เปิดแล้ว! Komehyo “แบรนด์เนมมือสอง” จากญี่ปุ่น กวาดคนไทยกระเป๋าหนักช้อปคนละ 2-3 แสนบาท

Komehyo-แบรนด์เนมมือสอง-open
  • Komehyo จับมือ สหพัฒน์ เปิดร้านรับซื้อ-ขายกระเป๋าและนาฬิกาแบรนด์เนมมือสอง สาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์
  • วางเป้าภายใน 3 ปีมี 3-4 สาขา ยอดขาย 300-400 ล้านบาทต่อปี
  • เปิดพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยช้อปแบรนด์เนมมือสองในสาขาที่ญี่ปุ่นปีละ 400-500 ล้านเยน ใช้จ่าย 2-3 แสนบาทต่อคนต่อครั้ง
  • สินค้ายอดฮิตของคนไทย กระเป๋า Hermes และนาฬิกา Patek Philippe

หลังจากประกาศร่วมก่อตั้ง บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 และเริ่มเปิดศูนย์รับซื้อสินค้าในไทยที่ตึกสยามพิวรรธน์เมื่อ 6 เดือนก่อน ในที่สุดร้าน Komehyo (โคเมเฮียว) สาขาแรกในประเทศไทยได้ฤกษ์เปิดร้านขายอย่างเป็นทางการแล้วที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมสินค้าเบื้องต้น 1,000 กว่าชิ้น ทั้งกระเป๋าและนาฬิกาแบรนด์เนมขนมาจัดแสดงในร้านและบนหน้าเว็บไซต์

โดย “วิชัย กุลสมภพ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง เปิดเผยว่าฝั่งสหพัฒน์เป็นผู้สนใจ ‘จีบ’ ให้ Komehyo ยอมมาเปิดร้านที่ประเทศไทย เพราะทราบว่าคนไทยไปช้อปในร้านที่ญี่ปุ่นจำนวนมาก และ Komehyo เองเป็นร้านที่ได้รับการยอมรับ จากประวัติก่อตั้งยาวนาน 70 ปีและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น มีขั้นตอนการรับซื้อและขายชัดเจน โปร่งใส เสียภาษีตรงไปตรงมา

Komehyo-แบรนด์เนมมือสอง-01
บรรยากาศภายในร้าน Komehyo

“ตอนแรกเขาไม่มั่นใจเพราะกลัวไม่มีคนนำของมาขายให้ แต่เราบอกว่า ตลาดไทยพัฒนาไปมากแล้ว คนไทยเดี๋ยวนี้รู้จักขายมากกว่าเก็บไว้แล้วไม่ได้ใช้” วิชัยกล่าวถึงเบื้องหลังดีล

 

บริษัทแม่ฮุบ Brand off Tokyo แล้ว

ฝ่าย “ทาคุจิ อิชิฮาร่า” ประธาน บริษัท โคเมเฮียว จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่แบรนด์ Komehyo เข้ามาเปิดหน้าร้านนอกญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้เคยเปิดสาขาที่ฮ่องกงแต่เป็นศูนย์รับซื้อขายส่ง ไม่มีหน้าร้าน และมี 2 สาขาที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แต่เป็นดีลร่วมทุนที่ใช้ชื่อแบรนด์ท้องถิ่นของบริษัทจีน ทำให้ไทยเป็นแห่งแรกที่เข้ามาพร้อมแบรนด์ตนเอง

Komehyo-แบรนด์เนมมือสอง-management-team
(จากซ้าย) “วิชัย กุลสมภพ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง, “ทาคุจิ อิชิฮาร่า” ประธาน บริษัท โคเมเฮียว จำกัด และ “ฮิเดโอะ ทาเคโอะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด

ในญี่ปุ่นนั้น ธุรกิจของ Komehyo ทำเงินปีละกว่า 45,000 ล้านเยน เป็นบริษัทซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองอันดับ 1 ของประเทศ มีมาร์เก็ตแชร์ 18% จากมูลค่าตลาดของมือสองในญี่ปุ่นปีละ 2.5 แสนล้านเยน

แต่เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นอยู่ในช่วงประชากรลดลง ทำให้บริษัทต้อง หาลู่ทางเติบโตนอกประเทศ จึงตอบรับดีลจากสหพัฒน์ โดยในญี่ปุ่นปัจจุบันมี 39 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่ม 3 สาขาภายในสิ้นปีนี้ แต่ที่จะเปิดเพิ่มนั้นเป็น “ศูนย์รับซื้อ”

ขณะที่ต่างประเทศมีโอกาสเป็นช่องทางจำหน่ายแทน อย่างในไทยจะมีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นด้วย แต่จะเน้นรับซื้อภายในประเทศมากกว่าเพราะการนำเข้าจากญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีเพิ่ม 5% ทำให้ราคาสูงขึ้น

ปัจจุบันร้านมีศูนย์รับซื้อที่อาคารสยามพิวรรธน์ ผู้สนใจขายต้องนัดหมายทางเว็บไซต์ก่อนนำสินค้าเข้าไปเสนอขาย

นอกจากนี้ Komehyo เพิ่งเทกโอเวอร์ร้าน Brand off Tokyo คู่แข่งร้านขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง เนื่องจากร้านนี้แม้จะมีสาขาในญี่ปุ่นเพียง 8 สาขา แต่มีสาขาต่างประเทศทั้งไต้หวัน ฮ่องกง และไทยด้วย จะเป็นช่องทางให้ Komehyo ขยายไปต่างประเทศได้เร็วขึ้น

 

คนไทยช้อปเก่ง ซื้อแบรนด์เนมญี่ปุ่นปีละ 400-500 ล้านเยน

ด้านเป้าหมายในไทย “ฮิเดโอะ ทาเคโอะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเมเฮียว จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปีหน้าทำยอดขาย 54 ล้านบาท และภายในปี 2565 จะขยายเพิ่มเป็น 3-4 สาขา ทำให้มียอดขายแตะ 300-400 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดแบรนด์เนมมือสองไทยที่บริษัทประเมินว่าอยู่ที่ราว 2,000-3,000 ล้านบาท

Komehyo-แบรนด์เนมมือสอง-watches
สินค้าในร้านจะแบ่งเกรดตามสภาพ ยกตัวอย่างนาฬิกาข้อมือ เกรด N = ไม่เคยใช้งาน / เกรด S = เคยลองใส่เท่านั้น / เกรด A = ไม่มีรอยขีดข่วนเด่นชัด / เกรด B = มีรอยขึดข่วนเห็นชัด

เป็นตัวเลขที่สูงขึ้น 3 เท่า หากเปรียบเทียบกับข้อมูลของ Komehyo ว่า คนไทยเข้าไปช้อปในสาขาที่ญี่ปุ่นรวมเป็นเงินปีละ 400-500 ล้านเยน (ประมาณ 110-138 ล้านบาท) และในสัดส่วนผู้ซื้อ 15% ของร้าน Komehyo ที่เป็นชาวต่างชาติ คนไทยถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่อันดับ 2 รองจากชาวจีน โดยมีสัดส่วน 20-30% ในกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติทั้งหมด สถิตินี้เป็นสิ่งที่ทำให้การเปิดสาขาไทยน่าสนใจ

 

ช้อปครั้งละ 2-3 แสนบาท Hermes – Patek แบรนด์ในดวงใจ

ทาเคโอะกล่าวด้วยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคไทย แม้จำนวนคนไม่เยอะเท่าชาวจีนแต่แต่ละคน “จ่ายหนัก” เพราะถ้าคิดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งจะสูงถึง 2-3 แสนบาท!!

โดยแบรนด์ในดวงใจที่คนไทยชื่นชอบจากทั้งหมด 35 แบรนด์ที่ร้านรับซื้อขาย หากเป็นกลุ่มกระเป๋า ได้แก่ 1.Hermes (โดยเฉพาะรุ่น Berkin และ Kelly) 2.Chanel และ 3.Louis Vuitton ส่วนนาฬิกาข้อมือ ได้แก่ 1.Patek Philippe 2.Rolex และ 3.Audemars Piguet

สินค้าที่แพงที่สุดที่มีขายในขณะนี้ นาฬิกาข้อมือ Patek Philippe Aquanaut Travel Time ราคาขาย 1.8 ล้านบาท

สินค้าที่โชว์ในร้านส่วนใหญ่จึงเป็นของที่ตรงกับความชอบคนไทย และอยู่ในช่วงราคาหลักหมื่นถึงแสนเป็นหลัก แต่ถ้าดูในเว็บไซต์จะพบสินค้าหลักพันบาทให้เลือกเช่นกัน

 

ใช้ดาต้าเบสให้ราคาตลาด

เมื่อถามว่า Komehyo จะให้ราคารับซื้อดีกว่าร้านมือสองอื่นๆ หรือโรงรับจำนำหรือไม่ ทาเคโอะตอบว่า ‘บอกยาก’ แต่ร้านจะให้ราคาเหมาะสมตามราคาตลาดโลก ใช้ราคาเดียวกับญี่ปุ่น โดยบริษัทมีจุดเด่นด้วยดาต้าเบสการรับซื้อในญี่ปุ่นปีละ 1.6 ล้านชิ้น และมีการติดตามราคาประมูลของแบรนด์เนม ทำให้รู้การขึ้นลงของราคาตลาด

“ของบางชิ้นถ้าเป็นที่ต้องการในตลาด หายาก บางครั้งได้ราคาดีกว่าตอนซื้อมือหนึ่ง แต่ถ้าเป็นของทั่วไปและอยู่ในสภาพไม่ดีนัก ราคาจะอยู่ที่ 20-30% ของราคามือหนึ่ง” ทาเคโอะกล่าว “และของบางอย่างคนไม่รู้จัก ประเมินราคาไม่ถูก แต่เราเชื่อว่าเรารู้จักทุกแบรนด์ทุกรุ่น”