บทสรุปเทรนด์แฟชั่นในรอบ 10 ปี “unisex-สี Millennial Pink-รองเท้าประหลาด”

ตลาดแฟชั่นมีพัฒนาการหลายด้านตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในยุคปี 2010s ทั้งผู้ซื้อผู้ขายผู้ผลิตต้องปรับตัวตามตลาดรวมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของทศวรรษซึ่งการช้อปปิ้งออนไลน์มีบทบาทแซงร้านค้าปลีกดั้งเดิม

ผลคือตลาดแฟชั่นกลายเป็นสมรภูมิที่ทุกคนสามารถแข่งขันได้อย่างเสรีกว่าเดิม แถมยังทำให้แฟชั่นแหวกแนวติดตลาดง่ายขึ้นเพราะ influencer ที่หยิบสไตล์เก๋ไก๋มาถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดียทั้ง Instagram และ Facebook แบบให้ดูได้ทุกวัน

สไตล์จากคนดังเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์แฟชันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ส่งผลให้เกิดการร่วมมือหรือการ collaboration ในรูปโครงการที่แบรนด์ต้องไป “x” กับกลุ่มหรือศิลปินอื่นแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งคาดว่าเทรนด์ collaboration นี้จะยังมีอิทธิพลในตลาดแฟชั่นช่วงปี 2020 ต่อไป

นอกจาก collaboration เทรนด์ที่น่าสนใจในตลาดแฟชั่นช่วงทศวรรษยังมีประเด็น logomania สินค้าพิมพ์ลายโลโก้ที่เคยล้าสมัยไปแต่ก็กลับมาฮอตฮิตในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสินค้าที่สวมใส่ได้ทุกเพศอย่าง unisex ก็ได้รับความนิยมร้อนแรงตามกระแสเปิดเสรีเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงสี Millennial Pink ชมพูอมพีชที่ถูกมองว่าเป็นสีแห่งทศวรรษซึ่งหลายแบรนด์แฟชั่นต้องออกสินค้าสีนี้เพื่อตอบโจทย์ตลาดให้หลากหลาย

รองเท้าประหลาดฮอตแรง

ต้องบันทึกว่ายุคปี 2010s เป็นช่วงปีที่รองเท้าประหลาดรูปทรงพิเศษได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ส่งให้แบรนด์อย่าง Crocs จนถึง FILA รวมถึงรุ่นใหญ่อย่าง Balenciaga และ Jimmy Choo ต้องพยายามสร้างสรรค์รองเท้าดีไซน์แรงเพื่อดึงดูดความสนใจจากตลาดแฟชั่น ซึ่งจะสามารถแย่งพื้นที่โชว์ตัวในโลกโซเชียลได้

ไม่เพียงรองเท้าดีไซน์แรง กระเป๋าหรือแฟชั่นแหวกแนวที่สร้างความต่างก็กลายเป็นดาวเด่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ยังมีกระแสแฟชั่นย้อนยุคหลุดโลกหรือที่เรียกว่า Post-Modernist Fashion ซึ่งสร้างชื่อให้ดีไซเนอร์และอีกหลายแบรนด์

สินค้ากลุ่ม Athleisure สำหรับนักกีฬายังกลายเป็นแฟชั่นที่ชาวโลกใส่ได้ทุกวัน กระแสรักสุขภาพที่ปลุกให้ผู้คนลุกขึ้นมาออกกำลังกายทั้งการวิ่งหรือโยคะ ทำให้แฟชั่นกีฬาสามารถแจ้งเกิดนอกห้องยิมได้มากกว่าทศวรรษอื่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบรนด์กีฬาหันไปทำ collaboration กับผู้มีอิทธิพลหลายวงการ โดยเฉพาะกลุ่่ม beauty ซึ่งทำให้สินค้ากีฬาโดนใจสาวน้อยสาวใหญ่ได้มากขึ้น

แบรนด์ดังต้อง x กัน

อย่านับให้เสียเวลาว่ายุคปี 2010s มีความร่วมมือหรือ collaboration ระหว่างแบรนด์และผู้มีอิทธิพลจำนวนกี่ครั้ง เพราะโครงการ collaboration เหล่ามีจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งการร่วมมือกับดีไซเนอร์และศิลปิน ท่ามกลางการยกให้แบรนด์ Supreme เป็นสุดยอดแบรนด์ที่เชี่ยวชาญโมเดลธุรกิจ collaborative มาก่อนจนสามารถยกระดับสินค้าได้ชัดเจน ผ่านการร่วมมือกับ Louis Vuitton ในปี 2017

อีกสิ่งที่ชัดเจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คือทั้งรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า คาเฟ่ หรือแม้แต่ร้านค้าทั่วไป ล้วนมีปรากฏตัวในสีพีชพาสเทล Millennial Pink นี้ทั้งสิ้น โดย Pantone ยกสี “Rose Quartz” ให้เป็นสีแห่งปี 2016 แต่ก็ยังได้รับความนิยมเรื่อยมาจนถูกมองว่าเป็นสีที่ควรค่าแก่การโพสต์บน Instagram”

Air Jordan

แบรนด์ที่หนุนสี Millennial Pink มีตั้งแต่ Air Jordan ที่คลอด Air Jordan 6 สี Millenial Pink โดยร่วมมือกับ Aleali May ยังมีแบรนด์อย่าง Jacquemus, Dior และ Loewe ที่หยิบสีนี้ไปแต่งแต้มในคอลเลกชั่นตัวเอง

ยุคปี 2010s ยังเป็นช่วงเวลาทองของแบรนด์อิสระ ช่องทาง e-commerce ทั้ง Amazon และ eBay รวมถึง Instagram ที่มีฟีเจอร์ in-app shopping ล้วนกลายเป็นถนนสู่การปฏิวัติโลกค้าปลีกแฟชันยุคใหม่ที่จะต้องเน้นประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิม แจ้งเกิดยุค experiential retail ที่ร้านค้าทุกรายจะต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเดิม

บทสรุปเทรนด์ตลาดแฟชั่นในรอบ 10 ปีเหล่านี้ว่าสนุกแล้ว โลกแฟชั่นในช่วงทศวรรษใหม่ต้องสนุกกว่านี้แน่นอน.