จากภาพ : สตีฟ คาร์ไลส์ (กลาง) บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์ เอเชียโอเปอเรชั่นส์ จำกัด นำคณะกรรมการอำนวยการบริหารของบริษัทฯ เข้าร่วมงานประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต ประจำปี 2550 พร้อมด้วยผู้แทนจำหน่ายเชฟโรเลตจากทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “Driving toward GM’s Centennial”
เชฟโรเลต เผยผลการดำเนินงานและความสำเร็จในปี 2550 พร้อมคาดการณ์สถานการณ์ปี 2551 ในงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2550 โดยบริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจแม้สภาวะเศรษฐกิจยังผันผวน แต่มั่นใจพร้อมก้าวสู่การฉลองครบรอบ 100 ปี เจนเนอรัล มอเตอร์ส ด้วยหลัก “มองโลกในแง่ดี” คาดสถานการณ์ตลาดปีหน้ามีแนวโน้มสดใสหลังเลือกตั้ง ประกาศเดินหน้ารักษามาตรฐานผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพของประเทศไทยต่อไป
ระหว่างงานประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต ประจำปี 2550 ทางเชฟโรเลตได้เปิดเผยถึงความสำเร็จในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้ โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งเชฟโรเลตมียอดจำหน่ายในตลาดสูงเป็นอันดับ 3 ติดต่อกันมา 3 ปี และยังคงครองอันดับที่ 5 ในตลาดรถยนต์ทั้งหมด ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่มีการปรับตัวดีขึ้นนับจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายของเชฟโรเลตก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จาก ยอดจองรถยนต์ เชฟโรเลต อาวีโอ และ เชฟโรเลต โคโลราโด นั้นเต็มตลอดจนถึงสิ้นปี ในขณะที่เชฟโรเลต แคปติวา รถอเนกประสงค์ เอสยูวี รุ่นใหม่ ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้บริโภค รวมไปถึงออพตร้า ซีเอ็นจี รถยนต์พลังงานก๊าซธรรมชาติที่กำลังได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบันที่ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้คิวรอรับรถ ออพตร้า ซีเอ็นจี นั้นยาวจนถึงเดือนมกราคม 2551 โดย เชฟโรเลต คาดการณ์ว่า เครือข่ายศูนย์บริการเชฟโรเลต จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 100 สาขา ทั่วประเทศ ภายในสิ้นปีนี้
“ความสำเร็จของเชฟโรเลตในปีนี้ นับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งสำหรับเราทุกคน โดยเฉพาะเมื่อย้อนนึกถึงสถานการณ์ตลาดที่ไม่สู้ดีนักในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา” จอห์น ธอมสัน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวพร้อมเสริมว่า “เชฟโรเลต ออพตร้า ซีเอ็นจี ได้รับการตอบรับสูงเกินจากที่เราคาดหมายไว้มากทีเดียว และตราบเท่าที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งสูงขึ้น เราคาดว่าความต้องการตลาดในส่วนนี้จะพุ่งทะยานขึ้นไปอีกในปี 2551 เราจึงต้องเพิ่มกำลังการผลิต ออพตร้า ซีเอ็นจี แบบโออีเอ็มให้มากขึ้นในปีหน้า เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด”
สำหรับปี 2551 ที่กำลังจะมาถึง เชฟโรเลตยังคงเน้นให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างความพึงพอใจแบบสูงสุดแก่ลูกค้า โดยตอกย้ำบริการหลังการขายที่จะสร้างความมั่นใจให้กับการเป็นเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลต อาทิ บริการเชฟวี่ โมบาย เซอร์วิส (Chevy Mobile Service) บริการให้ความช่วยเหลือบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง (24 – Hour Roadside Assistance) บริการโกฟาสต์ เอ็กซ์เพรส เซอร์วิส (GoFast Express Service) และบริการเชฟวี่ โอเค ยูสด์ คาร์ (Chevy OK Used Car) พร้อมทั้งมุ่งมั่นในการพัฒนาและริเริ่มบริการใหม่ๆ เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งบริการหลังการขายเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าเชฟโรเลตได้สัมผัสประสบการณ์การเป็นเจ้าของเชฟโรเลตที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจว่าได้ขับรถยนต์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม ด้วยความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจ ความมั่นใจในระยะยาวได้
ในปี 2551 หนึ่งในรถยนต์รุ่นที่เชฟโรเลตให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ กระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นปี 2008 ซึ่งเพิ่งปรับโฉมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แนะนำออกสู่ตลาด โดยเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นปี 2008 นี้ เน้นรูปโฉมที่ดุดัน ทรงพลัง พร้อมลุยงานหนักได้ทุกประเภท มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในแง่การพัฒนาบุคลากร เชฟโรเลตวางแผนเปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อฝึกอบรมที่ปรึกษาการขายและช่างเทคนิค ซึ่งศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่นี้จะมีพื้นที่และความสามารถในการรองรับเป็นสองเท่าของปัจจุบัน พร้อมกันนี้ เชฟโรเลตยังได้ประสานงานกับมหาวิทยาลัยเทคนิค 5 แห่ง ในส่วนภูมิภาค เพื่อขยายขีดความสามารถของบุคลากรในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และอำนวยความสะดวก ควบคู่กับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้จำหน่ายเชฟโรเลตมากยิ่งขึ้น
ส่วนทางด้าน สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด ให้ความเห็นว่า “ถึงแม้ว่าความผันผวนทางเศรษฐกิจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์โดยรวม แต่เราก็ภูมิใจกับผลลัพธ์ในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ดังที่เราคาดการณ์กันว่าสภาพเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหลังจากการเลือกตั้งในปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าการที่ตลาดมีการปรับตัวดีขึ้นนับแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นสัญญาณสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่กำลังฟื้นตัว แม้จะดูเหมือนว่า เรามองโลกในแง่ดี แต่อย่างไรก็ตามเราไม่เคยนิ่งนอนใจ เราจึงเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของปีหน้าอยู่เสมอ”
มร.คาร์ไลส์ กล่าวเสริมอีกว่า “เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เชฟโรเลตยังคงเดินหน้ามอบรถยนต์ที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด ให้กับลูกค้าชาวไทยในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ เราจะทุ่มเทให้กับความพึงพอใจของลูกค้าและบริการหลังการขายต่อไป เพราะเราตระหนักดีว่าการสร้างความรู้สึกประทับใจ ความอุ่นใจ และปลอดภัยให้กับลูกค้านั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความพึงพอใจระยะยาว”