Photo : Shutterstock
ซาอุดีอาระเบียยกเลิกกฎหมายบังคับให้ร้านอาหารมีทางเข้าออก คิวต่อแถวซื้ออาหาร และพื้นที่ทานอาหารแยกเพศชายหญิง โดยร้านอาหาร ร้านกาแฟ และพื้นที่สาธารณะต่างๆ มีสิทธิตัดสินใจเองว่าจะจัดทำร้านแบบแยกเพศหรือไม่
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียมีกฎบังคับให้ร้านอาหารต้องมีทางเข้าแยกกันระหว่าง ผู้หญิงและครอบครัว กับ ผู้ชายที่มาคนเดียว ภายในร้านระหว่างต่อคิวและทานอาหารจะมีฉากกั้นระหว่างลูกค้าครอบครัวกับกลุ่มลูกค้าชาย
ทั้งนี้ การยกเลิกกฎข้อนี้เป็นหนึ่งในกระแสการปฏิรูปทางสังคมของซาอุดีอาระเบียซึ่งเริ่มต้นขึ้นตามวิสัยทัศน์ขององค์ชายรัชทายาท Mohammed bin Salman ผู้ขึ้นสู่ตำแหน่งนี้เมื่อปี 2560 และต้องการเปิดประเทศซาอุฯ ให้มากขึ้นจากสภาพการณ์ปัจจุบันที่ซาอุฯ เป็นสังคมอนุรักษนิยมสุดขั้ว แต่การเปิดประเทศของเจ้าชายก็สร้างความขัดแย้งระหว่างผู้สนับสนุนสองฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่างการปฏิรูปทางสังคมที่ทยอยปลดล็อกเสรีภาพให้ผู้หญิงซาอุฯ เช่น ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีพระราชกำหนดอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเพศชายของเธอ และย้อนไปเมื่อปีก่อน ประเทศนี้เพิ่งยกเลิกกฎห้ามผู้หญิงขับรถ ซึ่งบังคับใช้มานานหลายทศวรรษ
- บริษัทน้ำมัน Saudi Aramco ทำสถิติใหม่มูลค่า IPO สูงสุดในโลก เเซง “อาลีบาบา”
- รู้จักกับ Sophia หุ่นยนต์พลเมืองซาอุดีอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม นักกิจกรรมยังชี้ให้เห็นว่า กฎหมายแบ่งแยกกดขี่ผู้หญิงอีกหลายฉบับยังคงมีอยู่ และนักกิจกรรมสตรีที่โดดเด่นหลายรายยังถูกจับกุมแม้ว่ารัฐบาลจะเริ่มการปฏิรูปสังคมแล้วก็ตาม
รวมถึงเสรีภาพของข้อมูลข่าวสารก็ยังมีข้อกังขา เมื่อนักข่าวนักวิจารณ์ชาวซาอุฯ Jamal Khashoggi ถูกฆาตกรรมเมื่อปี 2561 ภายในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำประเทศตุรกี โดยซาอุฯ ปฏิเสธความเกี่ยวข้องและอ้างว่า Khashoggi ถูกสายลับลอบสังหาร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติ (UN) มองว่าคดีนี้เป็นการ “ประหารชีวิตนอกกระบวนการยุติธรรม”
สถานการณ์ในซาอุฯ ส่วนหนึ่งจึงมีทั้งการผ่อนผันเปิดเสรีให้ผู้หญิงมากขึ้นซึ่งได้รับการสรรเสริญจากโลกสากล แต่ในอีกมุมหนึ่ง การกดขี่นักกิจกรรมและนักข่าวยังคงมีอยู่ต่อไป