นายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้า อิชิโร มัตซุย (Ichiro Matsui) ถูกตำหนิอย่างรุนแรงหลังจากเขาออกความเห็นว่าควรให้ผู้ชายออกไปซื้อของใช้ภายในบ้านมากกว่า เพราะผู้หญิงมักใช้เวลานานกว่าในร้านท่ามกลางสถานการณ์การระบาดโรคไวรัส COVID-19
CNN รายงานว่า ในการแถลงข่าว COVID-19 ที่เมืองโอซาก้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศในวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับคนจำนวนมากหลังจากนายกเทศมนตรีของเมือง อิชิโร มัตซุย (Ichiro Matsui) ออกมาใช้คำพูดเชิงดูหมิ่นทางเพศว่า เห็นสมควรให้ผู้ชายออกไปหาซื้อเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ร้านมากกว่า เนื่องจากผู้หญิงใช้เวลามากกว่าเมื่ออยู่ภายในร้าน ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นที่ต้องการจำกัดฝูงชนภายในร้านค้าระหว่างวิกฤตโรคระบ่าด
“ผู้หญิงมักใช้เวลาที่ยาวนานกว่าในร้านขายของชำ เป็นเพราะเธอเหล่านั้นมักจะสำรวจสินค้าประเภทต่างๆ และชั่งใจว่าจะซื้อสิ่งไหนดีเพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด”
และเสริมว่า “ขณะที่ผู้ชายจะตรงเข้าไปหยิบสิ่งที่ต้องการในซูเปอร์มาร์เก็ตและจะไม่ใช้เวลานานในนั้น ซึ่งนั้นสามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น”
เวิลด์แบงก์ระบุว่า สตรีคิดเป็น 51% ของประชากรญี่ปุ่นทั้งหมด และอ้างอิงจากดัชนีช่องว่างทางเพศ (gender gap index) ของเวิลด์อิโคโนมิกฟอรัมพบว่า ญี่ปุ่นอยู่ในลำดับที่ 110 จากทั้งหมด 149
หลังจากนายกเทศมนตรีโอซาก้าแสดงความเห็นแล้วทำให้นักข่าวหญิงญี่ปุ่น โชโกะ เอกาวา (Shoko Egawa) ออกมาสวนผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “คนที่ไม่รู้เรื่องในชีวิตประจำวันดีพอไม่สมควรจะออกมาแสดงความเห็น”
และมีคนกว่า 3,000 คนได้ร่วมรีทวิตข้อความของนักข่าวหญิง และหนึ่งในนั้นแสดงความเห็นว่า “บางทีมัตซุยอาจไม่เคยไปซื้อของด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ” และคนอื่นแสดงความเห็นว่า โศกนาฏกรรมของญี่ปุ่นคือ การมีนักการเมืองเช่น นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ และรองนายกฯ ทาโร อาโซะ (Taro Aso) ที่ออกมายอมรับว่าไม่เคยรู้เรื่องในชีวิตประจำวันเลย