ไอโฟน คิลเลอร์ ฉายานี้ซัมซุงขอจอง

ถูกจับตาตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว ว่าซัมซุง Galaxy S จะมาเป็น “iPhone Killer” เพราะด้วยหน้าตาและการใช้งานถอดแบบ iPhoneมาแบบเต็มๆ พร้อมด้วยแพลตฟอร์มขวัญใจชาว Geek ทั่วโลกอย่าง ”แอนดรอยด์” จึงทำให้หลายคนลุ้นว่าฝันของแบรนด์เกาหลีแบรนด์นี้จะไล่ตามฆ่า iPhone ได้จริงหรือไม่

จุดดึงดูดที่ทำให้ Galaxy S ที่ซัมซุงปั้นให้เป็นรุ่นไฮไลต์ของปีนี้ถูกใจขาว Geek ไม่ใช่แค่เพียงหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 4 นิ้วแบบ Super AMOLED ที่สวยคมชัดเท่านั้น แต่ยังรวมข้อดีในการเข้าถึงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่สะดวกขึ้น และแพลตฟอร์มแอนดรอยด์สามารถพาเข้าสู่บริการต่างๆ ของกูเกิลได้รวดเร็วกว่าแพลตฟอร์มอื่น

“สิ่งที่เราโฟกัสปีนี้คือสมาร์ทโฟน แม้จะมีหลายแพลตฟอร์ม แต่สิ่งที่เรามั่นใจว่าจะให้ประโยชน์กับลูกค้ามากที่สุดก็คือแอนดรอยด์” สิทธิโชค นพชินบุตร หัวหน้าฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็คทรอนิคส์ จำกัด บอก และว่ายังต้องเดินเกมการตลาดร่วมกันแบบ Exclusive กับผู้นำตลาดอันดับหนึ่งอย่างเอไอเอส

การจูงมือกันทำตลาดคราวนี้ไม่ใช่แค่การพ่วงแพ็กเกจโปรโมชั่นเหมือนที่ผ่านมา แต่ซังซุงยังพัฒนาแอพลิเคชั่นร่วมกันสำหรับลูกค้าเอไอเอส โดยนำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาใช้เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาตำแหน่งร้านอาหารที่ร่วมรายการของ AIS Plusว่ามีร้านใดให้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษบ้าง และยังเพิ่มแอพลิเคชั่น E-Book ให้ดาวน์โหลดหนังสือในเครือเนชั่นได้ฟรี นอกจากนี้ ซัมซุงยังพัฒนาให้ Galaxy S เป็นรีโมตคอนโทรลเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้านที่เป็นแบรนด์ซัมซุงได้อีกด้วย

แม้ว่าเอไอเอสจะไม่มีเครือข่าย 3G ให้บริการเหมือนทรูมูฟและดีแทค แต่ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่มากถึง 29 ล้านราย โดยปีที่ผ่านมาเอไอเอสมีผู้ใช้บริการ Data โตขึ้นถึง 110% จึงเป็นเหตุผลที่ซัมซุงตัดสินใจทำตลาดกับเอไอเอสรายเดียว โดยใช้ระยะเวลาเพียง 6 สัปดาห์เพื่อดูการตอบรับของตลาดในช่วงแรก ถึงแม้จะใช้เวลาสั้นๆ แต่ทั้งคู่ก็ตั้งความหวังกับรุ่นนี้ไว้ถึงหลักหมื่นเครื่อง

งบการตลาดสำหรับ Galaxy S ซัมซุงเทให้ถึง 2.5 ล้านเหรียญหรือเกือบ 100 ล้านบาท เพื่อทำตลาดในไทย หรือเท่ากับ 10% ของงบการตลาดโทรศัพท์มือถือทั้งหมดที่ตั้งไว้ 1 พันล้านบาท โดยใช้โฆษณาผ่าน TVC และ Direct Mail จากเอไอเอสส่งถึงลูกค้า รวมถึงสื่ออื่นๆ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ยังใช้สื่อออนไลน์อย่างโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมาเป็นส่วนหนึ่งของการโฆษณาด้วย โดยแบ่งงบมาใช้ในสื่อออนไลน์ประมาณ 15-20% สำหรับกลุ่มที่ Galaxy S ต้องการคือ Young at mind ที่ชื่นชอบและสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงไม่จำกัดเพศและวัย

อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสมาร์ทโฟนประมาณ 10-20% จากยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งหมด 5 ล้านเครื่อง โดยสิทธิโชคคาดว่าปีนี้ความต้องการของตลาดสมาร์ทโฟนจะยังโตขึ้นกว่า 200% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา รวมทั้ง “ความฮอต” ของแอนดรอยด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ต้นปีจึงทำให้ Galaxy S ยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่จะล้ม “ยักษ์” ได้หรือเปล่านั้นต้องรอดู

Samsung Galaxy S
Launched ตลาดโลก : 26 พฤษภาคม 2553 ที่ Suntec City ศูนย์ช้อปปิ้งใจกลางสิงคโปร์ นักข่าวและพันธมิตรร่วม 300 คน ในไทย : 31 พฤษภาคม 2553 ที่ตึกชินวัตร 1 นักข่าวสายไอทีประมาณ 10 คน
Positioning Smartphone for Smart Life
Product Detail จอทัชสกรีนขนาดใหญ่แบบ Super AMOLED ของซัมซุงที่ให้ความคมชัด รองรับแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ เข้าถึงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คได้ง่าย ราคา 21,400 บาท
Target Young at Mind เป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบและสนใจเทคโนโลยี ไม่จำกัดเพศและวัย
Market Analysis จากเดิมที่ซัมซุงมีความถนัดในการทำตลาดกลุ่มแมสที่เป็น Voice เมื่อปีนี้ต้องรุกสมาร์ทโฟนมากขึ้นจึงต้องจับมือกับโอเปอเรเตอร์เพื่อต่อยอดด้าน Data

Samsung Galaxy S VS iPhone
Brand Samsung Galaxy S
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด4 นิ้ว
แพลต ฟอร์ม Andriod 2.0
โอเปอเรเตอร์ เอไอเอส
ช่องทางดาวน์โหลดแอพ Andriod Market Place AIS Application Store
หน่วยความจำ (GB) 8 และ 16
ราคา 21,400 บาท

Brand iPhone
หน้าจอ OLED ขนาด3.5 นิ้ว
แพลต ฟอร์ม iPhone
โอเปอเรเตอร์ ทรูดีแทค
ช่องทางดาวน์โหลดแอพ App Store True App Store
หน่วยความจำ (GB) 8 และ 16
ราคา 24,500 – 28,500 บาท