ไม่ต้องสะสม

บิ๊กซีลงทุนเนรมิตบริเวณหน้าห้างฯ บนถนนราชดำริ ให้สะดุดตาคนที่เดินผ่านไปมาด้วยบรรยากาศแห่งมายากล ในการเปิดตัว “BigCard” จัดได้ว่าเป็น Loyalty Card ใบล่าสุดของห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งต่างพากันนำ Loyalty Card มาใช้มัดใจลูกค้าในมือ

เมื่อมาทีหลังคู่แข่งอย่าง เทสโก้ โลตัส เดอะมอลล์ คาร์ฟูร์ จึงต้องพยายามเสนอสิทธิพิเศษในการใช้บัตรที่ต้องแตกต่างและโดนใจลูกค้ามากกว่า ด้วยคูปองส่วนลด คืนเงินทันที 5 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 500 บาท

“เนื่องจากผลสำรวจพบว่า โปรโมชั่นลดราคานั้นเป็นอันดับหนึ่งที่นักช้อปชื่นชอบมากที่สุด ตามมาด้วยความรวดเร็วสะดวกสบายในการใช้โปรโมชั่น” จริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) อธิบาย

จริยา คาดหวังว่า Loyalty Card จะช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าไม่ให้เปลี่ยนใจไปช้อปในห้างคู่แข่ง เพราะทุกวันนี้ที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า หรือ Trade Area ในตัวเมืองก็อยู่ใกล้กัน ส่งผลให้การแข่งขันยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้น และจากนี้ 3 เดือนคาดหวังว่าจะมีการใช้บัตรอย่างสม่ำเสมอคิดเป็น 50% ของบัตรทั้งหมดและมีรายได้ที่มาจากบัตรคิดเป็น 25% และหวัง 50% ภายในสิ้นปีหน้า

“เราต้องการเพิ่มยอดสมาชิกให้ถึง 5 ล้านบัตรภายในสิ้นปีนี้ โดยระบบ CRM จะเห็นผลสำเร็จได้ ฐานข้อมูลต้องมีความพร้อมด้วย ซึ่งบิ๊กซีลงทุนกับระบบมานานกว่า 3 ปี ใช้เงินประมาณ 300 ล้านบาท
ตามปกติแล้วลูกค้าบิ๊กซีจะใช้จ่ายอยู่ที่ 1.8-2 ครั้งต่อเดือน เมื่อมี BigCard คาดว่าจะกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ครั้ง ต่อเดือน มียอดเฉลี่ยการช้อป 500 บาท/คน/ครั้ง ซึ่งมีผู้ที่ใช้จ่ายอยู่ในช่วง 300-500 บาท คิดเป็น 40% ของลูกค้าทั้งหมด โดยในกลุ่มนี้บิ๊กซีต้องการกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 500 บาท และลดจำนวนผู้ใช้จ่ายต่ำกว่า 500 บาทให้ลงเหลือ 25%

ทั้งนี้ บิ๊กซีใช้งบการตลาดเปิดตัว 50 ล้านบาท แบ่งเป็น TVC 30% ที่เหลือใช้ในโฆษณาหนังสือพิมพ์ สื่อนอกบ้าน ใบปลิว บิลบอร์ด รวมทั้งจัดคาราวานออกบัตรตามหมู่บ้านและออฟฟิศต่างๆ ใน กทม. และ Website ซึ่งมีสมาชิกกว่า 200,000 คน รวมทั้งใช้ Direct Marketing เสริมอย่าง E-mail และ SMS ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วย

ทั้งนี้ คูปองส่วนลดคิดเป็น 1% ของเงินที่ใช้จ่ายซื้อสินค้า นอกเหนือจากโปรโมชั่นลดราคาสินค้า ซึ่งมีสัดส่วน 15-20% ซึ่งบิ๊กซี เชื่อว่า จะลดข้อจำกัดบางอย่างที่มีบนบัตรใบเดิมอย่างบัตรช้อปโทรฟรีหรือบัตรบิ๊กโบนัสซึ่งมียอดสมาชิกเดิมประมาณ 3 ล้านคน

สำหรับสินค้าจำพวกอาหารยังคงครองอันดับหนึ่งในหมวดหมู่สินค้าทั้งหมดของบิ๊กซี หรือคิดเป็น 55% ของสินค้าทั้งหมด และ BigC Brand ซึ่งเป็นเฮาส์แบรนด์ ที่มีสินค้าอยู่ 200-300 รายการ ครองสัดส่วนรายได้ 5% ที่เหลือเป็นสินค้าทั่วไปที่ใช้ในบ้าน ซึ่งมีสัดส่วนลดลง เพราะลูกค้าหันไปเพิ่มการใช้จ่ายไปอยู่ในส่วนอาหารประมาณ 3-4%

แบรนด์

Loyalty Card

Promotion

สาขา/จำนวนสมาชิกของ Hypermarket

BigC

Big Card

คืนเงิน 5 บาท เมื่อช้อปตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป และเพิ่มเงินให้ 5 บาท เมื่อซื้อบัตรศูนย์อาหาร 100 บาทที่ฟู้ดคอร์ต

67 สาขา /3 ล้านบัตร

Tops

Spot Rewards Card

ซื้อสินค้าราคาพิเศษ และเสนอโปรโมชั่นส่วนตัวโดยใช้ Personal Shopping List

62 สาขา/1.5 ล้านบัตร

Carrefour

Carrefour I Wish

สะสมแต้มอัตโนมัติทุกๆ 500 บาทควบคู่โปรโมชั่นสำหรับสมาชิกทุกเดือน

38 สาขา/1.3 ล้านบัตร

Tesco Lotus

Club Card

ทุกการใช้จ่าย 2 บาท รับ 2 แต้ม ทุก 1000 แต้มมีมูลค่า 10 บาท ซึ่งจะได้ในรูปคูปองเงินสดทุก 3 เดือน เพื่อนำมาซื้อสินค้าในเครือ Tesco Lotus

600 สาขา/4 ล้านราย

Central (Zen, Robinson)

The 1 Card

สะสมแต้มจากการซื้อสินค้าและรับสิทธิพิเศษในช็อปที่ร่วมรายการ

The Mall (The Emporium, Siam Paragon)

M Card

เป็นบัตรส่วนลดและสะสมคะแนน และเข้าสวนน้ำฟรีที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา