อังกฤษจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ (12 ธันวาคม 2019) หลังนับคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่ง พรรคอนุรักษนิยมของ Boris Johnson นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมีแนวโน้มชนะท่วมท้น โดยการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเสมือนการชี้ชะตา Brexit เนื่องจากแนวทางของ Johnson ต้องการมุ่งมั่นกับ Brexit ต่อไป ขณะที่พรรคแรงงานชูนโยบายจัดลงประชามติการออกจากอียูรอบใหม่ หลังส่อแววพ่ายแพ้ Jeremy Corbyn หัวหน้าพรรคแรงงาน ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว
ผลนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษเมื่อวานนี้นับคะแนนไปแล้วมากกว่ากึ่งหนึ่ง จากการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการของที่นั่ง ส.ส. อังกฤษ 384 ที่นั่งจากทั้งหมด 650 ที่นั่ง ปรากฏว่าพรรคอนุรักษนิยมกวาดไป 202 ที่นั่ง ส่วนพรรคแรงงานได้ไป 129 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นพรรคอื่นๆ อีก 4 พรรค
จึงเป็นไปได้สูงว่า พรรคอนุรักษนิยมจะได้เป็นรัฐบาล และ Boris Johnson จะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อนำพาสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ Brexit ต่อไป
สำหรับผล Exit Poll หลังปิดหีบเมื่อวานนี้ ประเมินว่า พรรคอนุรักษนิยมจะได้จำนวน ส.ส. เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 368 ที่นั่ง (เพิ่มขึ้น 50 ที่นั่ง) พรรคแรงงานได้ไป 191 ที่นั่ง (ลดลง 71 ที่นั่ง) และพรรคอื่นๆ จะมี ส.ส. รวม 91 ที่นั่ง การที่พรรคอนุรักษนิยมได้จำนวน ส.ส. เพิ่ม อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนเจตจำนงค์ของคนอังกฤษว่ายังต้องการที่จะออกจากอียู แม้ว่าการประกาศ Brexit ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้จะทำให้อังกฤษตกอยู่ในความผันผวนทางเศรษฐกิจก็ตาม
Boris Johnson says it looks like the country has given the Conservatives a “powerful mandate to get Brexit done” #ElectionResult2019 pic.twitter.com/8ffOfmN0Xl
— QuickTake by Bloomberg (@QuickTake) December 13, 2019
“ประเทศนี้ได้ประกาศคำประกาษิตอันทรงพลังแล้วว่าจะทำให้การ Brexit สำเร็จลุล่วง” Johnson แถลงในช่วงเวลา 03.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษ
Boris Johnson นั้นขึ้นมารับตำแหน่งต่อจาก Theresa May นายกฯ อังกฤษคนก่อนที่ลาออกเนื่องจากไม่สามารถหาข้อตกลงกับอียูในการ Brexit ที่เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายได้ Johnson ที่ขึ้นมาเจรจาดีลต่อก็ยังไม่สามารถนำเสนอดีลให้ผ่านความเห็นชอบในรัฐสภาอังกฤษได้สำเร็จ ขณะที่เดดไลน์วันที่อังกฤษจะถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกอียู คือ 31 มกราคม 2020 ก็เลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปประกาศแล้วว่าถ้าหาก Johnson ชนะเลือกตั้งและเดินหน้า Brexit ต่อ อียูจะเลื่อนเดดไลน์ให้เป็นวันที่ 31 มีนาคม 2020
ทางด้าน Jeremy Corbyn หัวหน้าพรรคแรงงาน คู่แข่งสำคัญของพรรคอนุรักษนิยม ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคในช่วงเวลาประมาณตี 3 ของอังกฤษ หลังผลการนับคะแนนค่อนข้างแน่ชัดว่าพรรคพ่ายแพ้และยังได้ที่นั่ง ส.ส. ลดลงอย่างมากด้วย
สำหรับค่าเงินปอนด์ (GBP) ปรับตัวแข็งค่าขึ้นตอบรับผล Exit Poll โดยแข็งค่าขึ้น 1.85% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้น 1.09% เทียบกับค่าเงินยูโร
Source: Reuters, Bloomberg, Express UK
(Photo by Dan Kitwood/Getty Images)