ธนาคารกรุงเทพ ประกาศทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และ พีที แอสทร่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 89.12% ในธนาคาร Permata อินโดนีเซีย
โดยคาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ธนาคารกรุงเทพคาดว่าจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของเพอร์มาตาอีกร้อยละ 10.88 หลังจากการเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 89.12 ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การทำธุรกรรมนี้ตั้งอยู่บนหลักเกณฑ์การประเมินมูลค่าซึ่งมีการตกลงร่วมกันอยู่ที่ 1.77 เท่าของมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา (โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงราคา) ดังนั้นหากคำนวณมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ราคาซื้อหุ้นเบื้องต้นจะอยู่ที่ 1,498 รูเปียต่อหุ้น สำหรับการถือหุ้นในสัดส่วน 89.12% มูลค่าธุรกรรมเบื้องต้น จะอยู่ที่ 37,430,974 ล้านรูเปีย (ประมาณ 2,674 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 81,017 ล้านบาท)
และสำหรับการถือหุ้น 100% มูลค่าเบื้องต้นจะอยู่ที่ 42,001,080 ล้านรูเปีย (ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 90,909 ล้านบาท)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารมีกลยุทธ์ในการเชื่อมโยงสู่ภูมิภาค เพื่อสนับสนุนลูกค้าของธนาคารในการขยายกิจการไปยังต่างประเทศ โดยเครือข่ายในต่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินธุรกิจของธนาคารเติบโตอย่างต่อเนื่อง
Permata เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของอินโดนีเซีย โดยมีเครือข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ด้วยความโดดเด่นของฐานเงินฝาก และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง
การเข้าซื้อกิจการ Permata จะตอกย้ำถึงพันธะผูกพันที่ธนาคารมีต่ออินโดนีเซียซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2511 และช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำของธนาคารกรุงเทพในระดับภูมิภาค ด้วยฐานธุรกิจที่มั่นคงทั้งในไทยและอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ปิติ สิทธิอำนวย ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า
“การขยายธุรกิจในต่างประเทศเป็นกลยุทธ์สำคัญของธนาคาร อินโดนีเซียเป็นตลาดที่ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่สุดในเอเชีย และมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก มีปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่เอื้ออำนวย ตลอดจนมีความเชื่อมโยงของประเทศในเขตเศรษฐกิจอาเซียนที่เพิ่มขึ้น“
ทางด้าน “ชาติศิริ โสภณพนิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า
“จากประสบการณ์โดยตรงในการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย และความเข้าใจในภาคธุรกิจธนาคารอย่างลึกซึ้ง เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจธนาคารในอินโดนีเซียมีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยที่ยังคงรักษาอัตราผลกำไรที่ดี เพอร์มาตาจะเป็นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยเสริมเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของธนาคาร ด้วยช่องทางการให้บริการที่กว้างขวาง ความโดดเด่นของฐานเงินฝากและชื่อเสียงของธนาคาร ตลอดจนความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เรามีความยินดีที่จะได้ทำงานและสนับสนุนผู้บริหารและพนักงานของเพอร์มาตา เพื่อให้เพอร์มาตาก้าวหน้าขึ้นไปในอีกระดับ”
ปัจจุบัน Permata เป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 12 ของอินโดนีเซียเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์รวม การเข้าซื้อ Permata โดยธนาคารกรุงเทพจะช่วยให้ Permata ได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านบริการสำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอี เครือข่ายทางธุรกิจและความสัมพันธ์กับองค์กรธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเซียที่แข็งแกร่ง ตลอดจนผลิตภัณฑ์การเงินระหว่างประเทศ และความเชี่ยวชาญที่หลากหลายในแต่ละอุตสาหกรรม
ธนาคารกรุงเทพจะให้การสนับสนุนลูกค้าของเพอร์มาตาด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง ส่งเสริมความรู้และการเข้าถึงทางด้านการเงิน อีกทั้งสนับสนุนลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ และลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอี ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงผู้ประกอบการในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทางธุรกิจ
โดยที่มอร์แกน สแตนลีย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของธนาคารกรุงเทพในการทำธุรกรรมครั้งนี้
Related