ช่วงนี้ราคาน้ำมันในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างน้ำมันไฮพรีเมียมดีเซล อยู่ที่ระดับ 35.06 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 อยู่ที่ 31.15 บาทต่อลิตร ซึ่งไม่ใช่แค่ไทย แต่ขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากจาก ‘โอเปก’ (OPEC) หรือกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ยืนยันว่าจะส่งออกน้ำมันดิบเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
ราคาน้ำมันทั่วโลกพุ่งขึ้นในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันยังคงใช้แนวทางค่อยเป็นค่อยไปในการฟื้นฟูผลผลิตในช่วงการระบาดใหญ่ โดยตกลงที่จะส่งออกเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ยาวถึงเดือนเมษายน 2565
จากแนวทางดังกล่าว ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น จากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากโควิด โดยเฉพาะจากการเดินทางต่าง ๆ ที่มีมากขึ้นเนื่องจากการผ่อนตลายมาตรการข้อจำกัดต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบิน ยิ่งไปกว่านั้น ราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงผิดปกติกำลังผลักดันให้ผู้ผลิตไฟฟ้าบางรายในเอเชียเปลี่ยนจากก๊าซธรรมชาติไปเป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำมัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนมากกว่า
ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมาแล้วมากกว่า 50% ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หนึ่งบาร์เรลแตะระดับ 78.93 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.7%
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น เมื่อเขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ในกลุ่มโอเปกคนสำคัญของซาอุดิอาระเบียในการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเงื่อนไขเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19
โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังคงติดต่อกับสมาชิกโอเปกเกี่ยวกับราคาและกำลังมองหาเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งสูงขึ้น พร้อมย้ำว่าจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่ต่อไป แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ใช่สมาชิกของโอเปกก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันสำหรับประชาชนชาวอเมริกันได้
โดยจากราคาน้ำมันดิบทำขึ้นประมาณครึ่งหนึ่งของต้นทุนน้ำมันเบนซินที่ปั๊มในราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกายังทรงตัวที่ประมาณ 3.20 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตามรายงานของสหพันธ์สมาคมยานยนต์ AAA โดยเพิ่มสูงขึ้นค่าเฉลี่ยปีที่แล้วอยู่ที่ 97 เซ็นต์
ขณะที่ทางฝั่งรัฐบาลประเทศจากสหภาพยุโรปได้มีกำหนดประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการรับมือร่วมกันหรือไม่ โดย อันแดรย์ บาบิช นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก กล่าวว่า สถานการณ์เริ่มหนักหน่วง ราคาที่สูงนั้นเป็นปัญหาต่อศักยภาพการแข่งขันของเศรษฐกิจยุโรป และยังส่งผลกระทบต่องบจับจ่ายของผู้บริโภค ด้วยราคาที่สูงขนาดนี้ สหภาพยุโรปอาจจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงด้วย