ซัลโวทะลุจอ (แอลซีดี)

“ปีนี้เป็นปีของ LCD TV” กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ฟันธงกับผู้สื่อข่าวในงานแถลงนโยบายการตลาดแอลซีดีทีวีประจำปี 2553 ในขณะที่ สุพจน์ วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซันโย ประเทศไทย ก็ประกาศว่า แอลซีดีทีวีจอเล็กรุ่นใหม่จะเข้ามาแทนที่ทีวีจอตู้หรือ “CRT” ได้ทั้งหมดในปีนี้

ที่มั่นใจถึงเพียงนี้ เพราะตัวเลขตลาดทีวีโดยรวมเติบโตแค่ปีละไม่ถึง 10% แต่ตลาด LCD TV รวมนั้นโตถึงปีละกว่า 30% นอกจากโตชิบาและซันโยแล้ว ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ต่างก็เร่งออก LCD TV รุ่นใหม่ๆ มาผลักไสทีวีเก่าแบบ CRT ให้ “สูญพันธุ์” ในปีสองปีนี้

นอกจากเรื่องของต้นทุนการผลิตของ LCD TV ที่ลดลงเรื่อยๆ แล้ว ทำให้ราคาขายลดต่ำลงต่อเนื่อง และยังได้แรงหนุนสำคัญมาจากงานมหกรรมกีฬาอย่างเช่นฟุตบอลยูโร โอลิมปิก ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้ตลาด LCD TV เติบโตมากกว่า 50% และในปี 2010 นี้ที่มหกรรมฟุตบอลโลกจ่อรออยู่ในเดือนมิถุนายน บวกกับที่ LCD TV ก้าวพ้นช่วงของการเป็นสินค้าใหม่ไปสู่ความคุ้นชินของผู้บริโภคแล้ว

ทั้งสองแบรนด์เชื่อว่า จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขาย LCD TV เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในตลาดประเทศไทยในปีนี้ แต่ใครจะได้โอกาสจากตลาดแค่ไหน ก็อยู่กับว่าใครจะออกหมัดได้ตรงจุดกว่ากัน

โตชิบา เลือกกระโดดเข้าสู่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเต็มตัว แม้จะไม่ได้เข้าเป็นสปอนเซอร์ในฟุตบอลโลกเหมือนกับคู่แข่งอย่างโซนี่ แต่โตชิบาก็เกาะเกี่ยวกับไปกระแสความร้อนแรงของ “ไทยพรีเมียร์ลีก” ด้วยการเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมแชมป์ปีที่แล้วอย่าง “เมืองทองยูไนเต็ด”

โตชิบาจะควักงบปีละ 20 ล้าน (จากงบการตลาดทีวีที่มีทั้งหมด 80 ล้านบาท) แลกกับการเป็น “Official Equipment Provider” วางจอ เครื่องเสียง และอุปกรณ์ AV ต่างๆ ทั่วสนามยามาฮ่าสเตเดี้ยมของเมืองทองฯ พร้อมกับติดป้ายโฆษณาทั้งในสนามและนอกสนามซึ่งปีนี้จะสร้างเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์และไลฟ์สไตล์กึ่งช้อปปิ้งเซ็นเตอร์เต็มรูปแบบ

“นี่เป็นครั้งแรกที่โตชิบาสนับสนุนฟุตบอลไทย สมัยก่อนถึงเราจะไม่ได้เป็นสปอนเซอร์บอลโลกแต่ก็จัดแคมเปญพาลูกค้าบินไปดู แต่ตอนนี้บอลไทยเราเกิดแล้ว เรามาช่วยบอลไทยเราเองดีกว่า” และกอบกาญจน์ก็สรุปว่า 2010 นี้ เป็น “ปีทองฟุตบอล ปีทองไทยลีก และปีทอง LCD TV”

ส่วนทางด้านซันโย ไม่ได้ควักงบการตลาดจับไลฟ์สไตล์ลูกค้าเหมือนรายอื่น โดยหันมาใช้มุ่งที่ตัว Product เป็นหลัก โดยเฉพาะการให้ลูกค้าเดิมที่ใช้จอทีวี CRT ให้เปลี่ยนใจมาใช้จอ LCD TV ของซัมซุง ด้วยกลยุทธ์ “หดจอ ย่อราคา”

กลยุทธนี้ ซันโยคาดว่าจะสร้างความต่างได้ เพราะในขณะที่ทุกแบรนด์ออก LCD TV ที่ช่วงราคาเหนือกว่าทีวี CRT ราว 50% ขึ้นไป ซันโยเลือกใช้กลยุทธ์ “หดจอ ย่อราคา” เข้าสู้ โดยลดขนาดจอ LCD TV เหลือ 24 และ 19 นิ้ว จากในท้องตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราวๆ 30 นิ้วขึ้นไป ที่สำคัญซันโยหั่นราคาให้เริ่มต้นที่เกือบ 8 พันบาท สูงกว่าทีวี CRT เพียง 1 – 2 พันบาท

ด้วยขนาดที่ใกล้เคียงกัน สุพจน์เผยว่าซันโยได้กลยุทธ์นี้จากการสำรวจผู้บริโภคระดับ Mass หลายประเทศพบว่า “ผู้บริโภคที่ยังไม่มี LCD TV พร้อมจะซื้อทันทีถ้าราคาพอๆกับทีวีแบบเก่า แม้จอจะเล็กลงก็รับได้” ซึ่งสุพจน์มั่นใจว่าการหดจอย่อราคานี้จะสร้างการเติบโตให้ LCD TV หน้าใหม่ซันโยได้ถึง 800% หรือ 8 เท่า

Campaign Detail “Cheer to Goal” โตชิบาไทยแลนด์ เข้าเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอลเมืองทองยูไนเต็ด โดยโตชิบาจะเป็น “ผู้สนับสนุนเครื่องใช้ไฟฟ้า” ติดตั้งทีวี เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศและเครื่องไฟฟ้าให้ใช้งานจริงหลายจุดในบริเวณสนามและห้องต่างๆ พร้อมป้ายบอกว่าเป็นเครื่องไฟฟ้าจากโตชิบา รวมถึงได้วางป้ายโฆษณาที่ขอบสนามด้วย

Strategyเพิ่ม Brand Awareness จากการติดตั้งป้ายโลโก้ทุกจุด และเป็นโชว์รูมในตัวให้แฟนบอลที่เข้าชมสัปดาห์ละราวหมื่นคนได้เห็นตัวสินค้าและรับรู้ว่าเป็นของโตชิบา

Market Analysis ปีนี้หลายแบรนด์คาดตรงกันว่ายอดขาย LCD TV จะโตขึ้นกว่า 50% ส่วนยอดขายทีวี CRT จึงน่าจะลดลงกว่า 30% เนื่องจากราคาของ LCT TV ถูกลง และการถ่ายทอดฟุตบอลโลก ทำให้เกิดความต้องการจอทีวีที่มีคุณภาพสูงขึ้น

(ข้อมูลจาก โตชิบาประเทศไทย, ซันโยประเทศไทย, และนิตยสาร POSITIONING รวบรวม)

CRT TV “จอหนา,จอตู้” เกือบ 4 แสนเครื่อง หรือ 30%
LCD TV เกือบ 8 แสนเครื่อง หรือ 65%
LED TV (LCD ขั้นสูง เสริมหลอด LED) ประมาณ 4 หมื่นเครื่อง หรือ 3%
Plasma TV ประมาณ 2%
(ยอดขายทีวีทุกประเภททุกแบรนด์ปี 2009 1.2 ล้านเครื่อง)