ส่องการปรับตัวของ ‘Pokemon Go’ ที่รายได้ยัง ‘พุ่ง’ แม้คนออกไปล่าโปเกมอน ‘นอกบ้าน’ ไม่ได้

ในช่วงวิกฤติ โควิด-19 (Covid-19) นี้ ประชาชนจำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัส แน่นอนว่าต้องอยู่แต่บ้าน เลยต้องหาอะไรทำแก้เบื่อ และหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตคงหนีไม้พ้น ‘เกม’ ที่ตอนนี้มีเปิดให้เล่นฟรีมากมายเพื่อให้คนอยู่ติดบ้าน แต่ก็มีบางเกมที่โดนผลกระทบจาก Covid-19 อย่าง ‘Pokemon Go’ ของ Niantic ที่ต้องออกไปนอกบ้านเพื่อจับโปเกมอน อย่างในสเปนมีชายวัย 77 ปี ถูกปรับเพราะออกจาบ้านเพื่อล่า Pokemon

Pokemon Go เป็นเกมที่สร้างขึ้นจากแนวคิดที่อยากให้ผู้คนออกไปออกกำลังกายและพบปะกับผู้อื่น ในขณะที่พยายามจับโปเกมอน แต่จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ การออกจากบ้านคงเป็นไปได้ยาก แน่นอนว่า หาก Niantic ไม่ทำอะไรสักอย่าง แฟน ๆ โปเกมอนคงจะต้องอดเล่นเป็นแน่ และรายได้ก็คงจะหดตามไปด้วย

ดังนั้นเหล่านักพัฒนาของ Niantic จึงต้องเปลี่ยนแปลงกลไกของเกมเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องก้าวออกมาจากบ้าน โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาผู้พัฒนาของ Niantic ได้เปิดเผยการปรับเปลี่ยนกลไกเกมบางอย่างที่ทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การเล่น Pokemon Go สำหรับผู้เล่นในช่วงที่ไม่มีกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถค้นหาสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายดายในขณะที่เล่นในสถานที่ใกล้กับบ้านของพวกเขา

รวมถึงปรับปรุงคุณสมบัติ Adventure Sync เพื่อให้ผู้เล่นสามารถฟักไข่ได้ในที่พัก ที่ไม่ว่าจะทำความสะอาดพื้นหรือวิ่งบนลู่ ก็จะนับก้าวให้ นอกจากนี้ Niantic กำลังปรับปรุงคุณลักษณะทางสังคมเสมือนของ Pokemon Go เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นติดต่อกับเพื่อน ๆ โดยไม่ต้องพบเจอจริง และเข้าร่วมการแข่งขันโดยไม่ต้องออกจากบ้าน

และสุดท้าย Niantic กำลังวางแผนที่จะปรับแต่งกิจกรรมในเกมที่สามารถดำเนินการต่อได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก “วิธีใหม่ในการเพลิดเพลินไปกับ Pokemon Go” และจะแบ่งปันรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในไม่ช้า นอกจากนี้ ในส่วนของไอเทมต่าง ๆ มีการปรับลดราคาลงถึง 99% รวมถึงลดระยะเวลาการฟักไข่ลง โดยผู้เล่นสามารถฟักไข่ได้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าด้วยการเดินในระยะทางเดียวกับที่เคยใช้

เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะแม้ว่าคนส่วนใหญ่ต้องลดกิจกรรมกลางแจ้งและพักอยู่ในบ้าน แต่ Niantic ก็มีรายได้ที่ดีจาก Pokemon Go โดยในสัปดาห์ที่ 16 มีนาคม บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 23 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66.67% จากสัปดาห์ก่อนตามข้อมูลของ Sensor Tower

รายได้ทีเพิ่มขึ้น อาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในเกมของ Pokemon Go เพื่อให้มีความเป็นท้องถิ่นมากขึ้นและ ขณะที่คนมีเวลลาว่างมากขึ้น เลยทำให้คนมีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้นแม้ว่าพวกเขาจะอยู่แต่ในบ้านก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่ได้พูดถึงผลกระทบจาก COVID-19 ว่าส่งผลต่อยอด Active ของ User อย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ Pokémon Go เคยทำรายได้สูงถึง 832 ล้านเหรียญเมื่อตอนเปิดตัว และในปี 2017 กลับทำรายได้เพียง 589 ล้านเหรียญเท่านั้น แต่ในปี 2018 ก็สามารถทำรายได้กลับมาที่ 816 ล้านเหรียญ และในปี 2019 มีรายได้แตะ 900 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Niantic มีความสามารถในการปรับตัว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตินี้ก็ยังสามารถสร้างการเติบโตให้กับรายได้ได้

Source