สิงคโปร์ ประกาศตั้งเป้าเลิกใช้ “รถยนต์น้ำมัน” ให้ได้ภายในปี 2040 ชาติเเรกในอาเซียน

Photo : Shutterstock

สิงคโปร์ เป็นประเทศเเรกในอาเซียน ที่ตั้งเป้าจะยกเลิกใช้งานรถยนต์ที่ขับเคลื่อนดัวยน้ำมันเชื้อเพลิง “เบนซิน-ดีเซล” ทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2040 โดยจะหันมาทุ่มพัฒนา “รถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความพยายามในการลดก๊าซเรือนกระจกและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“วิสัยทัศน์ของเราคือการยกเลิกยานพาหนะ ICE (เครื่องยนต์สันดาปภายใน) และทำให้ยานพาหนะทั้งหมดวิ่งด้วยพลังงานสะอาดให้ได้ภายในปี 2040” Heng Swee Keat รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าว

ก่อนหน้านี้หลายประเทศทั่วโลกอย่าง ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก และนอร์เวย์ รวมถึงจีนก็ที่ประกาศเป้าหมายดังกล่าวเช่นกัน

โดยการคมนาคมในประเทศมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ เเละยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในมีส่วนที่ทำให้เกิดมลพิษ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน

รัฐบาลสิงคโปร์ จึงมีการส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เช่น จะมีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า มีสิทธิได้รับเงินค่าจดทะเบียนรถคันใหม่ คืนสูงสุดถึง 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ร่วมมือกับภาคเอกชนขยายจุดชาร์จไฟฟ้าจากที่มีอยู่ราว 1,600 จุด เป็น 28,000 จุด ตามพื้นที่ต่างๆ ภายในปี 2030 นี้

อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จาก Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ว่าไม่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า เเละเป็นหนึ่งในประเทศที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าราคาเเพงที่สุดในโลก จึงทำให้มีรถ EV วิ่งบนถนนทั่วไปน้อยมาก

ด้าน Satya Ramamurthy หัวหน้าฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทตรวจสอบบัญชี KPMG Singapore ให้ความเห็นกับ Nikkei Asian Review ว่า หนึ่งปัจจัยที่สำคัญของการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์พลังงานสะอาดเป็นเรื่องของผู้ให้บริการเชื้อเพลิงในสิงคโปร์

โดยยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน เช่น Royal Dutch Shell ก็เริ่มเปิดตัวจุดชาร์จ EV ที่ปั๊มน้ำมันในตัวเมืองเมื่อปีที่แล้ว

“น้ำมันจะไม่เป็นที่ต้องการสำหรับรถยนต์อีกต่อไป ซึ่งบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ได้เริ่มตระหนักแล้ว และได้เริ่มปรับตัวเพื่อรักษาความมั่นคงของธุรกิจในอนาคต”

สำหรับภาวะโลกร้อนเเละปัญหาเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนเเปลงไปทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบกับสิงคโปร์ ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นเกาะ

“ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นภัยคุกคามต่อการอยู่อาศัยของเรา” รมว.คลังสิงคโปร์ระบุ โดยรัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนป้องกันชายฝั่งเเละน้ำท่วมขึ้นมา ซึ่งได้อัดฉีดเงินงบประมาณไปก้อนเเรกไปแล้ว 5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเคยกล่าวว่าการปกป้องสิงคโปร์จากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น อาจต้องใช้งบประมาณกว่า 1 เเสนลานดอลลาร์ (ราว 7.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ)

 

ที่มา : Reuters , Nikkei Asian Review