ช่วงนี้คนออสซี่พูดถึง “ไมนัส ไฟฟ์” ว่าเป็นแหล่งบันเทิงที่ฮิตฮอตติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวที่คนมาเยือนออสเตรเลียอยากไปสัมผัสมากที่สุด แม้ว่าอากาศภายในบาร์จะเย็นยะเยือกเท่ากับอุณหภูมิแถบๆขั้วโลกก็ตาม บาร์น้ำแข็งแห่งนี้เกิดขึ้นและสร้างชื่อเสียงกระจายไปทั่วทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวออสเตรเลียอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขายความแปลกแหวกแนว เพราะภายในบาร์ชื่อดังแห่งนี้นับตั้งแต่พื้น ผนัง เพดาน เคาน์เตอร์ขายเครื่องดื่ม ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยสำหรับตกแต่งสถานที่ ไปจนถึงแก้วเสิร์ฟเหล้า ล้วนทำขึ้นจากน้ำแข็งที่นำเข้ามาจากประเทศแคนาดา ไม่ใช่แค่ตัวบาร์อย่างเดียวที่เท่านั้นที่แตกต่าง Minus 5 สร้างจุดขายทางด้านบริการที่ไม่เหมือนบาร์ทั่วไป โดยที่ผู้เข้าไปเยือนบาร์แห่งนี้ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะเสียค่าเข้า $30 เหรียญ ส่วนเด็กซึ่งจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 จะเสียค่าเข้าชมแค่ $15 เหรียญ พอเข้าไปทุกคนจะได้รับเสื้อโค้ต หมวก และรองเท้า ugg boots เพื่อกันความเย็น รวมทั้งคูปองรับเครื่องดื่มวอดก้าที่พร้อมจิบในระหว่างเดินเยี่ยมชม มีเวลาจำกัดแค่สามสิบนาทีเท่านั้น หากต้องการอยู่เที่ยวนานกว่านั้นต้องออกจากบาร์ไปก่อน แล้วค่อยกลับมาต่อคิวเข้ามาใหม่ได้อีกครั้ง เจ้าของ Minus...
การทำตลาดในเวียดนามที่ทำให้คนเวียดนามรู้จักแบรนด์สินค้าได้ง่ายที่สุด เห็นจะเป็น Bill Board Ads ขนาดใหญ่ ตามสี่แยกถนนใหญ่ วงเวียนกลางใจเมือง ป้ายรถเมล์และตามถนนเส้นสำคัญที่ชาวเวียดนามใช้สัญจรไปมาด้วยมอเตอร์ไซค์ (XE “แซ” ในภาษาเวียดนาม) กันตลอดทั้งวัน แบรนด์ข้ามชาติอย่างยูนิลีเวอร์ใช้งบโฆษณาค่อนข้างมาก กับการทำตลาด Above the line รวมทั้งเป็นแบรนด์ที่มีป้าย Ads เยอะที่สุด บนท้องถนนใจกลางเมืองโฮจิมินห์ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าคนเวียดนามแทบทุกบ้านจะมีสินค้าของยูนิลีเวอร์ใช้สัก 2-3 ยี่ห้อ ในขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นจำพวกผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน และน้ำยาปรับผ้านุ่ม งัดกลยุทธ์ Promotion ของแถมและราคาถูกอย่างซื้อผงซักฟอกแถมน้ำมันพืช งัดข้อสู้ศึกกับแบรนด์ข้ามชาติ
ก่อนที่การเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกลับคืนสู่การปกครองของจีนในคืนวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมจะเริ่มขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทั้งที่เกาะฮ่องกงและทั่วประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่งก็มีการจัดนิทรรศการ “ผลงาน 10 ปีของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง” ขึ้นที่พิพิธภัณฑ์นครหลวงแห่งกรุงปักกิ่ง (Beijing Capital Museum) สำหรับนิทรรศการ “ผลงาน 10 ปีของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง” ครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคมโดยเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการเข้าบริหารเกาะฮ่องกงต่อจากอังกฤษของพรรคคอมมิวนิสต์จีน นิทรรศการดังกล่าวถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลจีนในการตอกย้ำให้เห็นว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมาพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถบริหารเกาะฮ่องกงได้อย่างประสบความสำเร็จ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการเมือง
งานแถลงข่าวเปิดตัว Boeing 787 Dreamliner จัดขึ้นเป็นครั้งแรกท่ามกลางแขกรับเชิญกว่า 15,000 คน ที่ฐานประกอบเครื่อง Boeing ในเมือง Everett ใกล้กับ Seattle เมื่อ July 8, 2007 (07-08-07) นอกจากจะแสดงความล้ำหน้าของอุตสาหกรรมการบินสำหรับอนาคตแล้ว ยังเป็นงาน Roll-out Ceremony ของสายการบิน All Nippon Airway (ANA) ที่พร้อมให้บริการก่อนใครด้วยเส้นทางบินระยะใกล้ภายในประเทศญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะเริ่มในปีหน้า Boeing 787 เป็นเครื่องบินขนาดกลางที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับวิกฤตการณ์น้ำมันด้วยนวัตกรรมของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมัน 20% ภายใน 787 Dreamliner มีการปรับความดันบรรยากาศและความชื้นให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นก่อนซึ่งเพิ่มความสบายในระหว่างการเดินทางเพื่อให้สมกับเป็นเครื่องบินแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริงนั้น...
