มรสุมห้างค้าปลีกอเมริกา ล่าสุดห้างค้าสรรพสินค้าเก่าเเก่อายุกว่า 162 ปีอย่าง Macy’s ประกาศจะปิดสาขาอีก 125 เเห่งในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งนับเป็นจำนวน 1 ใน 5 ของสาขาที่มีทั้งหมด รวมถึงจะปลดพนักงานราว 2,000 คน (10% ของทั้งบริษัท) ปรับกลยุทธ์สู่ห้างขนาดเล็ก ขยายไลน์สินค้าเน้นอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น
สำหรับ Macy’s เป็นเชนห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ก่อตั้งมาในปี 1858 กำลังต่อสู้กับการรักษาลูกค้าเดิมที่มีอยู่ พร้อมดึงดูดลูกค้าใหม่ ท่ามกลางเทรนด์ผู้บริโภคเมื่อคนเดินห้างลดลงเเละหันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2015 ทางบริษัทมีการปิดสาขาไปเเล้วมากกว่า 100 แห่ง และปรับลดพนักงานกว่าพันตำเเหน่ง
Jeff Gennette ซีอีโอของ Macy’s ระบุว่าบริษัทจะมุ่งใช้ทรัพยากรของบริษัทกับธุรกิจที่แข็งแกร่ง แก้ไขธุรกิจที่อ่อนแอ และสำรวจหาวิธีการสร้างรายได้ใหม่
โดยห้างสรรพสินค้าทั้ง 125 สาขาที่ตั้งเป้าจะปิดตัวนี้ ในปัจจุบันมียอดขายประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
เเละมีรายได้อยู่ที่ 2.49 หมื่นล้านเหรียญต่อปี
คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะลดค่าใช้จ่ายได้ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในสิ้นปี 2022 นอกจากนี้ยังมีเเผนจะปิดสำนักงานใหญ่ในเมืองซินซินแนติและนครซานฟรานซิสโกด้วย
สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ที่จะนำมาใช้คือ Market by Macy’s ปรับเป็นห้างขนาดเล็กลง เเละนำสินค้าที่บริษัทผลิตเองเเละผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาจำหน่าย เลือกสรรตามรสนิยมของลูกค้า พร้อมเน้นไปที่เรื่องอาหารเเละเครื่องดื่มมากขึ้น ปรับปรุงห้างให้เป็นเหมือนพื้นที่สังสรรค์ของครอบครัว
ด้าน CNN รายงานว่า ห้างสรรพห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายเเห่งในสหรัฐฯ กำลังได้รับผลกระทบจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซเเละการซื้อขายของออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยม พร้อมทั้งเครือร้านเสื้อผ้าราคาถูกก็เข้ามาเเย่งชิงตลาด ขณะที่คู่แข่งของ Macy’s อย่าง Sears ห้างเก่าเเก่ที่ก่อตั้งมาตั้งเเต่ปีในปี 1892 ก็เข้ายื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะล้มละลายเมื่อปี 2017
ที่มา : Reuters