ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ในขณะที่การทำงานก็มีการแข่งขันที่สูงมากขึ้นเช่นกันทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นไปอย่างเร่งรีบ ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพกันมากนักธุรกิจเพื่อสุขภาพต่างๆจึงเกิดขึ้นมากมาย เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้
วันนี้เราจึงขอพามาทำความรู้จักกับ BEEP แบรนด์น้ำผลไม้สกัดเย็น ที่เกิดจาก Passion ในการดูแลสุขภาพอย่างแรงกล้าของผู้บริหาร พร้อมมาเขย่าตลาดด้วยนวัตกรรม HPP(High Pressure Processing)รายแรกของน้ำผลไม้สกัดเย็น ที่สามารถล็อคความสดและยืดอายุการเก็บได้นาน30-45 วัน
ล็อคความสดชื่นของน้ำผลไม้สกัดเย็น ได้รสชาติเหมือนผลไม้จริงๆ
ต้องบอกว่าตลาดน้ำผลไม้ในประเทศไทยถูกครองตลาดด้วยแบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งผู้บริโภคคนไทยยังคุ้นชินกับน้ำผลไม้สำเร็จรูป ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของกล่อง UHT หรือน้ำผลไม้สดๆ ตามตลาด แต่น้ำผลไม้กลุ่มนี้ที่มีการใช้ความร้อนในการผลิต ก็จะมีจุดอ่อนตรงที่วิตามินจะถูกทำลายไป และอาจจะมีการใส่น้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวานให้น้ำผลไม้ในขณะที่บางแบรนด์อาจจะไม่ได้เน้นเรื่องความสะอาด ทำให้มีเชื้อโรคเจือปนอยู่เยอะ
ทีนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเริ่มมีตลาดของ “น้ำผลไม้สกัดเย็น” หรือ Cold-Pressed Juice ซึ่งเป็นกระบวนการที่นำผัก หรือผลไม้เข้าเครื่องสกัดเย็น เพื่อให้ได้น้ำออกมา โดยที่จะไม่มีการใช้ความร้อนในการผลิตเลย เรียกได้ว่าตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ เพราะได้วิตามินของผลไม้ครบถ้วน อีกทั้งยังรับประทานสะดวก เหมาะสำหรับคนที่อยากทานผักผลไม้ แต่เร่งรีบ ไม่มีเวลาหาซื้อ
ในตลาดจึงได้เห็นแบรนด์น้ำผลไม้สกัดเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งแบรนด์ใหญ่ที่ลงมาจับตลาด หรือแบรนด์ SME ที่ขอมีส่วนร่วมในตลาดด้วยเช่นกัน
ทาง Positioning ขอพาไปรู้จักกับแบรนด์ BEEP โดย บริษัท เฟรชเชอร์ คิทเช่น จำกัด ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำผักผลไม้สกัดเย็นที่ตั้งใจสร้างกลุ่มตลาดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนของน้ำผักผลไม้สกัดเย็น ด้วยการนำเสนอสินค้าในระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมกับนวัตกรรม HPP ซึ่งเป็นกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยแรงดันน้ำมหาศาลแทนการใช้ความร้อน จะช่วยล็อคความสดและวิตามินของน้ำผลไม้สกัดเย็น ได้รสชาติเหมือนผลไม้จริงๆ ซึ่งทำตลาดมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว
ความน่าสนใจของแบรนด์นี้อยู่ที่ Passion ของกลุ่มผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน แต่รวมกลุ่มกันสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพ รวมถึงความใส่ใจในกรรมวิธีการผลิต เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุด
เสกสรร ครองพาณิชย์ ผู้บริหารแบรนด์ BEEP ได้เริ่มเล่าว่า
