จุดวิเคราะห์ความนิยม
ภาวะน้ำมันแพงมาเขย่าเศรษฐกิจทั้งโลกได้ 5 ปีแล้ว แม้ธุรกิจส่วนใหญ่จะได้ผลลบ แต่ก็มีธุรกิจที่ได้ผลบวกเต็มๆ เติบโตพุ่งทะยานขึ้นมาตามราคาน้ำมัน ก็คือบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่มีฐานะเสมือนเป็น “บริษัทพลังงานแห่งชาติ” ที่ถูกยอมรับว่าเป็นผู้นำทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาดแรงงาน ดึงดูดใจทั้งบุคลากรสายวิศวกรหรือสายอื่นๆ เช่นการเงินและอื่นๆ จนติดอันดับ 2 ในการสำรวจครั้งนี้
ปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร ชี้จุดความนิยมของ ปตท. ว่านอกจากจะได้ผลดีจากสภาพตลาดน้ำมันโลกแล้ว ยังมีระบบบริหารซึ่งมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เป็นบริษัทของประเทศไทยแห่งเดียวที่ติดอันดับบริษัทชั้นนำ 500 แห่งของโลกสำรวจโดยนิตยสาร Fortune โดยติดอันดับสูงถึง 118
เกณฑ์การเลือกพนักงาน
Vision ด้านการบริหารบุคคลของ ปตท. ถูกเขียนขึ้นเป็นสโลแกนให้บุคลากรทุกคนจดจำว่า “คนเก่งและคนดี ปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ” นั่นหมายถึงว่าบุคลากรจะถูกพิจารณาทั้งความสามารถ ประสบการณ์ และจริยธรรมด้วย และ ปตท. ไม่มีกฎหรือนโยบายที่จะนำสถาบันการศึกษา ศาสนา และเพศของผู้สมัครมาใช้พิจารณารับคนเข้าทำงานแต่อย่างใด
ตำแหน่งนี้ที่ต้องการ
ปตท. เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมครบวงจร ตั้งแต่ “ต้นน้ำ” ปิโตรเลียม จนถึง “ปลายน้ำ” ปิโตรเคมี ดังนั้นจึงเป็นองค์กรที่มีลักษณะงานหลากหลายสายอาชีพ เช่นนอกจากสายวิศวกรรมปิโตรเลียม วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ แล้ว ก็ยังมีสายเทคโนโลยีสารสนเทศ การเงิน และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ ปตท.จริงจังกับการวางระบบสมัยใหม่ และใช้เป็นเครื่องมือในการทำงานทั้งองค์กร รวมถึงการตลาด, ทรัพยากรบุคคล, ฯลฯ โดยจะต้องสอดคล้องกับตำแหน่งและหน่วยงาน
อัตราเงินเดือนและโบนัส
ปตท. ไม่ได้กำหนดอัตราตายตัวไว้ แต่ใช้หลักการบริหารค่าตอบแทนไว้ดังนี้
1. ต้องสอดคล้องกับผลการปฏิบัติงาน ได้แก่ ความรู้ ความสามารถ ผลการปฏิบัติงาน และความยากง่ายของหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน
2. ต้องสามารถแข่งขันได้กับธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน
3. ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของ ปตท. และไม่ทำให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ “เกินตัว” ต่อองค์กรในระยะยาว
สวัสดิการที่น่าสนใจ
– รูปแบบตัวเงิน : เงินเดือน โบนัส ค่าล่วงเวลา สวัสดิการรักษาพยาบาล เงินช่วยเหลือการศึกษาบุตร เป็นต้น
– รูปแบบที่ไม่เป็นตัวเงิน : การยกย่องชมเชยในรูปแบบต่างๆ เช่น พนักงานดีเด่นประจำปี รางวัลทางด้านกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร เช่น รางวัลเพิ่มผลผลิต รางวัลด้านความปลอดภัย รางวัลด้านการบริหารองค์ความรู้ในองค์กร ฯลฯ
ทำเล
สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ เป็นอาคารของ ปตท. เอง ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต สะดวกต่อการขับรถยนต์ส่วนตัวไป อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต และยังอยู่ติดกับสวนรถไฟ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมอีกแห่งของคนทำงาน ด้วยบรรยากาศน่าเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยานออกกำลังกาย และน่านั่งเล่นผ่อนคลายความเครียด
เวลาเข้าออกการทำงาน
– งานการผลิต : ต้องมีผู้เข้าเวรปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2กะ ความยาวกะละ 12 ชั่วโมง โดยกะแรกคือ 8:00 ถึง20:00 น. และกะที่สองคือ 20:00 ถึง 8:00น. เช้าของอีกวัน
– งานสำนักงาน : วันละ 8 ชั่วโมง เหลื่อมกัน 3 ช่วงในลักษณะ “Flexi Time” คือ 8.00 -17.00 น., 8.30 -17.30 น. และ 9.00-18.00 น. เพื่อให้พนักงานเลือกตามความสะดวกในการมาจากต่างทำเลบ้านกันไป และช่วยให้สภาพจราจรรอบสำนักงานไม่แออัดเกินไป
ผลประกอบการ
ปตท. มีมูลค่าบริษัท (Market Cap.) 7.2 แสนล้านบาท (มีนาคม 2553) ถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในไทย
ปี 2552 บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน มีกำไรสุทธิ 59,547 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % เมื่อเทียบกับทั้งปี 2551 แม้ว่ายอดขายจะลดลงจากราว 2 ล้านล้านบาทในปี 2551 มาเป็นราว 1.6 ล้านล้านบาทในปี 2552 สะท้อนว่าบริษัทพึ่งพาราคาน้ำมันน้อยลงเพราะให้น้ำหนักกับธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น เช่น ปิโตรเคมี