-
Razer ตั้งกิจการร่วมค้า ขอใบอนุญาต “Digital Banking” เต็มรูปแบบในสิงคโปร์
-
เน้นเจาะกลุ่มคนวัยมิลเลนเนียล และผู้ประกอบการขนาดเล็กที่เข้าไม่ถึงเงินทุนของธนาคารทั่วไป
-
ก่อนหน้านี้ Razer ก้าวสู่วงการการเงินมาแล้วด้วยการเปิด e-Wallet คือ Razer Pay
Razer บริษัทผู้ผลิตเกมมิ่งฮาร์ดแวร์เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตฉบับเต็มสำหรับประกอบกิจการธนาคารดิจิทัลในสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทนี้ใช้รูปแบบกิจการร่วมค้า 6 บริษัทในการขอใบอนุญาต ผนึกกำลังกันระหว่าง Razer Fintech บริษัทย่อยด้านเทคโนโลยีการเงินของตนเอง และกลุ่มพันธมิตรระดับกลยุทธ์ ได้แก่ Sheng Siong Holdings บริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น, FWD บริษัทประกัน, LinkSure Global บริษัทอินเทอร์เน็ต, Insignia Ventures Partners เวนเจอร์แคปิตอลที่เน้นลงทุนสตาร์ทอัพขั้นต้น และ Carro มาร์เก็ตเพลซขายส่งยานพาหนะระดับภูมิภาค
ในกิจการร่วมค้าดังกล่าว Razer Fintech จะถือหุ้นสัดส่วน 60% และใช้ชื่อกิจการนี้ว่า Razer Youth Bank โดยตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ส่วนพันธมิตรอีก 5 รายจะถือหุ้นที่เหลือในสัดส่วนเท่าๆ กัน
คำแถลงจาก Razer กล่าวว่า ธนาคารดิจิทัลแห่งนี้จะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยมิลเลนเนียล รวมถึงตั้งใจจะ “ผสานประสบการณ์แห่งไลฟ์สไตล์” ไว้บนแพลตฟอร์มนี้ โดยธนาคารนี้จะเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์อีกหลายแห่ง เช่น SkyScanner เครื่องมือค้นหาและเปรียบเทียบราคาสำหรับการท่องเที่ยว และ Visa ผู้ให้บริการเครดิตการ์ด
นอกจากนี้ Razer Youth Bank จะเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม ซึ่งปกติแล้วเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากอีกด้วย
Razer เป็นหนึ่งในสองบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ที่ยื่นขอใบอนุญาตฉบับเต็มสำหรับประกอบกิจการ Digital Banking ในสิงคโปร์ อีกรายหนึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนไกล แต่เป็น Grab ยักษ์ใหญ่ด้านบริการร่วมขับขี่ ซึ่งร่วมมือกับยักษ์โทรคมนาคม Singtel ในการขอใบอนุญาต ทั้งนี้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) คาดว่าใบอนุญาตทั้งสองฉบับจะได้รับอนุมัติในเดือนมิถุนายน 2020
บริษัทฮาร์ดแวร์เจาะกลุ่มเกมเมอร์ Razer เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง สำหรับบริษัทลูก Razer Fintech มีการเปิดดำเนินการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Razer Pay ตั้งแต่ปี 2018 ปัจจุบันให้บริการอยู่ในมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยมีแผนจะเปิดบริการที่ฟิลิปปินส์เป็นลำดับถัดไป
เมื่อเดือนมิถุนายน 2019 Razer Pay ยังประกาศความร่วมมือกับ Visa เพื่อปลดล็อกให้ e-Wallet ของตนเองสามารถใช้ได้ทุกร้านค้าที่รับบัตรเครดิตของ Visa ซึ่งมีอยู่ 54 ล้านแห่งทั่วโลก จากเดิมที่ Razer Pay เติบโตมาจากการใช้เติมเกมออนไลน์ จ่ายค่าบริการออนไลน์ และใช้ได้ในร้านค้าออฟไลน์บางแห่ง เช่น Starbucks, 7-Eleven
การได้ใบอนุญาตฉบับเต็มเพื่อเป็นดิจิทัล แบงค์กิ้ง จะทำให้ Razer Youth Bank สามารถให้กู้สินเชื่อและรับฝากเงินได้โดยไม่ต้องเปิดสาขา เป็นการรุกคืบอีกขั้นเข้ามาในอาณาจักรธุรกิจการเงิน
Source: CNBC, Techcrunch