“แบรนด์ BEEP เกิดจากการก่อตั้งของกลุ่มเพื่อนซึ่งแต่ละคนมีความถนัดของตัวเองเช่น ผู้ผลิต และจำหน่ายอาหารเด็ก, อาจารย์,นักโภชนาการบางคนมีธุรกิจครอบครัวของที่บ้าน แต่มารวมตัวกันเพราะมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพเหมือนๆกัน โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากหนึ่งในผู้บริหารไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์แล้วได้ไปลองดื่มน้ำแอปเปิ้ล พบว่ารสชาติน้ำแอปเปิ้ลดีมาก สด เหมือนกับกินจากผลแอปเปิ้ลจริงๆ ไม่เหมือนน้ำแอปเปิ้ลแบบที่เคยดื่มทั่วไป เลยกลับมาคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยได้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลเหมือนที่ได้ไปลองดื่มที่ประเทศนิวซีแลนด์ และต้องมีสารอาหารที่ครบถ้วนด้วย”
จากนั้นได้ทำการศึกษาตลาดทั้งในไทย และต่างประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา และยุโรป พบว่าการทำน้ำผลไม้สกัดเย็นน่าจะตอบโจทย์การทำในรูปแบบนี้มากที่สุดทำให้ได้วิตามิน และรสชาติที่ดี แต่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เราแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่อยู่ในตลาดอยู่แล้ว เมื่อได้ศึกษาเพิ่มเติมพบว่าการใช้นวัตกรรม HPP (High Pressure Processing)สามารถช่วยล็อคคุณภาพของน้ำผลไม้สกัดเย็นได้ และทำให้เก็บได้นาน 30-45 วันจึงตัดสินใจลงทุนและนำมาใช้ในการผลิตน้ำผลไม้สกัดเย็นของ BEEP
ทางด้านของ พิชญาภา ชินภูติ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ได้กล่าวเสริมอีกว่า
“จากที่เราได้เริ่มศึกษาตลาดอย่างจริงจังพบว่า เทรนด์ในการดูแลสุขภาพมีเพิ่มมากขึ้น แต่คนไทยกลับกินผักน้อยลงเลยมาลองดูว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพ อีกทั้งประเทศไทยเป็นแหล่งเพาะปลูกผัก ผลไม้ชั้นดี น่าจะหาวัตถุดิบที่ดีได้เลยคิดว่าการทำเป็นน้ำผลไม้สกัดเย็นน่าจะตอบโจทย์ดีที่สุดโดยที่ชื่อแบรนด์ BEEP ก็มาจากคำว่า “บีบ” ที่ล้อจากการบีบผลไม้ตอนเข้าเครื่องสกัดเย็นนั่นเอง“
แรกเริ่มนั้น BEEP ได้เริ่มผลิตจากกลุ่มน้ำผลไม้สกัดเย็น100%ก่อน แล้วขยายไปยังกลุ่มอื่นๆ จนปัจจุบันมีสินค้าทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่
• Pure Juices คือ น้ำผลไม้สกัดเย็น 100% มี 5 รายการ ได้แก่ ส้ม, แอปเปิ้ล, แตงโม, มะพร้าว และทับทิม
• Nutri-Blends คือ น้ำผักผสมผลไม้สกัดเย็น ที่ใช้ผักผลไม้กว่า 10 ชนิดมาผสมกันใน 1 ขวด มี 3 รายการ Beta Glow, Green Dream และ Red Ruby
• Nutri-Shots คือ น้ำผลไม้เข้มข้นในรูปแบบช็อต 70 ม.ล. คัดเลือกผักและผลไม้ซูเปอร์ฟรุตมาเป็นส่วนผสมหรือผลไม้ที่มีน้ำน้อยจะมีความเข้มข้น มี 6 รายการได้แก่ Ginger Sunrise, Beauty, Ginger, Healing, Mangosteen และ Reboot
• Nut Milk คือ นมสกัดเย็นจากพืชตระกูลถั่ว ตอนนี้มี 1 รายการ ได้แก่ นมอัลมอนด์สกัดเย็น
สร้างจุดแข็งด้วยนวัตกรรม HPP รายแรกในไทย ยืดอายุได้ 30-45 วัน
เมื่อ 3 ปีก่อนที่จะลงทุนสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง ได้มีการศึกษาตลาดก่อนว่าต้องทำอย่างไรบ้าง จากนั้นได้ตัดสินใจลงทุนนำนวัตกรรม HPP มาใช้กับน้ำผลไม้สกัดเย็น และสร้างโรงงานด้วยงบลงทุน 50 ล้านบาท เสกสรรบอกว่า “เมื่อคิดลงทุนสร้างโรงงานเกี่ยวกับของกินแล้ว โรงงานจะต้องได้มาตรฐานที่ดี และต้องเต็มที่กับทุกขั้นตอน”
แบรนด์ BEEP ตั้งใจที่จะสร้างกลุ่มตลาดใหม่ขึ้นมา นั่นคือน้ำผลไม้สกัดเย็นแบบพรีเมี่ยมด้วยนวัตกรรม HPP จึงเป็นน้ำผลไม้สกัดเย็นรายแรกที่ใช้นวัตกรรม HPP (High Pressure Processing) ในการผลิตซึ่งเป็นการใช้แรงดันน้ำมหาศาลในการฆ่าเชื้อแทนความร้อน ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ลดลงสามารถเก็บสินค้าได้นานขึ้นถึง 30-45 วัน โดยที่กลิ่น และรสชาติยังคงเดิมทำให้สินค้าคงคุณภาพได้ยาวนานขึ้น