ถ้าพูดถึงเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของยุโรป ทุกสายตาย่อมจะมุ่งไปแต่ลอนดอน ปารีส มิลาน ในขณะที่เบอร์ลินถูกมองเป็นแค่เพียงน้องใหม่ที่ใฝ่ฝันว่าสักวันจะโตขึ้นเป็นไฮโซ เพื่อลบคำสบประมาทเบอร์ลินจึงจัดแฟชั่นวีคอย่างสม่ำเสมอปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมกราคมสำหรับคอลเลกชั่นออทั่ม-วินเทอร์ และอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม ที่เป็นคอลเลกชั่นสปริง-ซัมเมอร์ของปีถัดไป แต่สถานการณ์ยังดูเหมือนว่าเบอร์ลินยังต้องทุ่มเททรัพยากรและสั่งสมบารมีอีกมากกว่าจะถึงฝั่งฝัน เพราะแม้แต่ Bread&Butter บริษัทบริหารการจัดอีเวนต์แฟชั่นชื่อดังยังย้ายฐานหนีไปอยู่บาร์เซโลนาเสียแล้วตั้งแต่ปีก่อน มาปีนี้ได้ IMG มารับผิดชอบจัดงาน ก็กลับมีปัญหากับบางแบรนด์เช่น JOOP แฟชั่นสัญชาติเยอรมันแท้ๆ ยังบอยคอตไม่มาร่วมโชว์ นอกจากนั้น แบรนด์น้องใหม่อย่าง Kaviar Gauche ของสองดีไซเนอร์สาว Johanna Kuhl และ Alexandra Fischer-Roehler ที่ได้รับรางวัล New Generation Award ในครั้งนี้ ก็ไม่ได้รับข้อเสนอในการผลิตและจำหน่ายจากผู้ประกอบการเลยสักราย ...
ฉบับนี้มาว่ากันต่อกับน้ำนมถั่วเหลืองอีกแบรนด์ของบริษัท Soyaworld Inc. คือ แบรนด์ So Good เครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลืองที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในแคนาดา So Good วาง Positioning ตัวเองให้เป็นน้ำนมถั่วเหลืองที่ให้คุณค่าเป็นแหล่งของโปรตีน มีแคลเซียมสูง ไม่มีคลอเรสเตอรอล รวมทั้งมีส่วนประกอบ 15 วิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญ พร้อมคงความอร่อยไม่แพ้นมวัว โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้หญิงทำงาน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ ด้วยภาวะเร่งด่วนในชีวิตปัจจุบัน So Good จึงเป็นเครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลืองที่ตอบสนองความต้องการของชาวแคนาดาสมัยใหม่ที่สนใจสินค้าส่งเสริมสุขภาพที่ช่วยประหยัดเวลาและง่ายต่อการบริโภค
เก็บตกภาพจากเทศกาลอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก “Taste of Chicago” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน - 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ ณ แกรนด์พาร์ค ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในชิคาโก โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 27 แล้ว และมีคนเข้าร่วมงานมากถึง 3.6 ล้านคน จากทั่วทุกมุมโลก มีร้านอาหารต่างๆ ในชิคาโกเข้าร่วมเปิดงานจำนวนทั้งสิ้น 64 ร้าน งานนี้สร้างรายได้มากกว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ…มาชมกันเลยว่าคนอเมริกันรับประทานอะไรกันบ้าง เผื่อปีหน้าคุณผู้อ่านจะมาร่วมชิมบ้าง เทศกาลนี้ชิคาโกเขาจัดทุกปีไม่มีพลาดค่ะ
