แม้ปีนี้เบอร์ดี้ได้ทุ่มงบการตลาดมากถึง 680 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เบอร์ดี้ออกสู่ตลาดซึ่งมีระยะเวลานานถึง 17 ปี แต่ พิเชียร คูสมิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งในวันงานแถลงข่าวถึงกับลงทุนสลัดเสื้อเชิ้ตพร้อมเนกไท หันมาสวมเสื้อคอวีสีฟ้า และไม่ลืมเพิ่มความเท่ด้วยแว่นตากันแดด เพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์เบอร์ดี้ที่ต้องดูโฉบเฉี่ยว โดยได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จะขอส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอีกเพียง 1%เท่านั้น
เพราะในปีนี้ตลาดกาแฟกระป๋องจะทะลุ “หมื่นล้าน” เป็นครั้งแรก
“ปีนี้ เราคงขอส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเพียง 1% เพราะสภาพตลาดตอนนี้ที่เกือบแตะหมื่นล้านบาท เพิ่มอีกเพียง 1% ก็เท่ากับมูลค่ามหาศาล”
ปัจจุบัน เบอร์ดี้ครองส่วนแบ่งการตลาดในกาแฟกระป๋องสูงถึง 69% เป็นอันดับหนึ่งแบบทิ้งห่างคู่แข่งเบอร์สองอย่างเนสกาแฟอยู่หลายช่วงตัว และเบอร์ดี้ยังคงแสดงความมั่นใจว่าจะยังคงต่อยอดความสำเร็จนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เนสกาแฟจะพยายามอย่างหนักในการแย่งส่วนแบ่งการตลาดผ่านเนสกาแฟ สไตล์ กาแฟพร้อมดื่มบรรจุขวดแบบพรีเมียม
ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มเพียง 1% อาจดูเล็กน้อย แต่พิเชียรบอกว่า ทั้งตัวเขาเองและทีมงานคงต้องเหนื่อยกันหนักหนาสาหัสทีเดียว โดยเบอร์ดี้ต้องเติบโตมากถึง 10% เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาดตามเป้าหมายที่วางไว้
และส่งผลมายังแผนการตลาดในปีนี้ที่เข้มข้นมากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่าตัว โดยเฉพาะการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้ดูสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สอดคล้องกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
“การเป็นผู้นำทำให้เราหยุดนิ่งไม่ได้ เราจึงปรับภาพลักษณ์ของสินค้าใหม่ เพื่อขยายฐานผู้บริโภค”
นับตั้งแต่เปิดตัวสินค้าเมื่อ 17 ปีที่แล้ว กลุ่มเป้าหมายหลักที่เบอร์ดี้ต้องการเจาะคือ ผู้บริโภคอายุ 20 – 29 ปี ซึ่งตำแหน่งผู้นำตลาดที่เบอร์ดี้ครองอยู่ในปัจจุบันก็คงเพียงพอบอกเล่าความสำเร็จที่ผ่านมาได้ แต่ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายที่มีความจงรักภักดีกับแบรนด์เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ได้เติบโตก้าวล่วงสู่อายุ 40กันเกือบทั้งนั้น ขณะที่ภาพลักษณ์เดิมของแบรนด์ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้
การปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้ จึงต้องการหันมาจับกลุ่มผู้บริโภคอายุ 20 – 29 ปีอีกครั้งหนึ่ง โดยเลือกใช้ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด ซึ่งเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจน เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
แต่สื่อให้เห็นถึงความเป็นเบอร์ดี้ได้เป็นอย่างดี และยังคงความเป็นตัวตนของเบอร์ดี้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
“เนื้อหาหลักในการสื่อสารไม่ได้แตกต่างจากเดิม เราต้องการสื่อถึงความมุ่งมั่นเหมือนเดิม แต่เป็นความมุ่งมั่นที่ปรับภาพลักษณ์ใหม่”
วิเชียร เชื่อมั่นว่า ภาพลักษณ์ใหม่ของเบอร์ดี้จะช่วยให้เบอร์ดี้สามารถขยับส่วนแบ่งตลาดจาก 69% เป็น 70% ได้อย่างแน่นอน
Market Value (ล้านบาท)
ปี 2007 ปี 2008 ปี 2009
8,200 9,000 9,400