เจาะกลยุทธ์ “เอเซอร์” ปี 2020 เติบโตอย่างไร เมื่อกระแสเกมมิ่งเริ่มแผ่ว

แม้ตลาดไอทีจะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจมากนัก เพราะตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะ “เกม” ที่เป็นปัจจัยหลักที่ดันให้ตลาดไอทีกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ในปีนี้แม้การเติบโตของสินค้ากลุ่มเกมมิ่งยังมี แต่กระแสกลับแผ่วลง ดังนั้น “เอเซอร์” จึงต้องหันมาหาตลาดใหม่ เพื่อรักษาตำแหน่งเบอร์ 1 ในตลาดไอทีไทยให้ได้

ลุยตลาดบางเบาจับชดเชยตลาดเกมมิ่ง

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไทยในปีนี้คาดว่าปิดที่ 2.35 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก 1.2 ล้านเครื่อง ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าคาดว่าเติบโตขึ้น เนื่องจากตลาดเกมมิ่งและตลาดบางเบา (thin&light) เป็นกลุ่มที่มีราคาสูงยังสามารถทำตลาดได้ดี ปัจจุบันกลุ่มบางเบาเริ่มต้นที่ 18,000-50,000 บาท มีสัดส่วนประมาณ 35% ของตลาด ส่วนเกมมิ่งเริ่มต้นที่ 18,000 บาทจนถึงหลักแสน มีสัดส่วนประมาณ 30-40%

สำหรับเอเซอร์ยังคงเป็นเบอร์ 1 ในตลาด ทั้งด้านจำนวนเครื่องและมูลค่าตลาด โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมาเอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาด 21% และส่วนแบ่ง 28% ในตลาดโน้ตบุ๊ก โดยมีสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มบางเบา 30% กลุ่มเกมมิ่ง 30% และสินค้าทั่วไป 40% โดยปีหน้าเอเซอร์จะเน้นหนักที่กลุ่มบางเบา โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกลุ่มบางเบาเป็น 40% โดยจะลดสัดส่วนกลุ่มทั่วไปให้เหลือราว 20-30%

“ผู้บริโภคเลือกซื้อที่ประสิทธิภาพมากกว่าราคา โดยดูจากการใช้งานเป็นหลัก ดังนั้นปีหน้าสินค้าจะยิ่งแบ่งกลุ่มชัด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น เราเองก็ต้องพยายามหาสินค้าที่ตอบโจทย์เฉพาะทางมากขึ้น เช่น กลุ่มบางเบาเป็นที่ต้องการมากขึ้นในกลุ่มครีเอเตอร์ ส่วนกระแสเกมมิ่งปีนี้เริ่มแผ่วลง แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนตลาด”

ช่วงสิ้นปีนี้ เอเซอร์เปิดตัวสินค้า 5 รุ่น เพื่อเจาะตลาดบางเบา ได้แก่ Swift 1 ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท เน้นเจาะกลุ่มนักศึกษา Swift 3 ราคาเริ่มต้น 13,990 บาท เจาะกลุ่ม Frist Jobber ส่วน Swift 5 เริ่มต้นที่ 26,900 บาท และ Swift 7 เริ่มต้นที่ 49,900 บาท จะเน้นที่กลุ่มพรีเมียม ต้องการความสวยงามเป็นหลัก

แค่ที่ 1 ในใจ Gen Y ไม่พอ ต้องครองใจ Gen Z ด้วย

ทิศทางการทำตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของเอเซอร์ พยายามจะทำให้แบรนด์ดูเด็กลง โดยใช้ “อีสปอร์ต” จนปัจจุบันเอเซอร์แข็งแรงในกลุ่ม Gen Y โดยได้รับการจัดอันดับเป็นแบรนด์ไอทีอันดับ 1 ที่ Gen Y เลือก แต่ยังไม่เพียงพอ เอเซอร์ต้องการเข้าถึงลูกค้า Gen Z ให้มากขึ้น ดังนั้นทิศทางการตลาดในปีหน้าจะเน้นเจาะ Gen Z โดยจะเน้นจะทำตลาดในสถานศึกษามากขึ้น รวมทั้งทำดีไซน์โปรดักต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ 

