ทุก 1 นาที iPad ขายได้ 24.8 เครื่อง หรือเฉลี่ยทุก 2.5 วินาทีต่อ 1 เครื่อง ภายใน 28 วันทำยอดขายที่อเมริกาได้ 1 ล้านเครื่อง ทำลายทุกสถิตที่ Apple เคยทำ ตั้งแต่ iPod ที่ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี และ iPhone 74 วัน กลบเสียงหัวเราะเยาะ และคลายความสงสัยที่เกิดขึ้นว่า iPad จะไปไม่รอด เพราะมีจุดอ่อนทางเทคนิค หรือแม้กระทั่งชื่อ iPad ที่ทำให้นึกถึงผ้าอนามัยจนถูกล้อเลียนขำขันในโลกไซเบอร์
แต่เพียงแค่ 1 เดือนในอเมริกา และอีก 1 เดือนที่ผ่านมาใน 9 ประเทศ ไม่เพียงแถวยาวรอซื้อ iPad เท่านั้น แต่พลัง iPad กำลังทำให้เห็นว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคของ Post PC era ที่ PC กำลังถูกเก็บไว้บนหิ้งอย่างเต็มตัว
ตอนที่ “Steve Jobs” ซีอีโอของ Apple Inc. เปิดตัว iPad เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2010 และวางจำหน่ายเมื่อ 3 เมษายน 2010 เสียงส่วนใหญ่บอกว่าคือ iPhone ยักษ์ เพราะไม่เพียงหน้าตาเหมือนกัน แต่เครื่องข้างในเหมือนกันยังกลับโคลนนิ่ง เช่น สามารถรับส่งอีเมล ท่องเน็ต ฟังเพลง ดูวิดีโอ เก็บภาพ ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ จาก iTunes และ App Storeได้ แต่ iPad ยังใช้ทำงานได้ อ่านหนังสือได้อรรถรส จนได้ข้อสรุปว่า คนซื้อ iPad เหมือนกับได้ iPhone (เพียงแต่โทรศัพท์ไม่ได้ และไม่มีกล้อง) ได้ Mac มาใช้ทำงาน แต่ไม่มีคีย์บอร์ดซึ่งเป็น Key Success มาตั้งแต่ iPhone และได้ iPod มาดูหนังฟังเพลง ให้เพลิดเพลิน
เป็นการผสมผสานของ 3 ผลิตภัณฑ์ที่ลงตัว โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยมีประสบการสัมผัส “ทัชที่นุ่มนวลและดั่งใจ” จาก iPhone มาแล้ว เมื่อได้ “สัมผัสนี้” บนหน้าจอขนาดประมาณ 9.7 นิ้ว ของ iPad หลายคนบอกว่ามันสุดยอดจริงๆ ทำให้จุดอ่อนที่มีถูกมองข้ามไป
กระแสของ iPad จึงแรงและกลายเป็นอาการฟีเวอร์ไปทั่วโลก รวมทั้งในไทยที่แม้จะเป็นกลุ่มประเทศในลำดับ 3 ของ Apple ที่จะวางขายโปรดักส์ใหม่อย่างเป็นทางการหลังเปิดจำหน่ายในอเมริกา 3-6 เดือน แต่ Grey Market ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหิ้วมาส่ง หรือที่มาบุญครองและห้างจำหน่ายสินค้าไอทีทั่วกรุงเทพฯ ก็มี iPad วางขาย ด้วยเวลาเพียง 2 เดือน iPad ถูกปล่อยไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นเครื่อง ทั้งที่ราคาแพงกว่าที่ขายในอเมริกาเฉลี่ย 5,000 บาท
iPad ทำให้เกิดการตื่นตัวของธุรกิจ และกำลังเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้คน จนหลายธุรกิจกำลังปรับตัวใช้ iPad ให้เป็นประโยชน์แล้วเต็มที่ในต่างประเทศ อย่างเห็นได้ชัดคือ สื่อสิ่งพิมพ์ เมื่อ iPad กำลังทำให้ผู้อ่านยอมจ่ายเงินที่จะซื้อในเวอร์ชั่นออนไลน์มากขึ้น กระแสนี้ทำให้สื่อหัวใหญ่ในเมืองไทยเตรียมรับมือกันเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ไทยรัฐ และเครือเนชั่น ส่วนที่คึกคักที่สุดในเวลานี้ของไทยต้องยกให้กับธุรกิจขายบ้านคอนโดมิเนียม กรณีตัวอย่างคือแสนสิริ และพฤกษา ที่หากลยุทธ์ Approach ลูกค้าให้ถึงตัวประทับใจ แบบ Wow!!! ด้วยการใช้ iPad พรีเซนต์เป็นเครื่องมือช่วยขาย
สถาบันการศึกษา 3 แห่ง อย่าง มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กำลังศึกษาอย่างหนัก หากพบข้อดีกว่ามากกว่าข้อเสีย iPad ก็จะมาแทนที่เน็ตบุ๊กทันทีด้วยยอดไม่ต่ำกว่าหมื่นเครื่อง รวมไปถึงธุรกิจบันเทิงจากคนบันเทิงอย่าง “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” และอีคอมเมิร์ชอย่าง “ป้อม ภาวุธ” ที่กำลังสตาร์ทพร้อมช่วงเริ่มต้นของ iPad ก่อนจะขายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ
ปรากฏการณ์ของ iPad ทำให้เห็นว่าโลกหมุนเร็ว และความอัศจรรย์ของอุปกรณ์ไอทีได้เกิดขึ้นแล้วในมือของคุณ