ปัดขวาอย่างปลอดภัย! Tinder ออกฟังก์ชัน “เตือนภัย” กดปุ่มเดียวเรียกตำรวจระหว่างเดต

(photo: Varavin88 / Shutterstock.com)
แมตช์กันได้อย่างสบายใจมากขึ้น หลัง Tinder เปิดฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัย “Panic Button” ให้ผู้ใช้กดปุ่มเดียวบนหน้าจอมือถือเพื่อร้องขอความช่วยเหลือหากการเดตเกิดความเสี่ยงขึ้น พร้อมเปิดฟีเจอร์ป้องกันการใช้บัญชีปลอมหรือหลอกลวง

Tinder ในสหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มฟีเจอร์กดปุ่มเดียวเพื่อรายงานความเสี่ยงระหว่างออกเดต โดยเป็นความร่วมมือกับแอปพลิเคชัน Noonlight แอปฯ ที่ Match บริษัทแม่ของ Tinder ลงทุนอยู่

ผู้ใช้ที่สนใจต้องดาวน์โหลดแอปฯ Noonlight มาติดตั้งเพิ่ม จากนั้นเมื่อจะออกเดต ต้องพิมพ์ข้อมูลการเดต เช่น วัน เวลา สถานที่ คู่เดต เข้าไปในแอปฯ ด้วยตนเองก่อน โดยภายในแอปฯ นี้เราสามารถแชร์ข้อมูลการเดตให้เพื่อนทราบได้ด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการออกเดต

ฟังก์ชันการทำงานของ Noonlight

ถ้าหากผู้ใช้ออกเดตแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย สามารถกด “Panic Button” บนแอปฯ Noonlight จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำงานเป็น 3 ขั้น ขั้นแรกคือแชทผ่านแอปฯ มาสอบถามก่อนว่าต้องการให้ช่วยเหลือทันทีไหม ถ้าไม่มีการตอบรับ เจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์มา หากยังไม่มีการตอบรับอีก เจ้าหน้าที่จะแจ้งตำรวจทันที

อย่างไรก็ตาม ตัวแอปฯ นี้จะติดตามโลเคชั่น ของผู้ใช้ผ่านระบบ GPS ด้วย ดังนั้นเพียงกดปุ่มเดียวแอปฯ จะรู้ทันทีว่าโลเคชั่นอยู่ที่ไหน และที่มีฟังก์ชันให้แชทตอบโต้ก่อน เพื่อทำให้การขอความช่วยเหลือง่ายขึ้น ไม่ ‘แหวกหญ้าให้งูตื่น’ ท่ามกลางสถานการณ์เสี่ยง

สำหรับคนที่เป็นกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว Noonlight ยืนยันว่าไม่มีการขายข้อมูลโลเคชั่นให้ผู้ใด และผู้ใช้สามารถปิดการแชร์โลเคชั่นได้ในช่วงที่ไม่มีการออกเดต

นอกจากมีปุ่มเรียกตำรวจแล้ว ยังมีการให้คำแนะนำในการปิดความเสี่ยงในการคุยกับคนแปลกหน้าด้วย เช่น แนะนำไม่ให้บอกที่อยู่ของตนเองอย่างเฉพาะเจาะจงให้คู่แมตช์ออนไลน์

นอกจากฟังก์ชัน Panic Button แล้ว แอปฯ Tinder ยังทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนว่าเป็นคนเดียวกับรูปภาพที่ลงในแอปฯ หรือไม่ โดยระบบ AI ในฟีเจอร์นี้จะให้เจ้าของบัญชีถ่ายรูปเซลฟี่ ของตัวเองในท่าทางต่างๆ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรูปที่เพิ่งอัพโหลดลงไปว่าตรงกันหรือไม่

ฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นเพื่อป้องกันการสร้างบัญชีปลอมหรือหลอกลวง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมาเนิ่นนานในโลกของการหาคู่ออนไลน์ แม้ว่ายังไม่สามารถกรองได้ละเอียดถึงประวัติทั้งหมด แต่อย่างน้อยรูปที่เห็นในแอปฯ จะต้องเป็นตัวจริงแล้วหลังจากนี้

ฟีเจอร์ให้เซลฟี่ตามแบบที่กำหนดเพื่อประมวลว่ารูปที่อัพโหลดลงในแอปฯ ใช่คุณจริงๆ หรือเปล่า

สารพัดฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ บริษัท Match มองว่าในอนาคตจะนำไปใช้กับแอปฯ และเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์อื่นๆ ของบริษัทด้วย ได้แก่ OkCupid, Hinge และ Match.com ส่วนการนำมาใช้กับแอปฯ Tinder ในประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐฯ นั้นยังไม่มีแผนอย่างชัดเจน

ความตื่นตัวเพื่อช่วยรับผิดชอบสังคมของแอปฯ หาคู่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนที่กระแสสังคมต่างจับจ้องไปที่แอปฯ บริการเรียกรถอย่าง Uber และ Lyft ว่าควรจะทำได้ดีกว่านี้เพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และทั้งสองบริษัทดังกล่าวก็มีปุ่มแจ้งตำรวจในแอปฯ แบบเดียวกันไปแล้วก่อนหน้านี้

ส่วนในประเทศไทยนั้น แอปฯ ที่มีระบบกดปุ่มเดียวเรียกตำรวจได้เลยก็มีเช่นกัน ในชื่อแอปฯ “Police I lert U” โดยข้อมูลผู้ลงทะเบียนกับโลเคชั่นขณะนั้นจะถูกส่งไปในวอร์รูมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่โทรศัพท์ติดต่อกลับมาทันที

Source