จดจำ
“สมพร” เปิด Mac Book โชว์กราฟความเติบโตของจานดาวเทียมพีเอสไอที่จะถึงจุดสูงสุดในปี 2013 และจะเริ่มชะลอตัวลง และเขายังเปิดไอโฟนให้ดูแผนการโปรโมตจานพีเอสไอช่วงที่ผ่านมา ด้วยสูตรการเป็นพันธมิตรที่ดีกับค่ายคอนเทนต์ที่ผลิตรายการ ทำให้จานพีเอสไอยิ่งเติบโต จนผลิตไม่ทัน และงดส่งออกไปต่างประเทศ โดยทำยอดขายในปีที่ผ่านมามากกว่า 2,000 ล้านบาท
2 ปีที่ผ่านมาพนักงานของพีเอสไอหลายคนได้โบนัสสูงถึง 8-9 เดือน และอีกจำนวนหนึ่ง “สมพร” บอกว่า ได้ในหลักสิบเดือน จากหลักการบริหารที่เขาบอกว่าใครทำได้มากก็ได้มาก นอกเหนือจากหลักการให้สวัสดิการทั้งอพาร์ตเมนต์ใกล้ที่ทำงานเพื่อความสะดวกและปลอดภัยแก่พนักงาน และอาหารกลางวันราคาถูกเพียงมื้อละ 8 บาท
พีเอสไอกำลังต่อยอดธุรกิจของเขาเพื่อรองรับอนาคตเมื่อจานดาวเทียมปรากฏอยู่บนหลังคาบ้านของทุกคนแล้ว โดยขณะนี้ได้เปิดช่องทีวีดาวเทียม “พีเอสไอ แชนนอล” ที่นอกจากมีรายการสารคดีแล้ว ยังเป็นช่องทางการสื่อสารที่พีเอสไอติดต่อและให้ความรู้กับช่างและศูนย์ตัวแทนติดตั้งทั่วประเทศ ส่วนธุรกิจที่กำลังจะเปิดในปีนี้คือ Turnkey Solution สำหรับเจ้าของคอนเทนต์ที่ต้องการเปิดช่องทีวีดาวเทียมของตัวเอง และกำลังมองไปถึงการรวบรวมคอนเทนต์พิเศษหลายช่องเพื่อนำเสนอเป็นบริการเสริม สำหรับลูกค้าที่พร้อมจ่ายค่าบริการเพิ่ม
จากเพียงแค่จานดาวเทียมประดับหน้าบ้านบ่งบอกฐานะ เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว กลายเป็นความจำเป็นพื้นฐานที่ทุกบ้านต้องหาซื้อเพื่อชมทีวีได้สนุกขึ้น พีเอสไอคือหนึ่งในวงจรของธุรกิจทีวีดาวเทียมที่กำลังเติบโตไม่ยั้ง
