น่าจะเซอร์ไพรส์กันไม่น้อยเมื่อ Shopee คว้าตัว “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ยอดนักเตะชาวโปรตุเกสมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แถมยังจับให้เต้นท่าเบบี้ชาร์คในโฆษณาอีกด้วย แต่ปรากฏว่าคลิปโฆษณานี้กลายเป็นไวรัลทั่วอินเทอร์เน็ตเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และทำให้ไตรมาสที่ 3 ของ Shopee มียอดขายเติบโต 3 เท่าเทียบกับปีก่อน
“เราทำสถิติมียอดจำนวนสั่งซื้อเติบโตขึ้น 3 เท่าในแคมเปญ 9 เดือน 9 เมื่อเทียบกับแคมเปญเดียวกันในช่วงปีก่อนหน้า สถิตินี้เกิดขึ้นได้จากแคมเปญสร้างแบรนด์ของเราที่มียอดนักฟุตบอล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมด้วยและทำให้ประสบความสำเร็จ” ฟอร์เรสท์ ลี ซีอีโอ Sea Limited บริษัทแม่ของ Shopee กล่าวหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้
ไม่เพียงแต่แคมเปญ 9.9 เท่านั้น ตามรายงานผลประกอบการของ Shopee ปรากฏว่าไตรมาส 3 ปี 2019 แพลตฟอร์มนี้มียอดรวมจำนวนสั่งซื้อจากทุกประเทศที่ให้บริการ 321 ล้านครั้ง ซึ่งเติบโตเป็นเท่าตัวจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน คิดเป็นมูลค่า GMV ของสินค้าที่สั่งซื้อ 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 69.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เมื่อคำนวณเป็นรายได้เข้าบริษัท Sea แพลตฟอร์ม Shopee ทำรายได้ไป 208.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตถึง 313.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าโรนัลโด้กับท่าเต้นสุดแปลกของเขาช่วยให้บริษัทพุ่งทะยานได้จริง
นอกจาก Shopee แล้ว อีกหนึ่งขาธุรกิจของ Sea คือกลุ่มธุรกิจบันเทิงดิจิทัล หรือก็คือบรรดาเกมดังอย่าง RoV, Free Fire, Call of Duty: Mobile ยังเติบโตดีเช่นกัน โดยไตรมาสล่าสุดทำรายได้ไป 451 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 2 เท่าจากช่วงเดียวกันปีก่อน
เมื่อรวมทั้งเครือแล้ว ไตรมาส 3 ปีนี้ Sea ทำรายได้ไป 610 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถลดการขาดทุนได้ โดยรายงาน EBITDA ขาดทุนที่ 30.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนอยู่ 183.8 ล้านเหรียญสหรัฐ