เรียกว่าสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด เข้ามาอุดจุดอ่อนของน้ำผลไม้สกัดเย็นที่ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ได้เพียงแค่ 3-5 วันเท่านั้น และได้เปิดตัวด้วยแคมเปญ “Secret from the Deep ความลับจากความลึก” ที่เป็นการสื่อสารเชิงเปรียบเทียบกระบวนการผลิตด้วยแรงดันน้ำมหาศาล 600 Megapascal ด้วยการพูดถึงสถานการณ์จำลองในระดับความลึก 65,496 เมตร เพื่อให้เห็นภาพ และเข้าใจได้ง่ายขึ้น และคุณประโยชน์ของนวัตกรรม HPP จึงเกิดเป็นสโลแกนที่ตอกย้ำความเข้มแข็งของแบรนด์และจำได้ง่ายคือ “BEEP HPP Cold-Pressed”
อีกหนึ่งความโดดเด่นของแบรนด์ BEEP ก็คือกระบวนการผลิตที่สะอาด อัดแน่นด้วยคุณภาพทุกขวด ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยการรับซื้อสินค้าจะต้องรับจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกที่ดี (GAP : Good Agricultural Practices) หรือเป็นผักผลไม้ที่ปลอดสารเท่านั้น
โดยอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ทาง BEEP ให้ความใส่ใจมากที่สุดคือ “การล้างผักและผลไม้” ก่อนที่จะเข้าเครื่องสกัดเย็น ซึ่งขั้นตอนการล้างจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าไม่มีอะไรเจือปนหรือสารตกค้างอยู่ มีการล้างถึง 3 ขั้นตอน ได้แก่ ล้างน้ำเปล่า, ล้างด้วยโอโซน และล้างด้วยอัลต้าโซนิก จากนั้นจึงส่งเข้าไปกระบวนการสกัดเย็นบรรจุขวดและฆ่าเชื้อด้วยนวัตกรรม HPP
ราคาต้องเข้าถึงได้
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน น้ำผลไม้สกัดเย็นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก และยังเป็นวิธีการผลิตน้ำผลไม้แบบใหม่ ที่ยังคงรักษาวิตามินของผลไม้ไว้ได้ ทำให้หลายๆแบรนด์ตั้งราคาขายไว้สูงกว่าน้ำผลไม้ทั่วไปในท้องตลาด
สำหรับแบรนด์ BEEP มีจุดมุ่งหมายที่อยากจะให้คนไทยได้รับสิ่งที่มีประโยชน์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย BEEP จึงตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 75 บาท ไปจนถึง 155 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในตลาด โดยที่สามารถเก็บได้นานกว่าด้วย
โดยที่กลุ่ม Nutri-Shots ราคา 75 บาท กลุ่ม Nutri-Blends ราคา 95 บาท นมอัลมอนด์ราคา 135 บาท ส่วน Pure Juice จะมีราคาที่ต่างกัน แตงโม, มะพร้าวราคา 75 บาท ส้ม, แอปเปิ้ลราคา 85 บาท สำหรับทับทิมมีราคาสูงที่สุดที่ 155 บาท เพราะใช้ทับทิมอินเดียเป็นวัตถุดิบ
เสกสรรบอกว่า “เราอยากให้ BEEP เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถเข้าถึงและเลือกซื้อได้ง่ายเลยตั้งราคาเริ่มต้นไม่ถึง 100 บาท พร้อมกับนำเสนอน้ำผักผลไม้สกัดเย็น HPP ที่มีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบแต่อยากดูแลสุขภาพให้ดีด้วย”
อยาก Disrupt น้ำผลไม้สำเร็จรูป
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BEEP ได้ให้น้ำหนักกับการวิจัยและพัฒนาสินค้าอย่างมาก รวมถึงการลงทุนในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการผลิต โดยไม่ได้ทำการตลาดหรือสร้างแบรนด์เท่าไหร่นัก แต่ในปีนี้ BEEP จะโฟกัสที่การสร้างแบรนด์มากขึ้น โดยขอเป็นอีกหนึ่งแบรนด์น้ำผลไม้ที่เข้าไปอยู่ในครัวเรือนของทุกคน!
