• ผู้ชมแฟชันโชว์ลดจาก 5 ล้านคนในปี 2017 เหลือ 3.3 ล้านคนในปี 2018
• แบรนด์ถูกโจมตีถึงทัศนคติเหยียดเพศและต่อต้านเฟมินิสต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
• Leslie Wexner ซีอีโอบริษัทแม่ของแบรนด์พัวพันกับ Jeffrey Epstein นักการเงินที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาค้าประเวณี
• ยอดขายแบรนด์ลดลงต่อเนื่อง 12 ไตรมาสรวด
L Brands บริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน Victoria’s Secret ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า บริษัทจะไม่มีการจัดงานและถ่ายทอดสดแฟชันโชว์ประจำปีในปีนี้ หลังจากเรตติ้งตกและกลายเป็นอีเวนท์ที่สร้างกระแสเชิงลบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“เราคิดว่ามันสำคัญมากที่จะต้องพัฒนาการตลาดของ Victoria’s Secret” Stuart Burgdoerfer ซีเอฟโอของ L Brands กล่าวกับนักวิเคราะห์ “โชว์เคยเป็นส่วนสำคัญมากในการสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจนี้ และเคยเป็นความสำเร็จด้านการตลาดที่น่าจดจำ ขณะนี้เรากำลังหาทางยกระดับแบรนด์และวิธีสื่อสารที่ดีที่สุดกับลูกค้า”
Victoria’s Secret จัดแฟชันโชว์และถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1995 แต่ในปีที่ผ่านมาโชว์ดังกล่าวกลับมียอดเรตติ้งผู้ชมตกลงต่ำสุดเท่าที่เคยมีการจัดงานมา โดยมีผู้ชมการถ่ายทอดสดเพียง 3.3 ล้านคน เรตติ้งอยู่ที่ 0.9 เทียบกับปี 2017 ที่มีผู้ชม 5 ล้านคน และเรตติ้งอยู่ที่ 1.5 นับว่าเป็นเรตติ้งที่ตกลงเร็วอย่างน่าใจหายภายในปีเดียว
แฟชันโชว์ของแบรนด์กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากสื่ออย่าง Cosmopolitan และ The Guardian เรียกโชว์นั้นว่า ‘เหยียดเพศ’ และ ‘ต่อต้านเฟมินิสต์’
ขณะที่สตาร์ทอัพผู้ผลิตชุดชั้นในที่กำลังมาแรงอย่าง Third Love โจมตีโชว์ของ Victoria’s Secret ว่าเป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่สูญเสียความใกล้ชิดกับผู้บริโภค ซีอีโอของ Third Love ถึงกับเขียนจดหมายเปิดผนึกเมื่อปีที่ผ่านมาว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Victoria’s Secret นั้น “ให้ความเห็นที่ลดทอนคุณค่าของผู้หญิง”
จดหมายดังกล่าวเป็นการตอบโต้เหตุการณ์เมื่อปี 2018 ที่ Ed Razek อดีตซีเอ็มโอของ L Brands กล่าวว่าแบรนด์จะไม่พิจารณาให้ ‘นางแบบข้ามเพศ’ อยู่ในโชว์ “ไม่ๆ ผมไม่คิดว่าเราควรมีนะ เพราะอะไรเหรอ? เพราะโชว์นี้คือแฟนตาซีน่ะสิ” Razek กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Vogue “โชว์นี้คืออีเวนท์ความบันเทิงพิเศษความยาว 42 นาที นั่นคือสิ่งที่มันเป็น”
Razek ออกมาขอโทษในเวลาต่อมาสำหรับความเห็นที่ “แข็งกระด้าง” ของเขา และลาออกจากบริษัทในปีนี้
ในอดีต แฟชันโชว์ของ Victoria’s Secret คืออีเวนท์ประจำปีที่ผู้ชมรอคอย ด้วยการคัดเลือกนางแบบหน้าตาดี หุ่นบอบบางมาเป็น “นางฟ้า” สวมชุดชั้นในพร้อมกับปีกใหญ่โตเดินไปบนแคทวอล์ก ประกอบดนตรีและนักร้องที่ขึ้นมาแสดงบนเวที แต่ในยุคหลัง ทัศนคติของแบรนด์ที่สื่อให้เห็นว่าแบรนด์ไม่ได้มุ่งมั่นที่จะ ‘ครอบคลุมถึงผู้หญิงทุกคนในสังคม’ คือประเด็นหลักที่ทำให้แบรนด์ไม่ ‘ได้ใจ’ วัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักอีกแล้ว
ก่อนจะประกาศยกเลิกโชว์ในวันพฤหัสบดี เมื่อวันพุธ Victoria’s Secret เพิ่งเปิดเผยตัวเลขยอดขายที่ตกลงอีก 7% ไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งยอดขายที่ตกลงนี้เกิดขึ้นติดต่อกันทุกไตรมาสมาตั้งแต่ช่วง Q4/2016 สะท้อนให้เห็นว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ติดลบ ประกอบกับคู่แข่งที่เข้ามาแย่งตลาดอย่าง Target, Kohl’s, American Eagle และสตาร์ทอัพธุรกิจชุดชั้นในอีกมากมาย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บริษัททำรายได้ลดลงเร็วเพียงใด
มรสุมของ Victoria’s Secret ไม่ได้มีเพียงแค่การถูกโจมตีเรื่องแฟชันโชว์ซึ่งเป็นดั่งหัวใจของแบรนด์เท่านั้น Leslie Wexner ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท L Brands ยังมีข่าวพัวพันกับ Jeffrey Epstein นักการเงินผู้ล่วงลับที่ถูกตั้งข้อหาค้าประเวณีเด็ก ข่าวนี้ยิ่งทำให้พายุโหมกระหน่ำแบรนด์หนักขึ้น
Epstein นั้นเคยเป็นผู้จัดการการเงินส่วนตัวให้กับ Wexner และเป็นทรัสตีให้มูลนิธิ Wexner ในรัฐโอไฮโอ แม้ว่า Wexner จะปฏิเสธว่าเขาเลิกยุ่งเกี่ยวกับ Epstein ไปตั้งแต่ปี 2007 แล้วและรู้สึก “อับอาย” ที่เคยเชื่อใจบุคคลผู้นี้
แต่ดูเหมือนว่า…ผู้บริโภคยังไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองต่อตัวเขาและแบรนด์ไปในทางบวกได้