แม้แบรนด์สินค้าต่างๆ จากจีนจะเริ่มมีภาพพจน์ไม่ดี จนมีความพยายามทำแผนประชาสัมพันธ์แบรนด์จีนให้ดูดีขึ้น แต่หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศอเมริกาก็ยังไม่สามารถปฏิเสธสินค้าจากจีนได้ โดยเฉพาะล่าสุด “รถยนต์” ที่อเมริกาจะนำเข้าจากจีนในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นผลพวงจากแผนธุรกิจของกลุ่มไครสเลอร์ ที่เพิ่งเซ็นสัญญากับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีน บริษัทเชอรี่ ออโตโมบิล เจ้าของแบรนด์ “เชอรี่” ที่เป็นรถยนต์ที่มีคอนเซ็ปต์รถผลิตด้วยต้นทุนต่ำ ตามแผนของไครสเลอร์ คือ ภายในปีแรกจะส่งมาขายที่อเมริกากลางและยุโรปตะวันออก และอีก 2 ปีครั้งจะขายในอเมริกาเหนือ และยุโรปตะวันตก อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีรถยนต์จากจีนส่งออกไปต่างประเทศ ก่อนหน้านี้มีรถบรรทุกราคาถูก และรถขนส่งผู้โดยสารส่งออกไปที่แอฟริกาแล้วบ้าง แต่นักวิพากษ์วิจารณ์ต่างยังเห็นว่ารถยนต์จากจีนยังไม่สมบูรณ์แบบ และไม่ได้มาตรฐานของอเมริกา และยุโรป ในเรื่องของความปลอดภัยและการรักษาสิ่งแวดล้อม แต่โอกาสของเชอรี่ไม่เพียงส่งออกให้ไครสเลอร์เท่านั้น เพราะผู้บริหารของเชอรี่หวังว่าจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ จากไครสเลอร์มากขึ้น สำหรับรถที่จะส่งออกรุ่นแรกภายใต้ความร่วมมือระหว่างไครสเลอร์ และเชอรี่ผลิตภายใต้โมเดลรถขนาดเล็กของเชอรี่ รุ่น...
อีกหนึ่งนวัตกรรมสำหรับวงการกระดาษทิสชูล่าสุดโดย Kimberly-Clark ที่ภูมิใจนำเสนอเครื่องเก็บ และจ่ายกระดาษทิสชูให้กับผู้ใช้ได้ใช้อย่างสะดวกสบายที่สุด ที่ให้ทั้งความสะดวก และประหยัดการใช้งานไปในตัว ด้วยผลสำรวจพบว่า ผู้ใช้กระดาษทิสชูโดยเฉลี่ยใช้งานครั้งละ 5 แผ่นเท่านั้น และเครื่องนี้จะช่วยให้ประหยัดการใช้ทิสชูในห้องน้ำได้ถึง 20% ที่น่าสนใจจากคำกล่าวของริชาร์ด ทรอน ผู้บริหารของบริษัทระบุว่า ในจิตวิทยาแล้ว คนทั่วๆ ไปจะใช้สิ่งของต่างๆ เท่าที่มีให้เท่านั้น ซึ่งจำนวน 5 แผ่นจากม้วนกระดาษทิสชูนี้มาจากการวิจัยกลุ่มผู้บริโภคที่ทำมาเป็นปีกว่าจะสรุปที่จำนวนเฉลี่ยคนละ 5 แผ่นต่อการใช้งาน 1 ครั้ง หรือความยาวรวมประมาณ 20 นิ้ว ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว หากไม่มีการจำกัดการให้กระดาษ คนอเมริกันจะใช้มากกว่าที่จำเป็น 2 เท่า ส่วนคนยุโรปจะใช้เท่าที่ความยาวของแขนจะดึงได้ สำหรับเครื่องจ่ายกระดาษทิสชูนี้มีราคาจำหน่ายที่ 30-55 เหรียญฯ...
บริษัทวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคของอเมริกาที่ชื่อ Cone Cause Evolution Survey เปิดเผยว่าผลสำรวจล่าสุดพบว่าคนอเมริกัน 2 ใน 3 คน จะพิจารณาการทำธุรกิจของบริษัทนั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ โดยจำนวน 87% ถึงกับเปลี่ยนจากแบรนด์หนึ่งมาใช้อีกแบรนด์หนึ่ง ถ้าแบรนด์ใหม่นั้นไปร่วมทำกิจกรรมดีๆ ทางสังคม ซึ่ง 87% นี้ถือว่าเพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับปี 1993 ที่มีเพียง 31% เท่านั้น นอกจากนี้ ในส่วนของพนักงานบริษัทต่างๆ นั้นจำนวน 72% บอกว่าต้องการให้ผู้บริหารระดับสูงบรรจุแผนการช่วยเหลือสังคมในแผนธุรกิจด้วย ถือว่ามีจำนวนสูงเมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อปี 2004 ที่มีเพียง 38% สำหรับประเด็นทางสังคมที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสนใจ อันดับ 1 คือการรณรงค์เรื่องสุขภาพ และอันดับ 2...