“กลุ่มเป้าหมายหลักของเราจะเป็นคนเมืองที่รักสุขภาพ แต่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบในการทำงานและไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลสุขภาพมากนัก ซึ่งจริงๆแล้วน้ำผลไม้สกัดเย็นของเราสามารถดื่มได้ทุกเพศ ทุกวัย ทำให้เป้าหมายต่อไปที่อยากเข้าไป Disrupt คือ ตลาดน้ำผลไม้สำเร็จรูป เราอยากเปลี่ยนคนที่ดื่มน้ำผลไม้แปรรูปให้ดื่ม BEEP มากขึ้น อยากให้มี BEEP อยู่ในตู้เย็นของทุกบ้าน”
แต่ด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็นก็ยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นความท้าทายของการทำตลาดจึงไม่ใช่แค่การสร้างแบรนด์อย่างเดียว แต่เป็นการ Educate ตลาดว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นแตกต่างจากน้ำผลไม้สำเร็จรูปอื่นๆ อย่างไร รวมถึงอธิบายว่านวัตกรรม HPP มีประโยชน์อย่างไร
“ตอนนี้ความท้าทายที่สุดอยู่ที่การสื่อสารกับผู้บริโภคว่า Cold-Pressed และ HPP คืออะไร หลายคนยังไม่เข้าใจต้องสร้างความเข้าใจว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นแตกต่างจากน้ำผลไม้คั้นสดที่เห็นตามท้องตลาดอย่างไร ซึ่ง BEEP มีกระบวนผลิตที่ได้รับมาตรฐานตั้งแต่การคิดสูตรจากนักโภชนาการ การรับวัตถุดิบจากฟาร์มกระบวนการล้าง 3 ขั้นตอนการสกัดเย็นที่จะได้วิตามินครบถ้วนและการฆ่าเชื้อด้วยนวัตกรรม HPP ทำให้คงคุณค่าสารอาหารและยืดอายุได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการตรวจคุณภาพในทุกการผลิต รวมถึงมาตรฐานการผลิตต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า น้ำผลไม้สกัดเย็น BEEP สะอาด มีคุณภาพ แตกต่างจากน้ำผลไม้ทั่วไปจริงๆ”
ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตที่ 30% มีการใช้งบการตลาดเยอะขึ้น และขยายช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้นปัจจุบันมีจำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ตามโมเดินเทรดต่างๆ ได้แก่ กรูเมต์ มาร์เก็ต, วิลล่า มาร์เก็ต, ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต, โกลเด้นเพลส, เซเว่นฯ บางสาขา และร้านอาหาร คาเฟ่ รวมแล้วตอนนี้มีวางจำหน่าย 50 กว่าสาขาทั่วประเทศ
ในส่วนของช่องทางออนไลน์สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางเว็บไซต์, ไลน์, และไลน์แมน หรือแกร็บ โดยมีสัดส่วนรายได้จากออฟไลน์ 80% และออนไลน์ 20% นอกจากนี้ยังมีแผนในการออกสินค้าใหม่เพิ่มเติมในกลุ่มของ Nut Milk และ Nutri-Blends รวมถึงออกสินค้า Seasonal Juice เช่น น้ำโทงเทงฝรั่ง น้ำมะเฟือง และสินค้าพิเศษตามเทศกาล เช่น วันวาเลนไทน์ เป็นต้น
โดยที่เสกสรรได้ทิ้งท้ายถึงการสร้างแบรนด์ และการทำธุรกิจในยุคนี้ไว้ว่า “ถ้าเราชอบอะไรให้เริ่มจากการศึกษาธุรกิจให้ดีแล้ว ลงมือทำได้เลยไม่ต้องคิดเยอะ เพราะไม่ว่าเราตัดสินใจเลือกทางไหน ทุกทางจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน แต่ว่าเราต้องเรียนรู้เพื่อที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้ได้ และที่สำคัญคือการมีพาร์ทเนอร์ที่ดีจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้”
BEEP เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ SME ที่เกิดจากกลุ่มคนที่มีความชอบ และ Passion เดียวกัน ตั้งใจศึกษาลงมือทำจนสำเร็จ กลายเป็นสินค้าที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งให้อยู่เหนือตลาดได้ดีอีกด้วย
