ด้วยพิษเศรษฐกิจ รวมถึงเทรนด์รักษ์โลกที่มาแรง ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจเครื่องพิมพ์ไทยในปีที่ผ่านมายังทรงตัว แต่มาปีนี้ก็เจอกับวิกฤติ COVID-19 อีก ส่งผลให้ยอดขายคู่ค้าพันธมิตรของ บราเดอร์ ในไตรมาสแรกหายไปถึง 60% แต่งานนี้บราเดอร์ไม่ขอพูดถึงยอดขาย หากเเต่ขอโฟกัสที่จะทำอย่างไรให้ทั้งบริษัทและพันธมิตร สามารถเดินหน้าต่อไปได้
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพราะผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลให้ยอดขายได้มาสแรกในส่วนของคู่ค้าพันธมิตร โดยเฉพาะที่มีหน้าร้านในห้างฯ คาดว่ายอดขายลดลงกว่า 60% แต่โดยรวมยอดขายลดลงประมาณ 20% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ และในเดือนเมษายนที่ผ่านมาสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยยอดขายของพันธมิตร ตกลงกว่า 50% ขณะที่รวมทุกช่องทางการขายลดลง 15%
ทั้งนี้ ที่ยอดขายตกลงน้อยกว่าที่คาด มองว่าเป็นเพราะตลาดต่างจังหวัดไม่ได้กระทบหนักเท่ากรุงเทพฯ เนื่องจากมีร้านที่ไม่ได้อยู่ในห้าง อีกทั้งการ Go Online ของร้านค้าก็ได้รับการตอบรับที่ดี บางร้านสามารถเติบโตได้กว่า 10 เท่า นอกจากนี้ ตลาดองค์กรก็เติบโตขึ้น 16% ซึ่งเป็นผลจากการ Work from Home โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กและเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นขนาดเล็กที่ขายดี ขณะที่โมเดลเช่าใช้ก็มาแรง โดยทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคและธุรกิจยังมีการใช้จ่ายเงินลงทุนด้านไอที
ที่น่าสนใจคือ เทรนด์การใช้หน้ากากผ้ามาแรงจนสินค้าอย่าง จักรเย็บผ้า ขายดีจนสินค้าไม่พอขายตั้งแต่มีนาคมจนถึงเมษายน ต้องนำเข้าจากตลาดในต่างประเทศ โดยตอนนี้มีประเทศเวียดนามที่กำลังขายดีเหมือนกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม มองว่าแม้จะหมดช่วง COVID-19 แต่ความต้องการก็จะยังไม่ตก เนื่องจากมากว่าการใส่หน้ากากจะกลายเป็น New Normal ในอนาคต
“เรื่องการปรับเป้าเรามีการคุยกัน แต่เพราะไม่รู้สถานการณ์จะจบที่ไหน อาจจะรอให้จบไตรมาส 2 ค่อยมาประชุมอีกทีว่าจะปรับเป้าทั้งปีหรือไม่ แต่ตอนนี้เรายังใช้เป้าเดิมอยู่ คือ เติบโต 5% ส่วนการลงทุนของเรายังไม่มีการตัดงบอะไรออก แต่จะใช้ให้คุ้มค่าที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทมีนโยบาย ไม่พูดเรื่องยอดขายกับพันธมิตร เนื่องจากมองว่าสถานการณ์นี้ควรช่วยเหลือเพื่อให้ผ่านวิกฤตินี้ไปได้มากกว่า ดังนั้น บริษัทจึงมีการปรับกลยุทธ์ 3C ใหม่ โดยในส่วนของ 1.Channel Partner บริษัทมีการเข้าไปช่วยด้านต่าง ๆ อาทิ จัดคลาสสอนออนไลน์, ให้ทีมงานไปไลฟ์ผ่านชาแนลลูกค้า, ช่วยบริหารจัดการสต็อกสินค้า, ขยายเวลาการชำระเงิน และมีการเปิดเพจบราเดอร์มาร์เก็ตไว้เป็นช่องทางรวบรวมโปรโมชั่นต่าง ๆ ของพาร์ตเนอร์มาโปรโมตหน้าเพจเพื่อให้เขาขายของได้
2.Customer มีบริการรับ-ส่งถึงบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถติดต่อศูนย์บริการผ่านอีเมลและแชทได้ตลอด 7 วัน มีทำประกัน COVID-19 ฟรี เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,990 บาท ส่วนสุดท้าย 3.Company มีการปรับกระบวนการทำงานภายในให้ง่าย สะดวก รวดเร็ว มีการ Work from Home
“สิ่งสำคัญตอนนี้ไม่ใช่ยอดขาย แต่เป็นการทำให้พันธมิตรของเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ในส่วนของยอดขายบริษัทแม่เราก็เข้าใจ เพราะสถานการณ์แบบนี้ เราไม่ควรไปกดดันเรื่องยอดขาย”
ปัจจุบัน บราเดอร์มีดิสทริบิวเตอร์หลัก 3 ราย ได้แก่ เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น, ซินเน็ค, และวีเอสทีอีซีเอส ส่วนดีลเลอร์มีกว่า 500 ราย แอคทีฟกว่า 300 ราย โดยสัดส่วนรายได้ 30% เป็นองค์กรขนาดใหญ่ จากเดิมมีสัดส่วน 20% ส่วนอีก 70% ได้แก่ ลูกค้าทั่วไป, เอสเอ็มอี และโซโห
“วิกฤตินี้คงอยู่กับเราอีกนาน คงไม่ได้หายไป 100% ดังนั้นจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปแน่นอน โดยเฉพาะการเดินห้างหรือกิจกรรมที่ต้องเจอคนหมู่มาก เราจะกังวลมากขึ้น และจากนี้คงจะใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น”