จบตำนานนางฟ้า “Victoria’s Secret” ยกเลิกแฟชันโชว์ที่ทำมายาวนาน 24 ปี หลังคนดูลดฮวบ

Victoria's Secret

• ผู้ชมแฟชันโชว์ลดจาก 5 ล้านคนในปี 2017 เหลือ 3.3 ล้านคนในปี 2018
• แบรนด์ถูกโจมตีถึงทัศนคติเหยียดเพศและต่อต้านเฟมินิสต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
• Leslie Wexner ซีอีโอบริษัทแม่ของแบรนด์พัวพันกับ Jeffrey Epstein นักการเงินที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาค้าประเวณี
• ยอดขายแบรนด์ลดลงต่อเนื่อง 12 ไตรมาสรวด

L Brands บริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน Victoria’s Secret ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า บริษัทจะไม่มีการจัดงานและถ่ายทอดสดแฟชันโชว์ประจำปีในปีนี้ หลังจากเรตติ้งตกและกลายเป็นอีเวนท์ที่สร้างกระแสเชิงลบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“เราคิดว่ามันสำคัญมากที่จะต้องพัฒนาการตลาดของ Victoria’s Secret” Stuart Burgdoerfer ซีเอฟโอของ L Brands กล่าวกับนักวิเคราะห์ “โชว์เคยเป็นส่วนสำคัญมากในการสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจนี้ และเคยเป็นความสำเร็จด้านการตลาดที่น่าจดจำ ขณะนี้เรากำลังหาทางยกระดับแบรนด์และวิธีสื่อสารที่ดีที่สุดกับลูกค้า”

Victoria’s Secret จัดแฟชันโชว์และถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1995 แต่ในปีที่ผ่านมาโชว์ดังกล่าวกลับมียอดเรตติ้งผู้ชมตกลงต่ำสุดเท่าที่เคยมีการจัดงานมา โดยมีผู้ชมการถ่ายทอดสดเพียง 3.3 ล้านคน เรตติ้งอยู่ที่ 0.9 เทียบกับปี 2017 ที่มีผู้ชม 5 ล้านคน และเรตติ้งอยู่ที่ 1.5 นับว่าเป็นเรตติ้งที่ตกลงเร็วอย่างน่าใจหายภายในปีเดียว

แฟชันโชว์ของ Victoria’s Secret ที่เคยเป็นจุดขายกลับกลายเป็นจุดบอดของแบรนด์

แฟชันโชว์ของแบรนด์กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากสื่ออย่าง Cosmopolitan และ The Guardian เรียกโชว์นั้นว่า ‘เหยียดเพศ’ และ ‘ต่อต้านเฟมินิสต์’

ขณะที่สตาร์ทอัพผู้ผลิตชุดชั้นในที่กำลังมาแรงอย่าง Third Love โจมตีโชว์ของ Victoria’s Secret ว่าเป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่สูญเสียความใกล้ชิดกับผู้บริโภค ซีอีโอของ Third Love ถึงกับเขียนจดหมายเปิดผนึกเมื่อปีที่ผ่านมาว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Victoria’s Secret นั้น “ให้ความเห็นที่ลดทอนคุณค่าของผู้หญิง”

จดหมายดังกล่าวเป็นการตอบโต้เหตุการณ์เมื่อปี 2018 ที่ Ed Razek อดีตซีเอ็มโอของ L Brands กล่าวว่าแบรนด์จะไม่พิจารณาให้ ‘นางแบบข้ามเพศ’ อยู่ในโชว์ “ไม่ๆ ผมไม่คิดว่าเราควรมีนะ เพราะอะไรเหรอ? เพราะโชว์นี้คือแฟนตาซีน่ะสิ” Razek กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Vogue “โชว์นี้คืออีเวนท์ความบันเทิงพิเศษความยาว 42 นาที นั่นคือสิ่งที่มันเป็น”

Razek ออกมาขอโทษในเวลาต่อมาสำหรับความเห็นที่ “แข็งกระด้าง” ของเขา และลาออกจากบริษัทในปีนี้

Getty/ Dimitrios Kambouris

ในอดีต แฟชันโชว์ของ Victoria’s Secret คืออีเวนท์ประจำปีที่ผู้ชมรอคอย ด้วยการคัดเลือกนางแบบหน้าตาดี หุ่นบอบบางมาเป็น “นางฟ้า” สวมชุดชั้นในพร้อมกับปีกใหญ่โตเดินไปบนแคทวอล์ก ประกอบดนตรีและนักร้องที่ขึ้นมาแสดงบนเวที แต่ในยุคหลัง ทัศนคติของแบรนด์ที่สื่อให้เห็นว่าแบรนด์ไม่ได้มุ่งมั่นที่จะ ‘ครอบคลุมถึงผู้หญิงทุกคนในสังคม’ คือประเด็นหลักที่ทำให้แบรนด์ไม่ ‘ได้ใจ’ วัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักอีกแล้ว

ก่อนจะประกาศยกเลิกโชว์ในวันพฤหัสบดี เมื่อวันพุธ Victoria’s Secret เพิ่งเปิดเผยตัวเลขยอดขายที่ตกลงอีก 7% ไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งยอดขายที่ตกลงนี้เกิดขึ้นติดต่อกันทุกไตรมาสมาตั้งแต่ช่วง Q4/2016 สะท้อนให้เห็นว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ติดลบ ประกอบกับคู่แข่งที่เข้ามาแย่งตลาดอย่าง Target, Kohl’s, American Eagle และสตาร์ทอัพธุรกิจชุดชั้นในอีกมากมาย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัททำรายได้ลดลงเร็วเพียงใด

มรสุมของ Victoria’s Secret ไม่ได้มีเพียงแค่การถูกโจมตีเรื่องแฟชันโชว์ซึ่งเป็นดั่งหัวใจของแบรนด์เท่านั้น Leslie Wexner ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท L Brands ยังมีข่าวพัวพันกับ Jeffrey Epstein นักการเงินผู้ล่วงลับที่ถูกตั้งข้อหาค้าประเวณีเด็ก ข่าวนี้ยิ่งทำให้พายุโหมกระหน่ำแบรนด์หนักขึ้น

Epstein นั้นเคยเป็นผู้จัดการการเงินส่วนตัวให้กับ Wexner และเป็นทรัสตีให้มูลนิธิ Wexner ในรัฐโอไฮโอ แม้ว่า Wexner จะปฏิเสธว่าเขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับ Epstein ไปตั้งแต่ปี 2007 แล้วและรู้สึก “อับอาย” ที่เคยเชื่อใจบุคคลผู้นี้

แต่ดูเหมือนว่า…ผู้บริโภคยังไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองต่อตัวเขาและแบรนด์ไปในทางบวกได้

Source
Source