Cafe Amazon ขอ “Go Green” เต็ม 100% แม้ชุดพนักงานก็ทำจากขวดรีไซเคิล

Cafe Amazon สร้างแบรนด์สีเขียวเต็มที่ 100% เริ่มปรับใช้หลอดกระดาษ แก้วทำจากพืช หรือแม้แต่ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานก็ทำมากจากขวดพลาสติกรีไซเคิล

เดินหน้า Go Green 100%

แม้ “คาเฟ่ อเมซอน” จะเดินหน้ากลยุทธ์ “Go Green” เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมกว่า 8 ปี แต่ “สุชาติ ระมาศ” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ย้ำว่าไม่หยุดแค่นี้ เพราะต้องการให้คาเฟ่ อเมซอน Go Green 100% จากเดิมที่เริ่มต้นจากบรรจุภัณฑ์ โดยในปี 2554 เริ่มใช้แก้วไบโอ คัพ (Bio Cup) ซึ่งเป็นแก้วกระดาษเคลือบไบโอ พีบีเอส (Bio PBS) สำหรับใส่ของร้อน ตอนนี้เราใช้แล้ว 100% และในปีนี้ใช้หลอดกระดาษไบโอ และแก้วเย็น Bio PLA ทำจากพืช 100% สามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ได้อีก

โดยปีหน้า อเมซอนจะขยับไปสู่การนำ “ขวด PET” มีรีไซเคิลเป็นชุดยูนิฟอร์มและผ้ากันเปื้อนของพนักงาน ขณะที่วัสดุภายในร้านจะทำจากวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด อาทิ เก้าอี้, โต๊ะ และของตกแต่งร้าน โดยเริ่มนำร่องแล้วที่สาขาสามย่าน และจะขยายเพิ่มอีก 3-4 สาขาในปีหน้า

นอกจากนี้ ยังได้จัดแคมเปญและโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อลดใช้งานพลาสติก เช่น โครงการ “คาเฟ่ อเมซอน ฟอว์ เอิร์ท” เมื่อลูกค้าซื้อนำแก้วมาเอง จะได้รับส่วนลด 5 บาท โดยเริ่มแคมเปญตั้งเดือนมิถุนายน 2561 จนถึงเดือนตุลาคม 2562 ซึ่งช่วยลดการใช้แก้วพลาสติกได้มากกว่า 31 ล้านใบ

ล่าสุดได้จับมือกับแอปพลิเคชั่น “Ecolife Application” โดยลูกค้าที่ไม่รับแก้วหรือหลอด จะได้รับคะแนนสะสมในแอปพลิเคชั่น เพื่อนำมาแลกของพรีเมียม แคมเปญเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2563 นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมแจกถุงสปันบอนด์ 1.5 ล้านใบ เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อให้ลูกค้านำมาใช้แทนถุงพลาสติก

“เราเดินหน้ากลยุทธ์ Go Green ด้วย แนวคิด 3 R 1.การลดใช้ (Reduce) 2.การใช้ซ้ำ (Reuse) และ 3.นำมาใช้ใหม่ (Recycle) ซึ่งตลาดกาแฟไทยเป็นตลาดแข่งขันเสรี ผู้บริโภคมีอำนาจในการตัดสินใจ ดังนั้นหน้าที่เราคือ เสนอสินค้าที่ดีเพื่อตอบโจทย์ อย่างตอนนี้ผู้บริโภคก็ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น Go Green ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่ง”

ปัจจุบัน คาเฟ่ อเมซอนมีจำนวน 3,025 สาขา ใน 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา  ฟิลิปปินส์ เมียนมา  สิงคโปร์  มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และโอมาน โดยคาเฟ่ อเมซอนกำลังจะขยายไปเวียดนาม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในสิ้นปีนี้ ส่วนแผนการขยายสาขาในปีหน้า ตั้งเป้าไว้ที่ 450 สาขา ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเห็นโอกาสในประเทศจีนและกัมพูชา ที่กระแสตอบรับค่อนข้างดี

“สาขาต่างประเทศเราก็วางโพซิชั่นไว้คล้ายๆ ไทยคือ เป็นป็อปปูลาร์แบรนด์ ราคาไม่สูง แต่จะมีสินค้าไทยที่คนต่างชาติชื่อชอบไปเสริม เช่น ขนมฝอยทอง เป็นต้น ส่วนในไทยจะเน้นที่แฟรนไชส์ ปัจจุบันคิดเป็น 80% นอกจากนี้จะเปิดสาขาให้สำหรับผู้ด้อยโอกาส ซึ่งที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดสาขาที่สัตหีบ โดยใช้ทหารผ่านศึกสงครามมาร่วมทำงาน”

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดกาแฟไทยมีการเติบโตกว่า 10% โดยคาเฟ่ อเมซอนมีการเติบโตในระดับเดียวกัน และมองว่าตลาดกาแฟยังสามารถเติบโตได้อีก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคไทยดื่มกาแฟเฉลี่ยเพียง 1.2 กิโลกรัม/คน/ปี ขณะที่ประเทศเวียดนามเฉลี่ย 1.6-1.7 กิโลกรัม/คน/ปี และญี่ปุ่น 3 กิโลกรัม/คน/ปี ดังนั้นยังมีช่องว่างอีกมาก