ดึงพันธมิตรจับกระแสรักษ์โลก

นอกจากการตลาดในอีสปอร์ต เอเซอร์ได้แคมเปญ “Together We Change” เพื่องดใช้ถุงพลาสติก โดยเน้นทำความเข้าใจผ่านตัวแทนค้าปลีกไอทีทั่วประเทศ ให้ช่วยในการส่งเสริมและเชิญชวนให้ลูกค้าร่วมลดใช้ถุงอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันพันธมิตรที่ร่วมกับเอเซอร์ต่างก็รณรงค์เรื่องการงดใช้ถุงพลาสติก อาทิ แอดไวซ์ ที่งดให้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน ส่วนคอมเซเว่น งดแจกทุกวันอังคาร ไอที ซิตี้ มีบริการส่งสินค้าถึงรถ และเจไอบี แจกถุงผ้าแทน

“ที่เราทำแคมเปญ ไม่ใช่เพราะต้องการเอาใจคนรุ่นใหม่ แต่ต้องการแอคชั่นที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากประเทศไทยใช้ถุงพลาสติก 45,000 ล้านใบ/ปี โดย 13,500 ล้านชิ้นมาจากร้านค้า และแบ่งเป็นสินค้าไอทีราว 12 ล้านใบ/ปี โดยเราตั้งเป้างดใช้พลาสติกให้ได้ 30% หรือ 3.6 ล้านใบภายใน 1 ปี และมีแผนนำต้นทุนที่ลดลงจากการงดใช้พลาสติกให้กับองค์กรที่ดูแลสิ่งแวดล้อม”

เสริมแกร่งอีคอมเมิร์ซให้คู่ค้า

แม้เอเซอร์เองจะไม่ได้เน้นตลาดออนไลน์มาก เพราะไม่ต้องการขายแข่งกับคู่ค้า แต่ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยกำลังเติบโต โดยปัจจันคิดเป็นสัดส่วน 10% ของตลาดค้าปลีก ดังนั้นภายในไตรมาส 1 ปีหน้า เอเซอร์มีแผนจะทำหลังบ้านที่จะช่วยเสริมช่องทางออนไลน์ให้กับคู่ค้าสามารถขายสินค้าออนไลน์ของเอเซอร์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเอเซอร์คำนึงถึงข้อจำกัดของหน้าร้านที่ไม่สามารถวางจำหน่ายสินค้าเอเซอร์ได้ครบ แต่ช่องทางออนไลน์สามารถทำได้ ดังนั้นส่วนของออนไลน์จะช่วยสร้างการเติบโตของเอเซอร์อีกทาง 

เกมมิ่งเกียร์ ตัวช่วยโตพร้อมตลาดดีไอวาย

สำหรับตลาดดีไอวายหรือคอมพิวเตอร์ประกอบ เป็นตลาดที่แข็งแรงมากคิดเป็น 70% ของตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งแบรนด์ไม่สามารถไปเจาะได้ ดังนั้นเอเซอร์จึงหาแนวทางที่จะเติบโตไปพร้อมตลาดดีไอวาย โดยใช้สินค้าประเภทอุปกรณ์เสริม อาทิ จอภาพ ที่ปัจจุบันเอเซอร์เป็นที่ 1 มีส่วนแบ่งตลาด 30% และมองว่ามีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะจอภาพเกมมิ่ง เนื่องจากราคาเริ่มลดลงจากหลักหมื่นเหลือ 5,900 บาท นอกจากนี้เอเซอร์จะให้ความสำคัญสินค้าเกมมิ่งเกียร์มากขึ้นในปีหน้า โดยจะแทรกซึมไปกับสินค้าหลักของเอเซอร์

“ดีไอวายเป็นตลาดที่แบรนด์ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ เพราะคอมประกอบเป็นความต้องการของลูกค้าจริงๆ ดังนั้นเราหาทางเข้าไปร่วมในตลาดดีกว่า อย่างจอเป็นสิ่งที่เขาต้องมี รวมทั้งเมาส์ คีย์บอร์ด”