ปิดตำนาน (ชั่วคราว)

ถูกจัดเป็นห้างระดับตำนานที่ยังคงมีลูกค้ามาใช้บริการเหนียวแน่นเป็นอันดับต้น เมื่อประกาศปิดปรับปรุงชั่วคราว ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวจึงได้รับความสนใจมากที่สุดจากขาช้อปซึ่งตั้งตารอวันประกาศ Sale ลอตใหญ่ แถมยังตกเป็นข่าวต่อเนื่อง ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์

ต้องปิดตำนาน (ชั่วคราว) “เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว” ศูนย์การค้าขนาดใหญ่และมีทราฟฟิกคับคั่งที่สุดในห้าแยกลาดพร้าวและพื้นที่ใกล้เคียง และยังเป็นศูนย์การค้าที่ทำรายได้ลำดับต้นๆ ให้กับกลุ่มเซ็นทรัลมาโดยตลอดหลังจากในยุคแรกๆ ที่ล้มลุกคลุกคลานประหนึ่งศูนย์ร้างไร้ผู้คน ก่อนจะดีเดย์เปิดตัวด้วยรูปโฉมใหม่ที่ทันสมัยขึ้น อีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2553 นี้

ด้วย Merchandize Mix ที่โดดเด่น และสินค้าบริการที่หลากหลายครอบคลุมแทบทุกเซ็กเมนต์ ทำให้เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว จึงไม่ใช่เป็นเพียงศูนย์การค้าที่รองรับลูกค้าใน Cashment Area นั้นๆ หากแต่มีเสน่ห์มากพอที่จะดึงดูดให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในโซนอื่นเข้ามาจับจ่ายใช้สอยด้วย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้หาไม่ได้ง่ายนัก หากไม่ใช่ในถนนแห่งการช้อปปิ้งเช่นย่านพระราม 1 ต่อเนื่องถึงแยกราชประสงค์

นอกจากนี้ยังนับเป็นศูนย์การค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายหลากหลายแทบทุกระดับ มีชื่อที่เรียกขานกันในหมู่นักช้อปว่า “เซ็น ลาด” ที่ถึงแม้ไม่ปรับปรุงก็ยังมีรายได้ดีและกำไรงาม

ทศ จิราธิวัฒน์ บอกว่า “แม้เซ็นทรัลลาดพร้าวจะได้ต่อสัญญาจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทยอีก 20 ปี แต่ก็ทุ่มงบปรับปรุงพัฒนาถึง 2,100 ล้านบาท และยอมปิดปรับปรุงถึง 6 เดือน แม้จะสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้องการให้เสร็จเรียบร้อยในเร็ววัน มากกว่าจะทยอยปรับปรุงซึ่งกินระยะเวลานานนับปี เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่สะดวกและเสียบรรยากาศในการช้อปปิ้ง ซึ่งในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจะพลิกโฉมให้หรูหราและมีสินค้า Exclusive หลายรายการที่เทียบเท่าเซ็นทรัลชิดลม”

นับเป็นกรณีการต่อสัญญาเพื่อเช่าพื้นที่กับการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เป็นข่าวมากที่สุด

วัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง ซีพีเอ็นเคยให้สัมภาษณ์ว่า “การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว จะเป็นการ Add Value ให้กับศูนย์ฯ ซึ่งโจทย์ของการปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้ คือ Transformation of the Legend ที่จะต้องทำให้มีความทันสมัยขึ้น ในขณะที่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมของศูนย์ที่ลูกค้าคุ้นเคยมากว่า 30 ปี

คอนเซ็ปต์ในการออกแบบจึงออกมาในรูปแบบของ Eco Trend และ Modern Green ใช้แนวคิดนำธรรมชาติมาสู่เมือง ดึงธรรมชาติเข้ามาเป็น New Lifestyle Experience เพื่อให้ลูกค้าที่มาที่ศูนย์ได้มีประสบการณ์ใหม่เกี่ยวกับธรรมชาติ วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งให้ผิวสัมผัสแบบธรรมชาติ มีการนำเอากระจก Skylight มาใช้ เพื่อให้มีแสงธรรมชาติมากขึ้น ให้เกิดความรู้สึกโปร่งสบาย มีความทันสมัยของวัสดุที่เลือกใช้”

ทั้งนี้เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าวจัดว่ามีจุดเด่นด้านโลเกชั่นเป็นอย่างมาก มีพื้นที่ติดกับถนนหลัก 3 สาย คือ วิภาวดี พหลโยธิน และลาดพร้าว ทั้งยังมี Cashment Area ที่หนาแน่น ทำให้เป็นที่หมายปองของผู้เช่าเป็นลำดับต้นๆ และถือเป็น Benchmark ในการทำศูนย์ฯของเซ็นทรัลพัฒนาโดยเฉพาะในแง่ของยอดขายและทราฟฟิก

ที่นี่มีผู้เช่าต่อคิวจ่อเปิดร้านใหม่ยาวเหยียด ขณะที่ Occupancy Rate มีสูงเกือบ 100% และหากรายใดที่ไม่แน่จริง มีผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจก็เตรียมม้วนเสื่อกลับไปในเวลาอันรวดเร็ว

แม้เซ็นทรัลลาดพร้าวขณะที่ศูนย์การค้าในพื้นที่ใกล้เคียงก็ไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงเพราะมี Positioning ที่แตกต่างกัน และจับกลุ่มเป้าหมายที่ไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นยูเนี่ยน มอลล์ เจเจ มอลล์ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี เมเจอร์ รัชโยธิน หรือแม้แต่กระทั่งเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

วันดีเดย์ลดสูงสุด 90% ในวันที่ 25 มีนาคม จึงเป็นการส่งท้ายแบบเต็มที่ พร้อมการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนๆ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ก่อนปิดปรับปรุงกว่าครึ่งปี หลังจากที่ทยอยลดทั้งศูนย์ฯมาก่อนหน้านี้ราว 2 สัปดาห์

ในฐานะที่เซ็นทรัลเวิลด์ ได้รับรางวัลจาก ICSC Asia Shopping Center Awards 2009 ในสาขาศูนย์การค้าที่รีโนเวทยอดเยี่ยม ซึ่งเปรียบเสมือนออสการ์ของวงการค้าปลีกนั้น ยิ่งทำให้น่าติดตามว่าปฏิบัติการพลิกโฉมเซ็นทรัลลาดพร้าวจะประสบความสำเร็จเพียงใด