ซาอุดีอาระเบียเตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีก 1 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากการบุกยูเครนโดยรัสเซีย และล่าสุดนั้นราคาน้ำมันกลับมาปรับเท่ากับช่วงก่อนความขัดแย้งดังกล่าว ส่งผลทำให้ประเทศส่งออกน้ำมันรายดังกล่าวต้องปรับกำลังการผลิตลง
ท่าทีของประเทศส่งออกน้ำมันอันดับ 1 ของโลกอย่างซาอุดีอาระเบียนั้นตามมาจากการประชุมของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอย่าง OPEC เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 มิถุนายน) ที่รวมถึงรัสเซียและประเทศส่งออกน้ำมันรายเล็กที่ตกลงจะลดการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามพยุงราคาน้ำมันดิบขึ้นมา
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาทาง OPEC+ ได้ประกาศปรับลดกำลังการไปผลิตแล้ว ก่อนที่จะมีการปรับกำลังการผลิตลงอีกครั้ง และส่งสัญญาณว่าทางกลุ่มจะปรับลดกำลังการผลิตลงต่อไป ถ้าหากราคาน้ำมันมีท่าทีลดลง
กระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้อธิบายว่าการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบโดยสมัครใจเพิ่มเติมของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายดังกล่าวนี้ถือเป็นความพยายามป้องกันกลุ่มประเทศ OPEC+ เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพและความสมดุลของตลาดน้ำมัน
ขณะที่ทางซาอุดีอาระเบียนั้นต้องการให้ราคาน้ำมันมากกว่า 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากเป็นจุดคุ้มทุนของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบียยังต้องการเม็ดเงินมหาศาลที่ได้จากการผลิตน้ำมันดิบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงหลังจากนี้ที่ต้องการลดการพึ่งพาจากการขายน้ำมัน
ไม่เพียงเท่านี้การส่งสัญญาณของซาอุดีอาระเบียยังตามมาหลังจากวี่แววความต้องการพลังงานทั่วโลกนั้นอาจลดลงจากความกังวลว่าเศรษฐกิจในยุโรป หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่สภาวะถดถอย ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ ทำให้ซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันดิบ
ปัจจุบันกลุ่ม OPEC+ เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของน้ำมันดิบของโลก และการตัดสินใจของทางกลุ่ม หรือแม้แต่ซาอุดีอาระเบียในแต่ละครั้งนั้นมีผลกระทบอย่างมากต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก