ผลประกอบการ Q3 ‘Saudi Aramco’ บริษัทน้ำมันเบอร์ 1 โลกโต 158% จากราคาน้ำมันที่พุ่งไม่หยุด

หลังจากที่ทั่วโลกเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตและเดินทางกันอย่างปกติ ส่งผลให้การใช้งานน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่าระหว่างปี 2564-2565 ราคาน้ำมันดิบโลกจะเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 65% จากปี 2563 และนั่นทำให้ผลประกอบการของ Saudi Aramco เพิ่มขึ้น 158%

‘โอเปก’ ยืนยันส่งน้ำมันดิบ 4 แสนบาร์เรล/วัน ส่งผลค่าน้ำมันแพงสุดในรอบ 7 ปี

ผลประกอบการของ Saudi Aramco บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้น 158% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยมาจากราคาน้ำมันและปริมาณการขายที่สูงขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยรายรับสุทธิของ Aramco อยู่ที่ 3.04 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีกระแสเงินสดอิสระเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 2.87 หมื่นล้านดอลลาร์

จากผลประกอบการดังกล่าวทำให้ บริษัทมีผลกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ Aramco เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนธันวาคม 2019 ก่อนที่จะประสบกับภาวะตกต่ำ 44.4% ในปี 2020 และเมื่อย้อนไปช่วงไตรมาสที่ 2 บริษัทมีผลกำไรเพิ่มเกือบ 4 เท่า หลังจากที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด ความต้องการที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“รายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นและปริมาณการขายที่มากขึ้น เนื่องจากความต้องการพลังงานทั่วโลกที่ฟื้นตัวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลัก” Saudi Aramco กล่าวในแถลงการณ์ผลประกอบการ

ซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นหนึ่งในผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดและผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และเพราะเหตุนี้ ทำให้ประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2060 โดย Amin Nasser ผู้บริหารระดับสูงของ Aramco กล่าวว่า บริษัทจะสร้างจากประวัติการดำเนินงานที่มีต้นทุนต่ำและคาร์บอนต่ำ หลังจากประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตั้งใจที่จะบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในการดำเนินงานภายในปี 2050

ประเมินราคาน้ำมันในไทยพุ่ง 25% กระทบธุรกิจ ครัวเรือนเเบกค่าครองชีพเพิ่ม 340 บาท/เดือน

อย่างไรก็ตาม คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการลดการปล่อยคาร์บอนโดย Aramco ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้รับการตอบรับด้วยความกังขาจากนักสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการประกาศดังกล่าวไม่ได้นับรวมถึงการปล่อยมลพิษจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนนี้ Aramco ได้ประกาศว่ามีแผนจะเพิ่มการผลิตน้ำมันให้มีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 13 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2027 โดยในแถลงการณ์ล่าสุด Aramco กล่าวว่า การผลิตไฮโดรคาร์บอนรวมของบริษัทนั้นเทียบเท่ากับ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงน้ำมันดิบ 9.5 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าบริษัทยังมีสัดส่วนการถือหุ้น 30% ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sudair ขนาด 1.5 กิกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และจะเริ่มผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 โดยบริษัทได้ขยายการลงทุนโดยเน้นที่ความยั่งยืนบางส่วน และจะกำหนดเป้าหมาย เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

Source